วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 21, 2024

Related Posts

การแย่งอำนาจของทุกยุค ล้วนต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย เสมือน “ช้างชนช้าง” ที่หญ้าแพรก (ประชาชน) ต้องเคราะห์ร้ายก่อนเสมอ!

ดังตำนานการศึก “สามก๊ก” ที่แย่งอำนาจกัน ซึ่งมีเรื่องราวมากมาย โดย “สามก๊ก” มีตัวละครเด่น เป็นก๊ก หรือที่ยุคนี้เรียกว่า “เป็นแก๊ง” (ว่ะ)..

ยุค “ตั๋งโต๊ะ” มีขุนพล “ลิโป้” เป็นลูกบุญธรรม ซึ่งภายหลัง “ลิโป้” ได้ฆ่า “ตั๋งโต๊ะ” จากเรื่องแย่งสาวสวย “เตียวเสี้ยน” ก่อนเรื่องของ “สามก๊ก” จะเกิดตามมา

ก๊ก “ซุนกวน” มีขุนพลบู๊-บุ๋นชื่อ “จิวยี่” แต่การศึก แพ้ “ขงเบ้ง” มาตลอด บ้างว่า “จิวยี่” แค้นใจจนกระอักเลือดตาย?

ส่วนก๊ก “เล่าปี่” มีพี่น้องร่วมสาบาน “กวนอู-เตียวหุย” และยังมียอดฝีมือผู้ซื่อสัตย์ “จูล่ง” มาเติมเต็มกองทัพให้แกร่งยิ่งขึ้น แถม “เล่าปี่” ได้ “ขงเบ้ง” มาเป็น เสธ.ใหญ่ บัญชาการศึกทัพ “เล่าปี่” ให้ผงาดขึ้น ต่อกรกับอีกสองก๊กได้ในทันที..

ก๊ก “โจโฉ” พลิกผันในตอนจบ! เพราะ “สุมาอี้” เสธ.ใหญ่ ได้ต่อสู้กับ “เล่าปี่”ชนิดถึงลูกถึงคน สอง เสธ. “ขงเบ้ง” กับ “สุมาอี้” ควักกลศึกต่อสู้ชิงชัยกันอุตลุด ถึงขั้น “สุมาอี้” ถูก “ขงเบ้ง” ล้อมในหุบเขา โดย “ขงเบ้ง” ยืนบนภูรอดูทัพ “สุมาอี้” ถูกเผาทั้งเป็น..

แต่ชัยชนะของ “ขงเบ้ง” ต้องสูญสลาย ด้วย “ฝน” ดันตกมาราวฟ้ารั่ว จนแผนเผาทัพ “สุมาอี้” พังครืน! ปราชญ์ “ขงเบ้ง” รู้ทันทีว่า “คนกำหนดมิเท่าฟ้าลิขิต”(ว่ะ) ?

หลัง “โจโฉ” สิ้นชีพ “สุมาอี้” ได้รวมแผ่นดินเป็นหนึ่งเดียว “สุมาอี้” ได้ขึ้นเป็นจักรพรรดิองค์ใหม่แห่ง “ราชวงศ์จิ้น” และสิ้นสุดศึก “สามก๊ก” ที่ต่อสู้ยืดเยื้อนานถึง 111 ปี

ในยามนี้ เปรียบ “สามก๊ก” กับการเมืองไทย ก็ให้นึกถึงคำคมของ“ใครบางคน”ใน“สามก๊ก” ที่ว่า..

“ทุกครั้งที่มีการแย่งชิงอำนาจกัน คนที่ร้องไห้เงียบๆ คือประชาชน”

เออ..จริง(ว่ะ)!! ก๊ก “บิ๊กตู่” ยึดอำนาจรัฐมานานกว่า 7 ปี โดยเริ่มจาก “บิ๊กตู่” ทำรัฐประหาร ด้วยข้ออ้างว่าเกิดสถานการณ์ความรุนแรง บ้านเมืองไม่สงบ จากที่ประชาชนชุมนุมขับไล่รัฐบาลเครือข่าย “บิ๊กเหลี่ยม” ที่โกงชาติล้มเจ้า..

“ขงเบ้ง” ได้บอก “ผู้มีอำนาจ” ว่า “ผู้ใดขาดความซื่อสัตย์ ผู้นั้นย่อมขาดสัจจะ” และ ถ้า “ปกครองไม่เข้มงวด ใช้คนไม่เหมาะสม จึงต้องพ่ายแพ้”

ที่สำคัญ “ขงเบ้ง” ยังเฉลยถึงสันดานคนด้วยว่า “ไม้คดใช้ทำขอ เหล็กงอใช้ทำเคียว แต่คนคดเคี้ยว ใช้ทำอะไรไม่ได้เลย”

คำพูดติงเตือนถึง “ผู้มีอำนาจ” เป็นสิ่งที่ “นายกฯ บิ๊กตู่” พึงต้องสำเหนียก อย่าได้หลงลืมเด็ดขาด เพราะ “ขงเบ้ง” ได้ย้ำว่า “จุดอ่อนของผู้มีอำนาจ คือ คิดว่าตนเองอยู่ค้ำฟ้า”(ว่ะ)!

“นายกฯ รัฐประหารตู่” ยึดอำนาจนานกว่า 5 ปี และใช้ทุกวิถีทางสืบทอดอำนาจ จนสำเร็จได้เป็น “นายกฯเลือกตั้งตู่” ถึงวันนี้ก็นานกว่า 2 ปีแล้ว..

โดย “นายกฯ บิ๊กตู่” ไม่ได้ทำตามคำพูด แล้วยังไม่แก้ต้นเหตุปัญหาสำคัญๆ ให้ชาติ ทั้งไม่ปราบคนโกงชาติจริงจัง! ไม่ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยเฉพาะไม่กระจายรายได้ให้กับคนส่วนใหญ่ แต่กลับไปเอื้อ “คนรวย” ที่เป็นคนส่วนน้อยให้รวยมากขึ้น ขยายความเหลื่อมล้ำไม่เป็นธรรมยิ่งขึ้นไปอีก

ทว่า..ไฉน “ใครบางคน” ใน “สามก๊ก” จึงพูดเหมือนใจ “นายกฯ บิ๊กตู่” ยามนี้ ที่ว่า “การชิงอำนาจนั้นยาก แต่การรักษาอำนาจยากกว่าหลายเท่า เพราะอำนาจเป็นสิ่งที่หอมหวานที่สุดในโลก”

การทำศึกก็เปรียบได้กับการทำความดีให้ชาติ ดัง “บังทอง” ได้ระบุไว้ว่า “การศึกสำคัญที่กุมโอกาส หากปล่อยโอกาสทองไป จะหาไม่ได้อีก” นะเว้ยเฮ้ย..

แต่น่าเสียดายที่ “นายกฯบิ๊กตู่” ไม่ทำดีดังควร จนกลายเป็นหนึ่งในต้นเหตุปัญหาของชาติและประชาชน ปัญหาได้บานปลายกลายเป็นต้นเหตุอีกหลายปัญหาอันเลวร้าย

เวลาผ่านไปนานกว่า 7 ปี “นายกฯ บิ๊กตู่” ยังคงไม่ได้ปฏิรูปชาติ โดยเฉพาะไม่ปฏิรูปโครงสร้างทางการเมือง “นักการเมืองไทย” จึงด้อยคุณภาพ “คนการเมือง” ส่วนใหญ่กลายพันธุ์ เปลี่ยนสันดานเป็นดั่ง “เสือ-สิงห์-กระทิง-แรด-ควาย-สุนัข-เหี้ย” เดินยั้วเยี้ยอยู่ในสนามเลือกตั้ง ใช้เงินซื้อเสียงและโกงกันสารพัดเพื่อเป็น “ส.ส.” ฯลฯ

“นักการเมืองสามานย์” ส่วนใหญ่ ก็ได้เข้าสภาฯ กับอยู่ในรัฐบาลที่โกงชาติกับล้มเจ้า จนประชาชนต้องออกมาชุมนุม ขับไล่รัฐบาลเลือกตั้งที่ชั่วช้าสามานย์ และ“คณะทหาร” ออกมาทำรัฐประหาร!

ถ้ารัฐบาลเลือกตั้งเครือข่ายของ “เหลี่ยม” ไม่โกงชาติกับล้มเจ้า ทุ่มเททำงานให้ชาติกับประชาชน ย่อมไร้เงื่อนไขที่ประชาชนจะชุมนุมขับไล่ และ “คณะนายทหาร” ก็ไม่อาจยกกองทัพ โผล่มาทำรัฐประหารได้..จริงไหมล่ะ?!

ทว่า..น่าเสียดายที่ผลงาน “นายกฯรั ฐประหารตู่”  สอบตก! ทำให้การเลือกตั้งครั้งล่าสุด “พรรคเหลี่ยม” ได้ ส.ส.เขตชนะ “พรรคหนุนตู่”! แถม“พรรคหนุนม็อบล้มเจ้า” ของ “บิ๊กทอน” พรรคใหม่แกะกล่อง โผล่พรวดได้ ส.ส.ถึง 80 คน!

แต่.. “บิ๊กตู่” โชคดี เพราะมี “สว. 250 คน” ที่ตั้งโดย “นายกฯ รัฐประหารตู่” ยกมือให้ราวฝักถั่ว “บิ๊กตู่” จึงได้เป็น “นายกฯ เลือกตั้ง” ในวันนี้..

นั่นเป็นอีกหนึ่งความผิดพลาดใหญ่หลวง ที่ “นายกฯ บิ๊กตู่” ไม่ได้ปฏิรูปการเมือง จึงไม่เอื้อให้ “คนดี” ส่วนใหญ่ได้ลงสมัคร ตรงกันข้าม กลับมีการใช้สารพัดวิธี เอื้อ “นักการเมืองสามานย์” ให้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น “ส.ส.” แถมเสริมส่งให้เป็นถึง “รัฐมนตรี” โน่นเลย!

ทำให้ชาติไม่ได้ “ส.ส.น้ำดี” เป็นส่วนใหญ่ เข้าไปไล่ “ส.ส.น้ำเน่า” ในสภาฯ เพื่อจะได้ “นายกฯ” กับรัฐบาลดีมีคุณภาพ ทว่า..ชาติกลับได้นายทหารทำผิดคำพูดอย่าง “นายกฯ บิ๊กตู่” ที่กลายเป็นตัวการ ทำให้การเมืองไทย “ถอยหลังลงคลองน้ำเน่า”..

เมื่อก๊ก “บิ๊กเหลี่ยม-บิ๊กทอน” กับเครือข่าย ยังมีเงินไม่โปร่งใสอย่างมหาศาล จึงยังจ้าง “ผี-นักการเมืองโม่แป้ง” อยู่ในสภาฯ และทุ่มเงินหนุนหลัง “ม็อบล้มเจ้า” อยู่นอกสภา ป่วนชาติบ้านเมือง ด้วยการชุมนุมเคลื่อนไหว ให้ร้ายป้ายสีหยามหมิ่นเกียรติของ “สถาบันพระมหากษัตริย์” อย่างหยาบช้าถ่อยสถุล จนผิดต่อกฎหมายบ้านเมืองหลายมาตราซ้ำซากครั้งแล้วครั้งเล่า โดยเฉพาะมาตรา 112

“ศึกการเมือง” แย่งอำนาจยุคนี้ ตรงกับที่ “ซุนกวน” ได้พูดถึง “ศึกแย่งอำนาจ” ยุค “สามก๊ก” ว่า..

“สงครามมีหลายรูปแบบ เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว ขั้นตอนไม่สำคัญเท่ากับผลสุดท้ายที่ออกมา”

เพราะการแพ้-ชนะนั้น “คนชนะ” ย่อมได้ “อำนาจรัฐ” ไว้ในกำมือ ทำให้“เหลี่ยม-ทอน” กับพลพรรค ใช้กลยุทธ์ทุกรูปแบบ ถล่มใส่ “นายกฯ บิ๊กตู่” มาโดยตลอด

ก๊กหนึ่งเดียวของ “บิ๊กตู่” ที่กุมอำนาจรัฐอยู่ จึงถูกสองก๊ก “เหลี่ยม-ทอน” รุมถล่มทั้งในและนอกสภามั่วไปหมด โดยหวังจะไล่ “นายกฯ บิ๊กตู่” ให้หลุดออกไป แต่ดูแล้วยังยากส์ส์ส์ ยากยิ่งกว่าการ “เข็นครกยักษ์สี่เหลี่ยมขึ้นเขา”

หรือว่า “เหลี่ยม-ทอน” จะทำเรื่อง “อึ้ง-ทึ่ง-เสียว” ด้วยการกระโจนลงไป “งมเข็มในมหาสมุทร”? ซึ่งกองเชียร์ “กลุ่มแคร์รับเงิน” แต่ไม่แคร์ “โทนี่แม้ว” เพ้อเจ้อส่งเดช ผลุบๆ โผล่ๆ เป็น “เจ้าไม่มีศาล” อยู่ใน “คลับเห่า”!

“การชิงอำนาจนั้นยาก แต่การรักษาอำนาจยากกว่าหลายเท่า เพราะอำนาจเป็นสิ่งที่หอมหวานที่สุดในโลก” จริงไหม “ตู่-เหลี่ยม-ทอน”?

ด้วย “ผลแพ้ชนะ”นั้ น ก็เพื่อ “คนชนะ” จะได้ “อำนาจรัฐ” ไปครอบครองในกำมือ ทำให้ก๊ก “บิ๊กเหลี่ยม-บิ๊กทอน” ต่อสู้แย่งชิงอำนาจ กับก๊ก “บิ๊กตู่” อย่างเอาเป็นเอาตาย โดยไม่สนใจว่า ได้ทำให้ชาติกับประชาชนต้องเสียหายอย่างใหญ่หลวง สร้างความเดือดร้อนให้กับคนไทยทั้งชาติ!

อืม..การศึกกับการทำดีให้ชาติ ยามมีอำนาจ อย่างที่ “นายกฯบิ๊กตู่” พึงกระทำโดยไม่รั้งรอ แต่ “นายกฯบิ๊กตู่” กลับละเว้นการแก้ต้นเหตุปัญหาให้ชาติ เป็นผลให้บ้านเมืองไม่สุขสงบเท่าที่ควร

“สุมาอี้” ที่ได้เป็นจักรพรรดิองค์ใหม่ ได้สอนลูกชาย “สุมาสู” ว่า “การปกครองบ้านเมือง ต้องมีความยุติธรรม สาระสำคัญอยู่ที่ บำเหน็จ ลงโทษ”

“คำพูด” ของ “ใครอีกคน” ใน “สามก๊ก” บอกถึงสัจธรรมว่า

“ชีวิตคนเราก็เหมือนพระอาทิตย์ มีขึ้น มีลง ใหญ่แค่ไหนก็ต้องตกดินลับขอบฟ้าไป” ที่สำคัญ “ปัญหาทุกอย่าง ล้วนอยู่ที่ตัวเราทั้งสิ้น” (ว่ะ)..เอ๊ะ!..จริงไหม “นายกฯ บิ๊กตู่”?

ขอปิดท้ายด้วยคำพูดใน “สามก๊ก” มอบให้ “นายกฯ บิ๊กตู่” โดยตรง..

“ฉลาดแต่เข้าข้างคนผิด ชีวิตก็บัดซบ ฉลาดแต่เข้ากับใครไม่ได้ก็ไร้ประโยชน์ ฉลาดแต่ขาดคุณธรรม ไม่ทำให้ใครเจริญ”

อืม..ถ้า “ผู้มีอำนาจบิ๊กตู่” เป็นเช่นนั้น? ชาติกับประชาชนก็วายป่วง “เรือหาย” น่ะสิวะ..!!!


“สอดแนมการเมือง” โดย “ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts