“ศรีสุวรรณ จรรยา” ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เดินหน้าขอความเป็นธรรม บุก ปอท. แจ้งความเอาผิดเพจปลอมชื่อ “กัน จอมพลัง” หลังโพสต์ภาพตัดต่อและข้อความเท็จ ทำให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ชี้เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี หรือปรับ 1 แสนบาท
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 ที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้เดินทางเข้ายังกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (PCT) เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับเพจเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “กัน จอมพลัง” ฐานเผยแพร่ข้อมูลเท็จในลักษณะ “เฟกนิวส์” ซึ่งทำให้ตนได้รับความเสียหา
นายศรีสุวรรณ เปิดเผยว่า เพจดังกล่าวไม่ใช่เพจจริงของนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” แต่เป็นเพจปลอมที่มีบุคคลไม่ทราบชื่อสร้างขึ้น โดยโพสต์ภาพที่ผ่านการตัดต่อให้เป็นภาพตนเองกับนายกัณฐัศว์ ขณะขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง พร้อมข้อความว่า
“ด่วน! ศรีสุวรรณจ่อฟ้อง กัน จอมพลัง ปมไม่ใส่หมวกกันน็อก ร้องให้ตรวจสอบว่าผิดมาตรา 122 หรือไม่”
โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์และคอมเมนต์ต่ออย่างกว้างขวาง โดยมีประชาชนเข้ามาแสดงความคิดเห็นตำหนิและด่าทอตนกว่า 6,000 รายการ จนส่งผลให้เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น และถูกเกลียดชัง ทั้งที่ไม่เคยมีการกล่าวหรือดำเนินการในลักษณะนั้นแม้แต่น้อย
นายศรีสุวรรณ กล่าวย้ำว่า “กัน จอมพลัง” เป็นผู้ที่ทำงานเพื่อบ้านเมือง มีผลงานเป็นรูปธรรม ตนไม่เคยมีเหตุขัดแย้งส่วนตัว การสร้างข่าวเท็จลักษณะนี้ถือเป็นการใส่ร้ายเพื่อสร้างความเกลียดชัง และทำให้ประชาชนเข้าใจผิดในวงกว้าง
การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 มาตรา 14 และมาตรา 16 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้วยเหตุนี้ องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมด ทั้งภาพโพสต์ ต้นทางของเพจ และคอมเมนต์จากประชาชน มายื่นต่อเจ้าหน้าที่ ปอท. เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้สร้างและผู้แชร์โพสต์เท็จดังกล่าวให้ถึงที่สุด
“ต้องไม่ปล่อยให้คนที่สร้างเฟกนิวส์ลอยนวล ใช้โซเชียลหายอดไลก์โดยไม่สนว่าคนอื่นจะเสียหายแค่ไหน” — นายศรีสุวรรณ กล่าวทิ้งท้าย
เบื้องต้น พนักงานสอบสวน บก.ปอท. ได้รับเรื่องและตรวจสอบพยานหลักฐานทั้งหมด ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.
