ตำรวจไซเบอร์ร่วมมือฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมาก บุกจับชายเวียดนามและชายไทย แฝงตัวเป็นกองเชียร์ฟุตบอลซีเกมส์ในสนามราชมังคลากีฬาสถาน ก่อนลอบโฆษณา–ชักชวนเล่นเว็บพนัน “OKVIP” พบของกลางเป็นเสื้อและหมวกสกรีนโลโก้เว็บดัง เบื้องต้นแจ้งข้อหาชักชวนเล่นการพนัน ดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
วันที่ 12 ธันวาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.1 กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือ “ตำรวจไซเบอร์” ร่วมกับฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมาก จับกุมผู้ต้องหาชายชาวเวียดนาม อายุ 51 ปี และ นายนิติคุณ อายุ 42 ปี ชาวจังหวัดตาก ขณะทั้งคู่แฝงตัวเป็น “กองเชียร์” เข้าไปในสนามราชมังคลากีฬาสถาน ระหว่างการแข่งขันฟุตบอลในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33
ตรวจค้นพบของกลาง ได้แก่
- เสื้อยืดโลโก้ “OKVIP” จำนวน 1 ตัว
- หมวกแก๊ปโลโก้เดียวกัน จำนวน 1 ใบ
จากการสอบสวนพบว่า ผู้ต้องหาใช้วิธีแฝงตัวเป็นแฟนกีฬากับกลุ่มกองเชียร์ ก่อนอาศัยจังหวะถ่ายทอดสดและบรรยากาศการแข่งขัน ชักชวนผู้ชมให้เข้าเล่นพนันออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ “OKVIP” ซึ่งถือเป็นการกระทำผิดกฎหมายอย่างชัดเจน
แผนเด็ดลักลอบโฆษณา – ทำลายภาพลักษณ์เจ้าภาพซีเกมส์
เจ้าหน้าที่เผยว่า ช่วงการแข่งขันซีเกมส์ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ มีการลักลอบเข้ามาโฆษณาและชักชวนเล่นพนันออนไลน์ภายในสนามหลายรูปแบบ ทั้งแจกเสื้อ หมวก ป้ายผ้า และการโพสต์ผ่านสื่อโซเชียล เพื่อสร้างภาพลักษณ์เชื่อมโยงกับงานกีฬา สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของประเทศ
พล.ต.ท.ประจักษ์ เพ็งจันทร์ ผู้บัญชาการ บช.สอท. ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดร่วมกับตำรวจนครบาล บูรณาการกำลังสืบสวนและปราบปรามอย่างเข้มงวด เพื่อสกัดกั้นเครือข่ายการพนันที่อาศัยงานกีฬาระดับนานาชาติเป็นเครื่องมือทางการตลาด
แจ้งข้อหาเข้ม – เตือนเซเลบ พริตตี้ ยูทูบเบอร์ เสี่ยงติดคุก!
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ประกาศ โฆษณา หรือชักชวนให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนัน” ตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 12 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ หากพบว่าการโฆษณาดังกล่าวเข้าข่าย “ชักจูงให้เยาวชนประพฤติตนไม่สมควร” จะมีความผิดเพิ่มเติมตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มาตรา 26(3) และมาตรา 78 โทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ภายหลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเร่งขยายผลตรวจสอบเครือข่ายพนัน “OKVIP” ที่อยู่เบื้องหลังการลักลอบโฆษณาในงานกีฬาใหญ่ครั้งนี้
