“จีนยืนยันการการค้นพบและพัฒนา ‘หนานไห่ จูเต่า’ ในทะเลจีนใต้ สอดคล้องกับหลักกฎหมายระหว่างประเทศ การได้มาซึ่งอธิปไตย เหนือดินแดนดังกล่าว ผ่านการค้นพบและเข้าครอบครอง การอ้างอธิปไตยของจีน เหนือหนานไห่ จูเต่า ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ในระดับนานาชาติ ซึ่งสอดคล้องกับหลักกฎหมายสากล ที่เรียกว่า..หลักปิดปาก”
เมื่อวันพฤหัสบดี 21 ส.ค. สถาบันซินหัว คลังสมองของสำนักข่าวซินหัว เผยแพร่รายงาน “พื้นฐานทางประวัติศาสตร์และกฎหมายเกี่ยวกับอธิปไตยเหนือดินแดนและสิทธิทางทะเลของจีนในทะเลจีนใต้” ระบุว่า อธิปไตยของจีน เหนือหนานไห่ จูเต่า หรือ หมู่เกาะทะเลจีนใต้ ตั้งอยู่บนรากฐานทางกฎหมายอันแข็งแกร่ง ประกอบด้วยหลักการค้นพบและครอบครอง เขตอำนาจรัฐอันมีประสิทธิภาพ และหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการครอบครองอาณาเขต
รายงานระบุว่า การค้นพบและพัฒนาหนานไห่ จูเต่า ตั้งแต่แรกเริ่มของจีน สอดคล้องกับหลักกฎหมายระหว่างประเทศ “การได้มาซึ่งอธิปไตยเหนือดินแดนผ่านการค้นพบและเข้าครอบครอง” และการอ้างอธิปไตยของจีน เหนือหนานไห่ จูเต่า ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ในระดับนานาชาติ ซึ่งสอดคล้องกับหลักกฎหมายระหว่างประเทศ หรือ “หลักปิดปาก”
กรณีฟิลิปปินส์และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค เข้าครอบครองหมู่เกาะและแนวปะการัง ในทะเลจีนใต้ ด้วยสิ่งที่เรียกว่า “ความใกล้ชิดทางภูมิศาสตร์” นั้น ละเมิดหลักกฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง
การอ้างสิทธิและผลประโยชน์ทางทะเล ในทะเลจีนใต้ของจีน สอดคล้องกับหลักกฎหมายระหว่างประเทศ “อธิปไตยบนบกครอบคลุมทะเลอาณาเขต” และสิทธิทางประวัติศาสตร์ ในทะเลจีนใต้ของจีน ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายระหว่างประเทศ
อนึ่ง รายงานฉบับนี้ เป็นส่วนหนึ่งของรายงานสามฉบับ เกี่ยวกับปัญหาทะเลจีนใต้ ที่เผยแพร่โดยสถาบันซินหัว โดยรายงานอีกสองฉบับ ได้แก่ “การปลุกปั่น ภัยคุกคาม และคำโกหก : ความจริงเกี่ยวกับกองกำลังภายนอกที่แทรกแซงปัญหาทะเลจีนใต้” และ “ทำให้ทะเลจีนใต้เป็นทะเลแห่งสันติภาพ มิตรภาพ และความร่วมมือ : การดำเนินการของจีน”