วันพุธ, พฤศจิกายน 5, 2025
หน้าแรกการเมืองสืบการเมืองระบบรัฐพิการ! นักการเมือง-ทุนเทา ฮุบโควตาลอตเตอรี่

ระบบรัฐพิการ! นักการเมือง-ทุนเทา ฮุบโควตาลอตเตอรี่

“…สลาก 80 บาทไม่มีอยู่จริง คือความจริงที่เจ็บปวดซึ่งคนไทยคุ้นชิน แต่สิ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง “ราคาสลากแพง” อาจไม่ใช่แค่พ่อค้าคนกลาง แต่คือ “เครือข่าย” การจัดสรรผลประโยชน์ที่หยั่งรากลึกระดับโครงสร้าง ภายใต้แคมเปญใหม่ “มีเราไม่มีเทา” พรรคประชาชนกำลังจุดไฟไล่เงื่อนงำครั้งใหญ่ ชี้เป้าไปที่ “โควตาสลาก” นับร้อยล้านฉบับ ที่อาจกลายเป็นเครื่องมือฟอกเงินชั้นดีของกลุ่มทุนสีเทา โดยมี “ทหารผ่านศึก” และ “ผู้พิการ” เป็นเหยื่อที่ถูกปล้นผลประโยชน์ซึ่งหน้า…”

เจาะลึก ‘หลุมดำ’ โควตาสลาก ใครคือ ‘เสือนอนกิน’ ตัวจริง?

สมรภูมิการเมืองระลอกใหม่ปะทุขึ้นทันที เมื่อพรรคประชาชนเปิดฉากแคมเปญ “มีเราไม่มีเทา” โดยไม่เพียงแค่ประกาศสงครามกับธุรกิจสีเทา แต่ยังพุ่งเป้าไปที่ “โครงสร้าง” ที่เอื้อให้ทุนเหล่านี้เติบโต และหวยงวดนี้ก็ออกที่ “สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล”

สส. ธนเดช เพ็งสุข จากพรรคประชาชน เปิดเผยข้อมูลเชิงลึก ตั้งคำถามถึงกลไกการกระจายสลากกว่า 104 ล้านฉบับต่องวด ที่ดูเหมือนจะถูก “ล็อกเป้า” ให้กลุ่มทุนขนาดใหญ่เข้ามาหากินบน “โควตา” ของผู้ด้อยโอกาส

ประเด็นที่ถูกชำแหละอย่างหนักหน่วง คือ “องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก” (อผศ.) ซึ่งได้รับโควตาสลากมหาศาลถึงปีละกว่า 26.37 ล้านใบ โดยเจตนารมณ์คือการสร้างอาชีพและผดุงเกียรติวีรบุรุษของชาติ

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงกลับตาลปัตร สส. ธนเดช แฉว่า แทนที่สลากจะถึงมือทหารผ่านศึกโดยตรง องค์กรฯ กลับใช้วิธี “รวบโควตาขายเหมา” เปิดทางให้กลุ่มเอกชนเข้ามา “ประมูล” สิทธิ์ในการจัดจำหน่ายไปทั้งหมด

ผลลัพธ์คือตัวเลขที่น่าตกใจ ทหารผ่านศึกผู้เป็นเจ้าของโควตาที่แท้จริง กลับได้รับปันผลเฉลี่ยเพียงใบละ 2.1 บาท เท่านั้น!

ตัวเลขนี้สวนทางกับความเป็นจริงอย่างสิ้นเชิง หากคำนวณต้นทุนสลากจากกองสลาก (ประมาณ 70.4 บาท) หากทหารผ่านศึกขายเองที่ราคาควบคุม 80 บาท พวกเขาควรได้กำไรถึงใบละ 9.6 บาท คำถามคือ ส่วนต่างที่หายไปมหาศาล…มันไปอยู่ในกระเป๋าใคร?

‘นอมินี’ เครือข่ายเทา และเงาการเมือง

การตรวจสอบของพรรคประชาชนยังพบข้อพิรุธในกลุ่มเอกชนที่ชนะการประมูล โดยตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีลักษณะเป็น “นอมินี” หรือบริษัทที่ตั้งขึ้นมาเพื่อรวบรวมโควตา ก่อนนำไป “จับคู่” และ “เพิ่มมูลค่า” ปล่อยขายในตลาดมืด จนกลายเป็นต้นทุนที่แท้จริงที่ทำให้สลากราคาพุ่งทะลุเพดาน

สส. ธนเดช ยอมรับว่า มีหลักฐานพอสมควรที่เชื่อได้ว่ากระบวนการนี้ “เชื่อมโยงกับกลุ่มทุนสีเทา” ที่ใช้ธุรกิจสลากเป็นฉากหน้าในการฟอกเงิน เนื่องจากเม็ดเงินมหาศาลและยากต่อการตรวจสอบ

ไม่ใช่แค่ทหารผ่านศึก “สมาคมกีฬาคนตาบอดแห่งประเทศไทย” ก็ถูกตั้งคำถาม เมื่อมีเสียงร้องเรียนว่าโควตา 3,000 เล่มต่องวด กลับตกไปอยู่ในมือ “คนตาดี” หรือคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับสมาคม

นี่คือภาพสะท้อนความผิดปกติทั้งระบบ ที่ “กลุ่มทุนใหญ่” เข้ามาสูบกินผลประโยชน์จากโควตาของสมาคมและองค์กรการกุศลกว่า 300-400 แห่งทั่วประเทศ

มรดก คสช. สู่ปมขัดแย้งปัจจุบัน

ปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็น “ปัญหาเรื้อรัง” ที่ฝังรากลึกในสังคมไทยมานาน สส. ธนเดช ถึงกับตั้งคำถามย้อนไปถึงยุค คสช. ที่ พล.อ. อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เคยเข้ามานั่งคุมบอร์ดสลากฯ พร้อมอำนาจเบ็ดเสร็จ แต่สุดท้ายก็ “ไม่สำเร็จ” ในการปราบสลากแพง

“ท่านติดอะไร ทั้งที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด?” นี่คือคำถามที่ สส. ธนเดช ทิ้งบอมบ์เอาไว้

เขายังยืนยันว่า การตรวจสอบครั้งนี้พบความเชื่อมโยงกับ “นักการเมือง” ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ที่ใช้เส้นสายหรืออำนาจทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน

แม้พรรคประชาชนจะพยายาม “สงวนท่าที” ว่าไม่ได้พุ่งเป้าโจมตีใครเป็นการเฉพาะ (ท่ามกลางไฟการเมืองที่กำลังปะทะกันดุเดือดระหว่าง “ไอซ์” และ “ไผ่” ที่พาดพิงถึง “ร.อ. ธรรมนัส”) แต่แรงสั่นสะเทือนจากการเปิดโปงครั้งนี้ กำลังเขย่าเสถียรภาพรัฐบาลอย่างปฏิเสธไม่ได้

ขณะที่ข้อครหาว่าพรรคประชาชนกำลังเล่นบท “ฝ่ายค้ำ” ให้รัฐบาล สส. ธนเดช ก็โต้กลับให้ “ดูที่การทำงาน” และท้าทายกลับไปยังพรรคการเมืองอื่นที่เคยมีข้อมูล แต่กลับ “ไม่ขยับอะไรเลย”

การเดินเกม “มีเราไม่มีเทา” ครั้งนี้ จึงเป็นมากกว่าการทวงคืนผลประโยชน์ให้ทหารผ่านศึก แต่คือการ “วัดกำลัง” ว่าพรรคประชาชนกล้าชนกับ “เครือข่ายทุนเทา” ที่อาจโยงใยถึงผู้มีอำนาจในรัฐบาลได้จริงหรือไม่

หรือสุดท้ายแล้ว… เรื่องนี้เป็นเพียงการสร้าง “อีเวนต์” ทางการเมือง ท่ามกลางเสียงครหา และปล่อยให้ประชาชนยังคงต้องซื้อ “ความหวัง” ในราคาแพงต่อไป โดยไม่รู้ว่าใครคือ ‘เจ้ามือ’ ตัวจริงที่กำลังสูบเลือดคนไทย?

#สืบจากข่าว รายงาน

Get notified whenever we post something new!

spot_img

Create a website from scratch

Just drag and drop elements in a page to get started with Newspaper Theme.

Continue reading

ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล มือ “การเงิน” ขั้นเทพลดหนี้ “คลัง” 5 แสนล้าน

https://youtu.be/pHdBBcEWdKc ใครจะไปคาดคิดว่า ในปี 2540 ประเทศไทยจะเกิดวิกฤตการณ์ ถึงขั้นปิด 58 ไฟแนนซ์ และ 6 สถาบันการเงิน ภายในปีเดียว กลายเป็น “วิกฤตต้มยำกุ้ง” หากใครนึกภาพไม่ออกว่าวิกฤตครั้งนั้นรุนแรงแค่ไหน ลองเปรียบเทียบกับ วิกฤตโควิด-19 ที่มีการชัตดาวน์ธุรกิจทั้งระบบ แต่ไม่มีไฟแนนซ์หรือสถาบันการเงินไหน ปิดตัวจากโควิด-19 นอกจากบริษัทประกันภัย 4 แห่ง ที่รับทำประกันโควิด “เจอ จ่าย จบ” ซึ่งก็นับเป็นวิกฤตรุนแรง เขย่าวงการประกันภัย เพราะการจ่ายค่าสินไหม ยังดำเนินการไม่จบสิ้น และไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ แต่ในปี 2540 วงการการเงินของไทย ต้องช็อคเพราะการปิดตัวไฟแนนซ์ถึง 58 แห่ง ไฟแนนซ์บางแห่งเพิ่งประกาศปรับตัวเป็นธนาคาร ยังตั้งตู้เอทีเอ็มไม่ครบทุกสาขา ก็ยังต้องหยุดโครงการและปิดตัวไปในที่สุด เหตุจากการประกาศลอยตัวค่าเงินบาท ทำให้อัตราแลกเปลี่ยนพุ่งจาก 25...

“มีเราไม่มีเทา” แค่ละครตบตา!

https://youtu.be/CADWMvy1ytU “...ท่ามกลาง "ม่านหมอกสีเทา" ทางการเมืองที่แยกมิตร-ศัตรูไม่ออก สภาวะ "อีรุงตุงนัง" ที่แม้แต่ฤดูกาลยังสับสน การเมืองไทยกำลังเดินเข้าสู่เกมที่ซับซ้อนและอำมหิตเกินกว่าที่ตาเห็น ปฏิบัติการ "มีเราไม่มีเทา" ของพรรคประชาชน ที่ดูเหมือนการกวาดล้างสแกมเมอร์เพื่อชาติ แท้จริงแล้วอาจเป็นเพียง "ละครฉากใหญ่" ที่มีผู้ได้ประโยชน์สูงสุดนั่งยิ้มอยู่มุมตึกหรือไม่? รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว นักวิชาการผู้ไม่เคยมองการเมืองแค่ชั้นเดียว ซึ่งกำลังชี้ให้เห็นว่า เกมนี้นอกจากจะ "ล็อกเป้า" พรรคกล้าธรรม ให้แตกกระเจิง ยังเป็นการ "ดองเค็ม" พรรคเพื่อไทย ให้รอวันตายทางการเมือง โดยมี "พรรคภูมิใจไทย" เป็นผู้เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ทั้งหมด รศ.ดร.โอฬาร ผ่าให้เห็นภาพการเมืองไทยที่ "เน่าใน" ไม่ว่าจะเป็นการคัมแบ็กของ "อภิสิทธิ์" ที่เป็นแค่ "นั่งร้าน" ให้ สส. บ้านใหญ่ใน "พรรคพันธุกรรม" ที่รอวันตาย...

จีนก้าวขึ้น “ผู้นำโลก”สันติภาพ “การพัฒนา”เกิดขึ้นทิศทาง​โลก​”หลังทรัมป์จับมือสี”

".... ภายหลังจากพบปะเจรจากับประธาน​าธิบดี​สีจิ้นผิง​ที่สนามบินเมืองปูซานเกาหลีใต้​ เมื่อวันที่30​ตุลาคม​ที่ผ่านมา​ ประธานาธิบดี​โดนัลด์​ ได้บรรยาย​ถึงความสำเร็จในการแก้ไขปัญหา​การค้าระหว่างสหรัฐ​ฯกับจีน​ พร้อมกับนำเสนอแนวคิดเรื่องโลกยุคG2 ที่สหรัฐ​ฯกับจีนจะร่วมกันบริหารโลก หมายถึงว่าผู้นำสหรัฐอเมริกา​สลัดทิ้งกลุ่มG7 มาจับมือกับจีนจัดระเบียบโลก น่าแปลกกลับมีเสียงตอบรับในเชิงบวก​ คล้ายกับว่าเมื่อเสือสองตัวนี้จับมือกัน สันติภาพ​ก็จะเกิดขึ้น​ สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการเบื้องลึกของชาวโลกในเรื่องสันติภาพ​ การพัฒนา​และความยุติธรรม​ ทีนี้​ ในทางเป็นจริง​ ทิศทาง​ขับเคลื่อน​ของสังคมโลกหลังจากนี้จะดำเนินไปในแนว​ใด? ตามคำวินิจฉัย​ของประธานาธิบดี​สีจิ้นผิง​ที่ว่า​ สังคมโลกกำลัง​อยู่​ใน​ระหว่าง​การเปลี่ยนแปลง​ใหญ่​ที่ไม่เคยปรากฏ​มาก่อน​ในรอบร้อยปี ในลักษณะ​ที่"ตะวันออกลอยสูง​ ตะวันตกคล้อยต่ำ" จีนอยู่ในฐานะที่กำลังลอยสูง​ ไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะรีบร้อนรวบรัดจัดระเบียบ​โลกใหม่โดยพลการเพียงเพื่อผลประโยชน์​เฉพาะตัว​ ความ​สัมพันธ์​กับสหรัฐ​อเมริกา​แม้จะสำ​คัญ​มาก​ แต่ก็ไม่อยู่เหนือกฎเกณฑ์​การพัฒนา​ของประวัติศาสตร์​ ถ้าให้จีนเลือกระหว่างสหรัฐ​อเมริกา​กับโลกทั้งใบ​ จีนย่อมเลือกที่จะร่วมกับทั้งโลกเดินหน้าสร้างประวัติศาสต​ร​์​หน้าใหม่ๆต่อไป​ และก็ไม่ปิดโอกาสที่สหรัฐ​อเมริกา​จะเดินตาม..." https://youtu.be/aWs44WpYTgU ทิศทาง​โลก​หลังทรัมป์จับมือสี特与习握手后的世界走向 ภายหลังจากพบปะเจรจากับประธาน​าธิบดี​สีจิ้นผิง​ราว1ชั่วโมง40นาที​ ที่สนามบินเมืองปูซานเกาหลีใต้​ เมื่อวันที่30​ตุลาคม​ที่ผ่านมา​ ประธานาธิบดี​โดนัลด์​ ทรัมป์ก็เดินทางกลับอเมริกา​ ระหว่างนั้นก็ได้บรรยาย​ถึงความสำเร็จในการแก้ไขปัญหา​การค้าระหว่างสหรัฐ​ฯกับจีน​ พร้อมกับนำเสนอแนวคิดเรื่องโลกยุคG2 ที่สหรัฐ​ฯกับจีนจะร่วมกันบริหารโลก หมายถึงว่าผู้นำสหรัฐอเมริกา​สลัดทิ้งกลุ่มG7 มาจับมือกับจีนจัดระเบียบโลก มองในมุมหนึ่งสหรัฐอเมริกา​ยอมรับว่าประเทศ​จีนได้ก้าวขึ้นมาทาบรัศมี​ตนแล้วอย่างแท้จริง​ เพราะไม่ว่าจะใช้สงครามการค้าแบบไหน​ ข่มขู่อย่างไร ก็กินจีนไม่ลง ตรงกันข้ามกลับตื้อตันทันทีที่โดนจีนสวนกลับในแทบทุกจังหวะ ขืนยืนซดกันต่อไป​ เห็นท่าจะไม่ได้การ​ ทางออกที่ดีก็คือรักษา​สถานะ​ความเป็นมหาอำนาจ​หมายเลขหนึ่ง​เอาไว้​ แล้วให้จีนมายืนประกบในฐานะมหาอำนาจหมายเลขสอง สองมหาอำนาจร่วมกันปกครองทั้งโลก​ น่าจะสวยที่สุด ถ้าเป็นก่อนหน้านี้​...

Enjoy exclusive access to all of our content

Get an online subscription and you can unlock any article you come across.