เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 ต.ค.68 ที่สำนักงานป.ป.ช. จ.นนทบุรี นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวนและชี้มูลความผิด รมว.กระทรวงทรัพย์ฯ อธิบดีกรมอุทยานฯ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 3 ผอ.ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า และ หน.เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอุทยานสมเด็จพระศรีนครินทร์ กาญจนบุรีว่าเข้าข่ายเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือไม่ กรณีปล่อยให้มีนักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดกาญจนบุรีบุกรุก ครอบครองเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอุทยานสมเด็จพระศรีนครินทร์ฯ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากมีสื่อมวลชนได้รายงานเมื่อช่วงต้นเดืนตุลาคม 2568 ที่ผ่านมาว่าพบการบุกรุกและทำลายพื้นที่ป่าอนุรักษ์ในเขตพื้นที่ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี โดยจุดที่ถูกระบุว่าได้รับความเสียหายอย่างหนักคือพื้นที่ใกล้เคียง โรงเรียนบ้านพุประดู่ (ในพื้นที่ตำบลหนองบัว) ซึ่งอยู่ในเขตรับผิดชอบของ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอุทยานสมเด็จพระศรีนครินทร์ ทั้งนี้จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ามีการบุกรุกพื้นที่ไปแล้วกว่า 1,263 ไร่
โดยลักษณะการบุกรุกและการทำประโยชน์ ในเชิงธุรกิจและที่อยู่อาศัย โดยมีพฤติการณ์ที่ชัดเจนหลายประการ ได้แก่ การแผ้วถางและสร้างโครงสร้างพื้นฐาน การแผ้วถางป่า และมีการสร้างถนนตัดผ่านพื้นที่อย่างสวยงาม มีการก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ เพื่อเป็นที่พักอาศัยหรือใช้ประโยชน์ รวมทั้งมีการปรับปรุงภูมิทัศน์อย่างสวยงาม โดยการขุดบ่อน้ำขนาดใหญ่เพื่อกักเก็บน้ำ และการใช้พื้นที่เพื่อการเลี้ยงสัตว์ เช่น วัว ซึ่งเป็นการเปลี่ยนสภาพป่าไปอย่างถาวร
การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายละเมิดกฎหมายป่าไม้ 2484 และกฎหมายว่าด้วยการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2562 อย่างชัดเจน เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในแนวเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่ถูกประกาศขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการสงวนพันธุ์สัตว์ป่าและถิ่นที่อยู่ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอุทยานสมเด็จพระศรีนครินทร์ กาญจนบุรี ซึ่งได้รับการประกาศเป็นพื้นที่อนุรักษ์มาตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม 2532 ครอบคลุมหลายตำบล คือ ตำบลหนองบัว ตำบลหนองหญ้า ตำบลบ้านเก่าและตำบลวังเย็น ในเขตอำเภอเมืองกาญจนบุรี
นอกจากนั้นยังพบอีกว่ามีอดีตกำนันซึ่งเป็นสมาชิกสภาจังหวัดกาญจนบุรี และมีภรรยาซึ่งเป็นถึงนายก อบต.ในพื้นที่ได้เข้าไปปลูกสร้างบ้านพักอาศัยในบริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ อำเภอเมืองกาญจนบุรีอีกด้วย แต่ทว่ากระทรวงทรัพย์ฯ กรมอุทยานแห่งชาติฯกลับเพิกเฉยไม่สั่งการให้มีการตรวจสอบและดำเนินการเอาผิดตามกฎหมาย ทำให้นักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดดังกล่าวย่ามใจ เข้ายึดถือครอบครองป่าอนุรักษ์ดังกล่าว โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย เยี่ยงนี้คงปล่อยไว้ไม่ได้ ต้องร้องให้ ป.ป.ช.จัดการ




