วันพฤหัสบดี, กรกฎาคม 10, 2025
หน้าแรกคอลัมนิสต์สันติ ตั้งรพีพากร 陈俊泰การชุมนุม “จะก่อเกิดสภาปชช.”ขยายตัวเติบใหญ่ “อย่างรวดเร็ว”“ดั่ง” เห็ดหลังฝน ไฟลามทุ่ง

Related Posts

การชุมนุม “จะก่อเกิดสภาปชช.”ขยายตัวเติบใหญ่ “อย่างรวดเร็ว”“ดั่ง” เห็ดหลังฝน ไฟลามทุ่ง

“….ประเทศไทยตกอยู่ในการครอบงำของกลุ่มทุน ที่ถือเอาผลประโยชน์ตนเป็นสรณะ ดำเนินการบริหารประเทศอย่างต่อเนื่อง เหนือกว่ากลุ่มอำนาจอื่นๆทั้งเก่าและใหม่ เป็นผลทำให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศอ่อนแอ ไม่พัฒนาเท่าที่ควร จนกระทั่งถึงทางตัน เมื่อปรากฏว่ากลไกของระบอบประชาธิปไตยทุนนิยมเลือกตั้งเป็นอัมพาต ไม่สามารถคัดกรองคุณสมบัติของผู้เข้าทำหน้าที่บริหารประเทศได้ โดยเฉพาะการทุจริตโกงกินที่รุนแรงเกินแก้ ทำให้อำนาจใหม่ในรูปขบวนการการเมืองภาคประชาชนพัฒนาเติบใหญ่อย่างต่อเนื่องและก้าวขึ้นมาเป็นคู่ขัดแย้งหลักกับอำนาจกลุ่มทุนในรูปพรรคการเมืองเลือกตั้ง การชุมนุมของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินเมื่อวันเสาร์ที่28 มิถุนายนที่ผ่านมาและที่กำลังจะเกิดขึ้นดุจดอกเห็ดหลังฝนหรือไฟลามทุ่ง จะนำไปสู่การเกิดขึ้นของสภาประชาชนอย่างเต็มรูป การเมืองของประเทศไทยนับแต่นี้ไป จะมีแต่ขบวนการการเมืองภาคประชาชนเท่านั้นที่แสดงบทบาทนำ คือสภาประชาชนในระบอบประชาธิปไตยประชาชนอัตลักษณ์ไทย ซึ่งมีแนวโน้มจะขยายตัวเติบใหญ่อย่างรวดเร็วดุจเห็ดหลังฝนหรือแบบไฟลามทุ่ง และในที่สุดก็จะผงาดขึ้นมาเป็นด้านหลักเหนืออำนาจพรรคการเมืองกลุ่มทุน อยู่ในฐานะเป็นอำนาจกำหนดการขับเคลื่อนประเทศไทยต่อไป…”

เห็ดหลังฝน ไฟลามทุ่ง 雨后春笋 星火燎原

ค้วยเครื่องมือวิเคราะห์ “จากการสะสมทางปริมาณสู่การแปรเปลี่ยนทางคุณภาพ” และ”จากปรากฏการณ์เข้าถึงแก่นแท้ จากแก่นแท้สร้างปรากฏการณ์” ต่อไปนี้คือภาพที่ผู้เขียนจะบรรยาย

ประเทศไทยมิได้หยุดนิ่งเฉย เมื่อเดินทางถึงทางตันด้วยระบอบประชาธิไตยทุนนิยมเลือกตั้งเป็นเหตุ จึงได้เกิดความพร้อมในการสลัดทิ้งคราบเก่าแล้วแตกตัวออกเป็นร่างใหม่ที่สดใสแข็งแกร่ง โผนทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้ากว้าง โบยบินอย่างเสรี

จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์นี้ ในสายตาผู้เขียนก็คือการจับมือกันของคุณสนธิ ลิ้มทองกุล กับคุณจตุพร พรหมพันธุ์เมื่อวันที่25พฤษภาคมที่ผ่านมา

มันเป็นปรากฏการณ์ที่สะท้อนแก่นแท้ของจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการเมืองไทยที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศไทยในท่ามกลางกระแสสังคมโลกที่กำลังโลดแล่นไปสู่อนาคตอย่างรวดเร็วรอบด้านในยุคจีนนำ

แก่นแท้ที่ว่าก็คือ ประชาชนคนไทยทุกฝ่ายได้พร้อมใจกันแสดงตนเป็นเจ้าภาพ กำหนดทิศทางการเมืองของประเทศไทยให้ดำเนินไปตามครร ลองของระบอบประชาธิปไตยประชาชนอัตลักษณ์ไทยในรูปของสภาประชาชนที่เกิดจากความตื่นรู้ของประชาชนทุกระดับชั้นของสังคมไทย

อีกนัยหนึ่ง ธรรมชาติทางการเมืองการปกครองของประเทศไทย ได้ก้าวพ้นจากการขับเคลื่อนด้วยทุนของกลุ่มทุนและก้าวเข้าสู่การขับเคลื่อนด้วยภูมิปัญญาของคนไทยทั้งประเทศแล้ว

ปรากฏการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นแล้วเช่นการชุมนุมของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินเมื่อวันเสาร์ที่28 มิถุนายนที่ผ่านมาและที่กำลังจะเกิดขึ้นดุจดอกเห็ดหลังฝนหรือไฟลามทุ่ง ในรูปการรวมกลุ่มของมวลชนตื่นรู้ล้วนแต่มาจากการขับเคลื่อนของอำนาจกำหนดของประชาชนในรูปกลุ่มรวมพลังแผ่นดินทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ที่จะนำไปสู่การเกิดขึ้นของสภาประชาชนอย่างเต็มรูป

บนเวทีการเมืองของประเทศไทยนับแต่นี้ไป จึงจะมีแต่ขบวนการการเมืองภาคประชาชนในรูปสภาประชาชนเท่านั้นที่แสดงบทบาทนำ

จึงไม่ผิดที่จะบอกว่า การขับเคลื่อนทางการเมืองของประเทศไทยนับตั้งแต่วันที่25พฤษภาคม2568 ที่ได้ดำเนินมาเป็นขั้นๆ และจะดำเนินไปอย่างยั่งยืนด้วยพลังอำนาจความตื่นรู้ของปวงชนชาวไทยบนฐานการจัดตั้งสูงสุดคือสภาประชาชนในระบอบประชาธิปไตยประชาชนอัตลักษณ์ไทย

ซึ่งกำลังจะปรากฏขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในอัตราเร็วและเร่งที่ทั้งโลกต้องทึ่ง

กระบวนการเปลี่ยนแปลงข้างต้น ผู้เขียนขออนุญาตบรรยายเพิ่มเติมดังนี้

ในมุมมองของปรัชญาวัตถุนิยมวิภาษ ตามทฤษฎีว่าด้วยความขัดแย้ง เมื่อคู่ขัดแย้งหลักแปรเปลี่ยนไปเป็นอื่น คุณสมบัติของสิ่งนั้นก็เปลี่ยนไป

ประเทศไทยตกอยู่ในการครอบงำของกลุ่มทุน ที่ถือเอาผลประโยชน์ตนเป็นสรณะ ดำเนินการบริหารประเทศอย่างต่อเนื่องหลายสิบปี ครองฐานะเป็นด้านหลักของคู่ขัดแย้งซึ่งก็คือเหนือกว่ากลุ่มอำนาจอื่นๆทั้งเก่าและใหม่ เป็นผลทำให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศอ่อนแอ ไม่พัฒนาเท่าที่ควร จนกระทั่งถึงทางตัน เมื่อปรากฏว่ากลไกของระบอบประชาธิปไตยทุนนิยมเลือกตั้งเป็นอัมพาต ไม่สามารถคัดกรองคุณสมบัติของผู้เข้าทำหน้าที่บริหารประเทศได้

ในท่ามกลางวิกฤติต่างๆ โดยเฉพาะการทุจริตโกงกินที่รุนแรงเกินแก้ ทำให้อำนาจใหม่ในรูปขบวนการการเมืองภาคประชาชนพัฒนาเติบใหญ่อย่างต่อเนื่องและก้าวขึ้นมาเป็นคู่ขัดแย้งหลักกับอำนาจกลุ่มทุนในรูปพรรคการเมืองเลือกตั้ง

จากการสั่งสมทางปริมาณของความบกพร่องของระบอบประชาธิปไตยทุนนิยมเลือกตั้ง ที่ปรากฏแจ้งชัดไปแล้วทั้งในและต่างประเทศ ทำให้สังคมไทยสิ้นหวังและหาทางออกใหม่ที่ดีกว่า ที่สามารถนำพาประเทศชาติและประชาชนสร้างอนาคตอันสดใสได้อย่างแท้จริง อันเป็นการตื่นรู้ในเชิงคุณภาพครั้งใหญ่

ในท่ามกลางบรรยากาศเช่นนี้ โอกาสที่คนไทยโดยรวมจะตื่นตัวขึ้นมาและรวมตัวกันเข้าเป็นพลังอำนาจใหม่ในรูปแบบของขบวนการการเมืองภาคประชาชนเช่นกลุ่มรวมพลังแผ่นดินก็เป็นไปได้ไม่ยาก ซึ่งมีแนวโน้มจะขยายตัวเติบใหญ่อย่างรวดเร็วดุจเห็ดหลังฝนหรือแบบไฟลามทุ่ง และในที่สุดก็จะผงาดขึ้นมาเป็นด้านหลักเหนืออำนาจพรรคการเมืองกลุ่มทุน อยู่ในฐานะเป็นอำนาจกำหนดการขับเคลื่อนประเทศไทยต่อไป

เมื่อนั้น ประเทศไทยคุณสมบัติใหม่ในระบอบประชาธิปไตยประชาชนอัตลักษณ์ไทย ก็จะปรากฏแก่สายตาชาวโลก

ไขคำจีน
雨后 หวี่โห้ว หลังฝน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts