วันจันทร์, กรกฎาคม 28, 2025
หน้าแรกการเมืองเจรจาด่วนที่มาเลเซีย

Related Posts

เจรจาด่วนที่มาเลเซีย

โดย ทีมข่าว “สืบจากข่าว”

วันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ในห้วงเวลาแห่งความตึงเครียดที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ความเคลื่อนไหวล่าสุดจากรัฐบาลไทยคือการประกาศส่งคณะผู้แทนระดับสูงเข้าร่วมการหารือด่วนกับรัฐบาลกัมพูชา ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ในวันที่ 28 กรกฎาคมนี้ โดยมี “อันวาร์ อิบราฮิม” นายกรัฐมนตรีมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนเป็นเจ้าภาพ

รายชื่อคณะผู้แทนฝั่งไทย นำโดยนาย ภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยทีมระดับสูงจากกระทรวงการต่างประเทศ กลาโหม และทำเนียบนายกรัฐมนตรี กลายเป็นจุดสนใจในสังคมไทยทันที—แต่ไม่ใช่ในแง่ของความเชื่อมั่น หากแต่เป็น คำถามใหญ่ ที่กำลังลุกลาม:

ตัวแทนบนโต๊ะเจรจา คือรัฐบาลไทยแท้จริง หรือเป็น “ตัวแทนทักษิณ” ที่หวนคืนเงามาในการเมืองระหว่างประเทศ?

ใครเจรจา ในนามใคร?

หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า การนำโดย “ภูมิธรรม เวชยชัย” ซึ่งมีภาพลักษณ์ใกล้ชิดกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่เพิ่งพ้นโทษ และมีบทบาททางการเมืองอีกครั้งอย่างไม่เป็นทางการ—สะท้อนนัยสำคัญว่า “เกมการเจรจาชายแดน” อาจไม่ใช่แค่เรื่อง “อธิปไตย” เท่านั้น แต่คือ “การต่อรองอำนาจ” และ “ผลประโยชน์เชิงนโยบายระหว่างประเทศ” ระหว่างผู้นำสองตระกูลใหญ่

ข้อเสนอ-ข้อแลกเปลี่ยน บนโต๊ะหยุดยิง?

การเจรจาครั้งนี้มีเป้าหมายชัดคือ การหยุดยิงและนำสันติภาพกลับคืน แต่ประชาชนจำนวนมากกังวลว่า สิ่งที่อาจถูก “หยิบยื่น” แลกกับสันติภาพ อาจเป็นเรื่องใหญ่ระดับแผนที่เขตแดน ทรัพยากรธรรมชาติ หรือ “การนิรโทษกรรมทางการเมือง” แฝงเร้นในนามการเจรจาระหว่างรัฐ คำถามจึงตามมา

  • ไทยจะยอม “เปลี่ยนแผนที่อ้างอิง” จาก 1:50,000 เป็น 1:200,000 จริงหรือไม่?
  • จะมีข้อตกลงเรื่องพลังงานในอ่าวไทย ที่เปิดทางให้เอกชนต่างชาติเข้ามามีบทบาทหรือไม่?
  • จะมีเงื่อนไขทางการเมืองที่กระทบต่อความมั่นคงในระยะยาว?

แม้นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกรัฐบาล จะออกมาปฏิเสธข่าวลือเรื่องการยอมรับแผนที่ 1:200,000 ว่า “ไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย” แต่การที่ข่าวลือดังกล่าวมีต้นทางจาก “วงในทางการทูต” ก็ทำให้สังคมยังไม่คลายข้อกังขา

สังคมตั้งข้อเรียกร้อง ก่อนโต๊ะเจรจาจะเริ่ม

ในโลกออนไลน์และแวดวงวิชาการ ดังกระหึ่มข้อเสนอเชิงหลักการ 4 ประการต่อฝ่ายรัฐบาลไทย ก่อนที่ข้อตกลงหยุดยิงใดๆ จะเกิดขึ้น:

  1. ให้ฮุน เซน เปิดเผยรายชื่อผู้ที่เคย “ขายชาติ” ตามที่เคยกล่าวอ้างต่อสาธารณะ เพื่อแสดงความจริงใจและยืนยันว่ากัมพูชาไม่ได้มีเจตนาแทรกแซงกิจการภายในไทย

  2. ให้กัมพูชารับรองว่าจะไม่สมคบกับนักการเมืองไทย เพื่อหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติในเขตพิพาท เช่น พลังงานในอ่าวไทย

  3. ให้คงกำลังทหารสองฝ่าย ณ จุดปัจจุบัน โดยไม่มีการถอยหรือเคลื่อนกำลังฝ่ายเดียว อันจะนำไปสู่ความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์

  4. ให้กัมพูชารับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้ว ทั้งชีวิตและทรัพย์สินของทหาร-ประชาชนไทย รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานในเขตชายแดน

อาเซียนในบทบาท “เวที” หรือ “เวรกรรม”?

บทบาทของอันวาร์ อิบราฮิม ในฐานะประธานอาเซียนอาจถูกมองว่าเป็นความพยายาม “ปลดชนวน” ความขัดแย้งในภูมิภาค แต่ในทางกลับกัน หากไม่มีกรอบการเจรจาที่โปร่งใสและมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง การเจรจาอาจกลายเป็นเวทีลับที่เปิดทางให้กลุ่มอำนาจเก่ากลับคืน—ในนามของสันติภาพ

ประชาชนไทยไม่ได้คัดค้านสันติภาพ แต่ต้องการสันติภาพที่ไม่ถูกซื้อขายด้วยดินแดน น้ำมัน หรือศักดิ์ศรีของชาติ

เพราะหากการเจรจาเพื่อหยุดยิงวันนี้ คือการปูทางให้ใครบางคน “กลับคืน” โดยไม่ผ่านการตรวจสอบ

ประชาชนไทยก็อาจต้องแลกสันติภาพ ด้วยการเริ่มต้นสงครามบทใหม่กับความจริง

#สืบจากข่าว รายงาน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts