วันพฤหัสบดี, ตุลาคม 16, 2025
หน้าแรกท้องถิ่น“นายกเบียร์” นำทีมลุยชายหาดจอมเทียน ย้ำกลยุทธ์กำจัดต้นตออาชญากรรม มุ่งช่วยเหลือผู้เปราะบางและส่งเสริมผู้กลับใจทำประโยชน์เพื่อเมือง

Related Posts

“นายกเบียร์” นำทีมลุยชายหาดจอมเทียน ย้ำกลยุทธ์กำจัดต้นตออาชญากรรม มุ่งช่วยเหลือผู้เปราะบางและส่งเสริมผู้กลับใจทำประโยชน์เพื่อเมือง

วันที่ 15 ตุลาคม 2568 เวลา 09.00 น. ภายใต้บรรยากาศการลงพื้นที่เพื่อตรวจติดตามสภาพพื้นที่ชายหาดจอมเทียน เขตเมืองพัทยา นาย ปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา พร้อมด้วยทีมสภาเมืองพัทยาและผู้บริหาร ได้ลงพื้นที่บริเวณ ซอยจอมเทียน 3 และ ซอยจอมเทียน 2 เพื่อตรวจสภาพพื้นที่เปราะบางและกลุ่มเสี่ยงที่อาจเป็นต้นตอของปัญหาอาชญากรรมและความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่

การลงพื้นที่ครั้งนี้มีผู้ร่วมลงตรวจประกอบด้วย
•นายกเมืองพัทยา ปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ (นำทีม)
•นาย ปรีชา ค้าขาย ที่ปรึกษานายกเมืองพัทยา
•สมาชิกสภาเมืองพัทยา เขต 4: นาย ไพรวัลย์ อารมณ์ชื่น, นาย สุชาติ ขุนเจ๋ง, นาย เมธากฤษฎิ์ สุนทรรส, นาย วุฒิธร แสงอุไร
•นาย ทรงวุฒิ เจริญจิตต์ เลขานุการประธานสภาเมืองพัทยา
•นาย สิทธิไชย อาจทรง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี
พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจากหน่วยงานท้องถิ่นจำนวนหนึ่ง ร่วมสังเกตสภาพพื้นที่และพูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่

ตรวจกลุ่มเสี่ยง แนวทาง
“ไม่ใช่แค่จับ แต่ต้องแก้ที่ต้นเหตุ”

ในการลงพื้นที่ นายกเมืองพัทยาเน้นย้ำแนวคิดการบริหารแบบ “ลุกพื้นที่” — แก้ปัญหาหน้าแรกด้วยการดูแลสภาพแวดล้อม ควบคู่กับการบำบัด ฟื้นฟู และมาตรการป้องปรามของฝ่ายความมั่นคง โดยกล่าวว่า “การจัดระเบียบบริเวณชายหาดไม่ใช่เพียงการอพยพหรือจับกุม แต่ต้องดูสาเหตุพื้นฐาน เช่น ผู้ที่เร่ร่อนหรือผู้ที่ตกเป็นกลุ่มเสี่ยงต้องได้รับการช่วยเหลือด้านที่พักพิง บำบัด และการฟื้นฟูศักยภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหากลับมาเกิดซ้ำ”

เจ้าหน้าที่พบกลุ่มบุคคลที่จัดเป็นกลุ่มเปราะบางและกลุ่มเสี่ยงจำนวนหนึ่ง — ในส่วนแรกนายกเมืองพัทยาให้แนวทางว่า “ช่วงแรกไม่ควรใช้มาตรการเข้มข้นจนสร้างผลกระทบต่อคนเปราะบาง” โดยสั่งการให้ทีมงานบูรณาการข้อมูลกับหน่วยงานสังคมสงเคราะห์ ท้องถิ่น และหน่วยงานสาธารณสุข เพื่อดึงผู้ที่ต้องการการช่วยเหลือเข้าสู่กระบวนการช่วยเหลืออย่างเหมาะสม

สำหรับบุคคลที่ถูกระบุเฉพาะเจาะจงในพื้นที่ มีผู้หญิงนามเล่นว่า “นุ่น” และชาย 3 ราย ซึ่งนายกเมืองพัทยาและคณะได้ให้แนวทางปฏิบัติเน้นความเป็นมนุษย์ และย้ำว่าไม่ควรใช้มาตรการรุนแรงในช่วงแรก แต่ให้เป็นการเข้าไปชี้แจง รับฟังปัญหา และเชิญชวนเข้าสู่มาตรการดูแลที่มีระบบรองรับ

สายข่าวผู้กลับใจ — จากอดีตสู่การมีส่วนร่วมเพื่อเมือง

หนึ่งในไฮไลท์ของการลงพื้นที่ครั้งนี้คือการยอมรับและให้ความสำคัญกับ สายข่าวผู้กลับใจ — บุคคลที่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาในพื้นที่แต่ปัจจุบันเปลี่ยนตัวเองมาเป็นผู้ร่วมมือเชิงบวกกับหน่วยงานท้องถิ่น นายกเมืองพัทยาได้ชื่นชมและกล่าวยกย่องการมีส่วนร่วมของผู้กลับใจผู้นี้ว่าเป็น “ทรัพยากรสำคัญเชิงชุมชน” ที่ช่วยชี้จุดปัญหาจริงในพื้นที่และมีความตั้งใจที่จะทำประโยชน์คืนให้กับเมืองพัทยา โดยนายกฯ แสดงความเลื่อมใสในความพยายามของผู้กลับใจและสั่งการให้ทีมงานพิจารณามาตรการส่งเสริมการฝึกอาชีพและการมีงานทำสำหรับบุคคลที่กลับตัว เพื่อป้องกันการหวนกลับไปสู่พฤติกรรมเดิม

มาตรการต่อเนื่องและการประสานงาน
คณะได้ตกลงแนวทางปฏิบัติร่วมกันดังนี้
1.สำรวจข้อมูลเชิงลึก ของกลุ่มเสี่ยงเพื่อจัดลำดับความเร่งด่วนในการช่วยเหลือ
2.ประสานงานหน่วยสาธารณสุข ส่งเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาและสำรวจความต้องการด้านการบำบัด/ฟื้นฟู
3.จัดทีมสังคมสงเคราะห์และหน่วยงานที่พักพิงชั่วคราว เพื่อรองรับผู้ที่ยินยอมเข้าสู่กระบวนการช่วยเหลือ
4.ใช้กลยุทธ์ป้องกันอาชญากรรมเชิงรุก โดยปรับปรุงสภาพแวดล้อม จุดเสี่ยง และเพิ่มการลาดตระเวนเชิงบริการเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุซ้ำ
5.ส่งเสริมและสนับสนุนผู้กลับใจ ให้มีบทบาทเชิงบวกในการแก้ปัญหาในชุมชน เช่น การเป็นอาสาสมัครให้ข้อมูล การร่วมกิจกรรมฟื้นฟูพื้นที่

นายกเมืองพัทยากล่าวปิดท้าย
“การแก้ปัญหาในพื้นที่ไม่ได้หมายความว่าต้องใช้แต่กฎหมายอย่างเดียว แต่ต้องผสมผสานมาตรการเชิงมนุษยธรรม การฟื้นฟู และการป้องปราม เพื่อให้เมืองพัทยาปลอดภัย น่าอยู่ และเป็นที่พึ่งของทุกคน” นายปรเมศวร์ระบุ พร้อมเน้นย้ำความจำเป็นของความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานรัฐ ภาคประชาสังคม และตัวชุมชนเอง

สถานที่ปฏิบัติการลงพื้นที่ชายหาดจอมเทียน (ซอย 3 และ ซอย #เมืองพัทยา #ปรเมศวร์งามพิเชษฐ์ #จอมเทียน #ป้องกันอาชญากรรม #ผู้กลับใจ #สังคมสงเคราะห์

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts