นอกจากการอออกมาเรียกร้องให้ยกเลิก MOU 43-44 เพื่อแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา อีกหนึ่งเรื่องที่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ผลักดันอย่างสุดตัวคือ สนับสนุนการสร้าง “กำแพง” ไม่ให้กัมพูชา ล้ำเขตแดนไทยได้อีกต่อไป
ในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 “ลุงป้อม” ยังหยิบยกแนวความคิดเกี่ยวกับการสร้างกำแพงกั้นประเทศ ซึ่ง พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เสนอแนวความคิดนี้ต่อสาธารณชน มาหารือในที่ประชุม

ในฐานะอดีตผู้บัญชาการทหารบก บิ๊กป้อมเดินทางไปบริเวณชายแดนเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568 รับฟังข้อเสนอจากอดีตผู้บัญชาการ และผู้บัญชาการกองทัพบกในปัจจุบัน ถึงแนวทางการสร้างกำแพงไทย-กัมพูชา ว่า..ทำได้แน่นอน
เป็นที่ทราบกันดีว่า เมื่อปี 2457 ได้มีการปักปันเขตแดนระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา โดยมีการทำหลักหินทั้งหมด 73 หลัก
เริ่มจากหลักที่ 1 ช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ ไปจนถึงหลักที่ 73 บ้านหาดเล็ก จังหวัดตราด
ซึ่งหลักศิลาเหล่านี้มี 4 ภาษาคือ ไทย กัมพูชา ฝรั่งเศส และ อังกฤษ

แนวความคิดของพลเอกประวิตร เห็นพ้องต้องกันกับพลโท บุญสิน คือบริเวณไหนมีหลักเขตชัดเจน และไม่มีปัญหาในการตีความเรื่องอาณาเขต สามารถสร้างรั้ว หรือ ถนน หรือ กำแพง ให้มั่นคงแข็งแรงและเป็นแนวกั้นระหว่างสองประเทศ พร้อมกับการอนุรักษ์หลักเขต ที่ถือว่าเป็นวัตถุโบราณสำคัญ เอาไว้ด้วยอีกส่วนหนึ่ง
“ลุงป้อม” เคาะงบประมาณเบื้องต้นเพื่อใช้ในการสร้างกำแพง ประมาณ 1 ถึง 3 หมื่นล้านบาท
เปรียบเทียบกับโครงการแจกเงินดิจิทัลของรัฐบาล เฟสแรก 1.4 แสนล้านบาท เฟส 2 แจกอีก 4 หมื่นกว่าล้าน และเฟส 3 รอแจกอีก 2 หมื่นกว่าล้าน
รวม 3 เฟส กว่า 2 แสนล้านบาท!
ถ้าใช้ 2 หมื่นล้านบาท สร้างกำแพง เท่ากับว่าใช้งบน้อยกว่าการแจกเงินดิจิทัล 10 เท่า!!
แต่ช่วยสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ของทหารและพี่น้องประชาชนคนไทย แบบเป็นรูปธรรม
พรรคพลังประชารัฐ จึงยืนยัน หนุนสุดตัว ขับเคลื่อนสร้างกำแพงประเทยไทย..ได้แน่นอน!
#สืบจากข่าว รายงาน