“….ประเทศไทยจำเป็นต้องรีบหนีห่างจากโลกตะวันตกที่กำลังเสื่อมโทรมวุ่นวายอย่างหนัก แล้วจับมือกับจีนสร้างสิ่งใหม่ๆที่ดีกว่าขึ้นในประเทศของเรา ณ วันนี้ จีนกำลังจะพาตัวเองก้าวจากความเป็นสังคมอินเตอร์เน็ต ไปสู่สังคมปัญญาประดิษฐ์ที่ทุกสิ่งทุกอย่างเชื่อมโยงกันเข้าด้วยเครือข่ายปัญญาประดิษฐ์ ติดต่อถึงกันและร่วมมือกันดำเนินการพัฒนาเปลี่ยนแปลงวิธีการผลิตและการดำเนินชีวิตชนิด”หลอมรวมเข้าด้วยกัน” โดยปลอดจากความแตกต่างเรื่องเวลาและสถานที่ อีกไม่นาน เมืองกับชนบทของจีนแทบจะไม่แตกต่างกันในเรื่องของคุณภาพชีวิต มีความอยู่ดีกินดีและไดัรับการบริการและสวัสดิการทางด้านการแพทย์และการศึกษาที่เท่าเทียมกัน สะดวกรวดเร็วยิ่งกว่าประเทศอื่นใด การเดินทางและการสื่อสาร การจับจ่ายใช้สอยตลอดจนการทำธุรกรรมต่างๆในชีวิตประจำวัน อะไรอะไรที่จะต้องรอกันนานๆในบ้านเราหรือประเทศตะวันตก จะไม่ปรากฏให้เห็นในประเทศจีนที่กำลังหลอมรวมกันเข้าทุกมิติด้วยระบบเอไอ ในเครือข่าย5-6G อีกนัยหนึ่ง สังคมจีนกำลังเคลื่อนตัวเองจากสังคมIoT(Internet of Things)ไปสู่สังคมAIoT(AI+IoT) ภายในเวลาไม่เกิน3ปีต่อจากนี้ ไปเถอะไปกับจีน เพราะเป็นของจริง เจริญจริง ก้าวหน้าจริง…”

จีนพาไม่ผิด中国带不会错
นับแต่บทนี้เป็นต้นไป ผู้เขียนขอเสนอบทวิเคราะห์เชิงสรุป ตามแนวคิดที่ผู้เขียนเห็นว่าสามารถสะท้อนสัจธรรมตามหลัก “ประวัติศาสตร์ที่ถูกต้อง” สอดคล้องกับหลักคุณธรรมและค่านิยมพื้นฐานของมวลมนุษยชาติ ผ่านการพัฒนาของสังคมจีน ซึ่งแบ่งเป็นสองส่วนด้วยกันคือ การพัฒนาของพลังการผลิตคุณภาพใหม่ และการปฏิรูประบบการบริหารจัดการให้สอดคล้องกับกระบวนการพัฒนาของพลังการผลิตคุณภาพใหม่
ซึ่งทั้งสองส่วนนี้กำลังดำเนินไป.อย่างไม่หยุดยั้งและตลอดเวลา ไม่ว่าส่วนอื่นๆของโลกจะสับสน
วุ่นวายแค่ไหนก็ตาม
ในสายตาผู้เขียน การเดินไปพร้อมๆกับจีน ร่วมกับจีนดำเนินการพัฒนาและสร้างอนาคตร่วมกัน จึงเป็นหลักประกันเบื้องต้นในการนำพาตัวเองก้าวไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองและเข้มแข็งรอบด้าน ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข
อีกนัยหนึ่ง ประเทศไทยจำเป็นต้องรีบหนีห่างจากโลกตะวันตกที่กำลังเสื่อมโทรมวุ่นวายอย่างหนัก แล้วจับมือกับจีนสร้างสิ่งใหม่ๆที่ดีกว่าขึ้นในประเทศของเรา โดยขั้นแรกสุดต้องเร่งปรับปรุงประเทศเสียใหม่ให้ปลอดจากนักการเมืองน้ำเน่าและข้าราชการสีเทา เพื่อปูทางให้แก่ความร่วมมือกับจีนสามารถดำเนินไปในทิศทางที่ดีเป็นประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติและประชาชน
นั่นหมายถึงว่า การเมืองที่ประชาชนกำหนดที่ผู้เขียนเรียกว่า”ระบอบประชาธิปไตยประชาชนอัตลักษณ์ไทย” จักต้องได้รับการปฏิบัติจริง โดยขบวนการการเมืองภาคประชาชนจะต้องยกระดับการจัดตั้งไปสู่การขับเคลื่อนทั่วทั้งประเทศ ในรูปของ”สภาประชาชน”
เหตุการณ์จลาจลเช่นที่เนปาล อินโดนีเซีย และฝรั่งเศสกระทั่งสหรัฐอเมริกา จะไม่เกิดขึ้นในประเทศไทย เพราะปัจจุบันนี้การเมืองภาคประชาชนของไทยก้าวหน้ากว่า เข้มแข็งกว่า มีแนวคิดที่เป็นวิทยาศาสตร์ยิ่งกว่า ในการขับเคลื่อนมวลชนไปสู่อนาคตที่ดีงาม สอดคล้องกับกฎการขับเคลื่อนของประวัติศาสตร์ยุคใหม่ที่มีจีนนำ
ซึ่ง ณ วันนี้ จีนกำลังจะพาตัวเองก้าวจากความเป็นสังคมอินเตอร์เน็ต ไปสู่สังคมปัญญาประดิษฐ์ที่ทุกสิ่งทุกอย่างเชื่อมโยงกันเข้าด้วยเครือข่ายปัญญาประดิษฐ์ ติดต่อถึงกันและร่วมมือกันดำเนินการพัฒนาเปลี่ยนแปลงวิธีการผลิตและการดำเนินชีวิตชนิด”หลอมรวมเข้าด้วยกัน” โดยปลอดจากความแตกต่างเรื่องเวลาและสถานที่
อีกไม่นาน เมืองกับชนบทของจีนแทบจะไม่แตกต่างกันในเรื่องของคุณภาพชีวิต มีความอยู่ดีกินดีและไดัรับการบริการและสวัสดิการทางด้านการแพทย์และการศึกษาที่เท่าเทียมกัน สะดวกรวดเร็วยิ่งกว่าประเทศอื่นใด การเดินทางและการสื่อสาร การจับจ่ายใช้สอยตลอดจนการทำธุรกรรมต่างๆในชีวิตประจำวัน อะไรอะไรที่จะต้องรอกันนานๆในบ้านเราหรือประเทศตะวันตก จะไม่ปรากฏให้เห็นในประเทศจีนที่กำลังหลอมรวมกันเข้าทุกมิติด้วยระบบเอไอ ในเครือข่าย5-6G
อีกนัยหนึ่ง สังคมจีนกำลังเคลื่อนตัวเองจากสังคมIoT(Internet of Things)ไปสู่สังคมAIoT(AI+IoT) ภายในเวลาไม่เกิน3ปีต่อจากนี้
ไปเถอะไปกับจีน เพราะเป็นของจริง เจริญจริง ก้าวหน้าจริง!
ไขคำจีน
中国带 จงกั๋วไต้ จีนพา