ตำรวจทางหลวงบุกสกัดจับขบวนการลักลอบขนรถจักรยานยนต์ข้ามชาติ ลอบส่งขายฝั่งลาวผ่านเส้นทางมุกดาหาร–ยโสธร ยึดรถ จยย. รวม 15 คัน ผู้ต้องหา 3 รายรับสารภาพ ทำมา
เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงภายใต้การอำนวยการของผู้บังคับบัญชาระดับสูง ได้เปิดปฏิบัติการกวาดล้างขบวนการลักลอบขนรถจักรยานยนต์ออกนอกราชอาณาจักร โดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร ส่งขายให้ขบวนการค้ารถผิดกฎหมายใน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว)
ปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างเวลา 23.00 น. วันที่ 13 ธ.ค. – 01.00 น. วันที่ 14 ธ.ค. 2568 เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับรถกระบะตู้ทึบต้องสงสัยได้ 2 คัน พร้อมผู้ต้องหา 3 ราย บนทางหลวงหมายเลข 292 ถนนเลี่ยงเมืองยโสธร และทางหลวงหมายเลข 12 เขต อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร ต่อเนื่องถึงพื้นที่ จ.ยโสธร
รายชื่อผู้ต้องหา – รถของกลาง 15 คัน
ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมประกอบด้วย
- นายพัฒนพงษ์ อายุ 22 ปี ทำหน้าที่ลำเลียงรถจากกรุงเทพฯ ไปชายแดน
- นายณัฐพงษ์ อายุ 30 ปี รับหน้าที่ขนรถจากหลายจังหวัดตามคำสั่งผู้ว่าจ้าง
- ท้าวก้องมะนี อายุ 19 ปี สัญชาติลาว ทำหน้าที่รับรถปลายทาง
ของกลางที่ตรวจยึดได้ ได้แก่
- รถกระบะตู้ทึบ อีซูซุ สีเทา ทะเบียน 3ฒฐ 4275 กทม. บรรทุกรถจักรยานยนต์ 9 คัน
- รถกระบะตู้ทึบ โตโยต้า สีขาว ทะเบียน บษ 5962 ฉะเชิงเทรา บรรทุกรถจักรยานยนต์ 6 คัน
รวมตรวจยึดรถจักรยานยนต์ ทั้งหมด 15 คัน
ผู้ต้องหาสารภาพ ขนส่งคันละ 1,500 บาท – ทำต่อเนื่องกว่า 3 เดือน
นายณัฐพงษ์ ผู้ขับรถกระบะสีขาว ให้การรับสารภาพว่า ได้รับการติดต่อจากนายทุนผ่านแอปพลิเคชัน LINE ให้รับรถจากหลายจังหวัด รวม 6 คัน (กทม. 3 คัน, สระบุรี 2 คัน, นครราชสีมา 1 คัน) เพื่อส่งต่อไปยังพื้นที่ชายแดน โดยได้รับค่าจ้าง คันละ 1,500 บาท และเคยทำมาแล้ว 5 ครั้ง
ขณะที่ นายพัฒนพงษ์ ผู้ขับรถกระบะอีกคัน ยอมรับว่า ได้รับการติดต่อจาก “นายขิง” ผ่าน LINE ให้รับรถ 9 คันจากย่านประชาอุทิศ กรุงเทพฯ ส่งไปยัง จ.มุกดาหาร เพื่อส่งต่อให้กลุ่มชาวลาวฝั่งตรงข้ามชายแดน โดยทำมาแล้วกว่า 20 ครั้งในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา
รถเช่าซื้อ-เพิ่งออกรถใหม่ ถูกขายต่อเข้าขบวนการ
จากการสืบสวนเชิงลึกพบว่า รถจักรยานยนต์ที่ถูกตรวจยึดส่วนใหญ่ยังอยู่ในระหว่างการเช่าซื้อ บางคันเพิ่งออกรถได้เพียง 2 วัน ก่อนถูกนำไปขายต่อให้ขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ ส่งผลให้เกิดความเสียหายรวมกว่า 20 ล้านบาท
เครือข่ายใหญ่ ใช้ LINE–Telegram วางแผนข้ามจังหวัด
เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า กลุ่มดังกล่าวมีการแบ่งหน้าที่ชัดเจน ทั้งฝ่ายจัดหารถ ฝ่ายขนส่ง และกลุ่มนายทุนที่อยู่ต่างประเทศ ใช้แอปพลิเคชัน LINE และ Telegram ในการติดต่อ กำหนดเส้นทาง พิกัด และช่วงเวลาขนส่งอย่างเป็นระบบ เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้นำของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนในพื้นที่เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเร่งขยายผลไปถึงกลุ่มนายทุน ผู้อยู่เบื้องหลัง และเครือข่ายรับซื้อฝั่งประเทศลาว เพื่อดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป.
