“สอดแนมการเมือง”
“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
เลือกตั้ง-สกปรกโสมม! นักการเมือง-จึงด้อยคุณภาพคุณธรรม! การเมือง-จึงโกงชาติไม่จบสิ้น!
ประชาธิปไตยไทย-จึงมิใช่ของ “ประชาชน” เพราะไม่ได้ทำเพื่อ “ประชาชน” ส่วนใหญ่เป็นหลัก!
ประชาธิปไตยไทย-เป็น “การเลือกตั้งของกลุ่มทุนสามานย์” เนื้อแท้จึงเป็นการเมืองระบอบ “ธนา-คณา-โจราธิปไตย”
ฉะนั้น.. “นายกฯ-รัฐบาลเลือกตั้ง” มักโกงชาติ เพื่อเอา “เงินสกปรก” เข้ากระเป๋าตนเองกับพรรคพวก..อ้อ!..กับเก็บไว้ “ซื้อเสียงกับโกงเลือกตั้ง” ครั้งต่อๆ ไปด้วย..!
ด้าน “ฝ่ายค้าน”.. ก็ต้อง “อดอยากปากแห้ง” เพราะจะหาประโยชน์ทั้งลับกับแจ้ง ได้ยากกว่าน้อยกว่าเป็นธรรมดา แต่ไม่ใช่ว่า “ฝ่ายค้าน” จะโกงชาติไม่ได้นะ เพียงแต่ “ฝ่ายรัฐบาล” มี “กลไกรัฐ” ในมือ มีอำนาจตามกฎหมาย จึง“ วางแผน” กับ “ใช้จ่าย” เรื่อง “เงินงบประมาณชาติ” แสวงหากอบโกย “เงินทอน” ในโครงการใหญ่น้อยของรัฐได้เต็มที่..จริงไหม?
“มหาเศรษฐีในชาติไทยหลายคน” จึงกำเงินมหาศาลมาลงทุน ทำตัวเป็น “นักธุรกิจการเมือง” ด้วยการ “ตั้งพรรค” ซื้อตัว “ส.ส.” ฐานคะแนนเสียงในแต่ละเขต ที่มีโอกาสสูงจะชนะคู่แข่ง กับทำทุกวิธีที่จะรวบรวมเสียงข้างมากในสภาฯให้ได้ เพื่อให้ “คนของพรรค” ได้รับการเลือกตั้งให้เป็น “นายกฯ” และแต่งตั้ง “คณะรัฐมนตรี” เป็น“รัฐบาลเลือกตั้ง” อย่างเป็นทางการ
จากนั้น.. เรื่องจะเดินไปตามสูตรการเมืองน้ำเน่า สู่การใช้ “อำนาจรัฐ” ตามด้วยการตั้งหน้าตั้งตาแสวงหากอบโกย “เงินทอง” กับ “ทรัพย์สินสารพัด” ทั้งภาครัฐและเอกชน มากกว่าการตั้งใจทุ่มเททำงานให้ชาติกับประชาชนเป็นหลัก ฯลฯ
เรื่องโกงชาติเกิดขึ้นมานานแล้ว.. ดังตัวอย่างในห้วงร่วมสองทศวรรษเป็นที่ประจักษ์ จากมหาเศรษฐี “เหลี่ยม” ที่ได้เป็น “นายกฯ เลือกตั้ง” ครบวาระ 4 ปี กับสืบทอดอำนาจอีกราว 1 ปี
การใช้อำนาจรัฐ ทำให้ “นายกฯ เหลี่ยม” ร่ำรวยเงินทองทรัพย์สินเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด จากการ “กล้าตระบัดสัตย์” ที่ได้ประกาศไว้กับคนไทยทั้งชาติว่า “ผมรวยแล้วไม่โกงชาติ”!!!
ทว่า..หลัง “เหลี่ยม” ได้เป็นนายกรัฐมนตรี “รัฐบาลเหลี่ยม” กับพลพรรคก็เผยธาตุแท้ โดยใช้อำนาจกับกลไกรัฐแทบทุกวิถีทาง เพื่อโกงชาติมโหฬารอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย จนมหาเศรษฐี “เหลี่ยม” ได้รับฉายา ติดตัวไปจนตาย ว่าเป็น “นายกฯ โคตรโกง” ไม่รู้จักพอ
ความเลวทรามของอดีตนายกฯ “เหลี่ยม” ไม่ได้หยุดแค่การโกงชาติไม่รู้จักพอ.. ยังบังอาจหนุนการ “ล้มเจ้า” อีกด้วย จึงทำให้ “เหลี่ยม” ถูกประชาชนผู้รักชาติรักสถาบันฯ ออกมาชุมนุมเคลื่อนไหวขับไล่ต่อเนื่องนานแรมปี
แต่ “เหลี่ยม” มิได้สำนึกผิด “เขา” กลับแสดงความโหดเหี้ยม ด้วยหวังจะสืบทอดอำนาจต่อไป จึงสำแดงธาตุแท้ใจอำมหิต ปราบปรามเข่นฆ่าประชาชน จนบาดเจ็บล้มตายกันไปมิใช่น้อย แต่ผู้ชุมนุมในนาม “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” มิได้เกรงกลัว ยังปักหลักต่อสู้ด้วยสองมือเปล่าต่อไป จนในที่สุด “คณะนายทหาร” ที่นำโดย“บิ๊กบัง” ก็ฉวยโอกาสใช้เป็นข้ออ้าง ยก “กองทัพ” ออกมาทำ “รัฐประหาร” โค่นล้ม “รัฐบาลเหลี่ยม”..
น่าเสียดาย..ที่ “ผู้นำรัฐประหาร” ครั้งนั้น ทำให้ “เสียของ” เพราะ “เยี่ยวไม่สุด” ไม่ได้ “แก้ต้นเหตุปัญหาชาติ” อันเลวร้ายต่อชาติกับประชาชน หลายหลากเรื่องให้หมดไป หรือกระทั่งให้ลดลงแม้แต่น้อย..!
“ผู้นำรัฐประหาร” ในครั้งนั้น ดันอยากสืบทอดอำนาจ จนยินยอม “เสียศักดิ์ศรี” ผันตัวไปเป็น “ผี-โม่แป้ง” ให้กับมหาเศรษฐี “เหลี่ยม” ด้วยการจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่ปฏิรูปชาติด้านการเมือง เพื่อให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรมมากที่สุด อันเป็นสิ่งสำคัญลำดันต้นๆ ของระบอบประชาธิปไตย..จริงไหม!?
เมื่อการเลือกตั้งยังสกปรกดังเดิม จึงเปรียบได้ดัง “ฝ่ายรัฐประหาร” คือผู้นำ “ชัยชนะ” ใส่พานไปประเคนให้กับ “พรรคมหาเศรษฐีเหลี่ยม” ที่พรั่งพร้อมทั้ง “เงินทอง” กับเชี่ยวชาญเรื่อง “การซื้อเสียง-การโกง” ผสานกับนโยบายประชานิยม โกยคะแนนเสียงได้เป็นกอบเป็นกำ จน “พรรคเหลี่ยมบงการ” ได้หวนคืนกลับมาเป็น “รัฐบาล” ได้อีกครั้ง..
ที่จริง..เป็นโอกาสที่มหาเศรษฐี “เหลี่ยม” จะได้ล้างบาปกลับตัวกลับใจ ทำงานเพื่อพัฒนาให้ชาติเจริญมั่นคง กับส่งเสริมให้ประชาชนมั่งคั่งยั่งยืนอยู่เย็นเป็นสุข
ทว่า.. พฤติกรรมชั่วของมหาเศรษฐี “เหลี่ยม” ยังคงเส้นคงวา ยังเดินหน้าโกงชาติกับล้มเจ้าอย่างไม่สะทกสะท้าน.. ถึงขนาดมีการตั้ง “คนล้มเจ้า” เป็น “รัฐมนตรี” ใน “รัฐบาลนอมีนี” อย่างโจ่งแจ้ง
รัฐบาลในเครือข่ายที่ “เหลี่ยม” บงการชุดแล้วชุดเล่า จึงถูกประชาชนผู้รักชาติ ชุมนุมขับไล่อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ “รัฐบาลนอมีนีชมพู่” จนถึง “รัฐบาลน้องเขยเหลี่ยม” ล้วนถูกประชาชนขับไล่จนอยู่ไม่ได้ ด้วยไร้ความชอบธรรมในการบริหารชาติ กระทั่งรัฐบาล “นายกฯมาร์ค-อภิสิทธิ์” ได้ขึ้นบริหารชาติแทนในเวลาต่อมา..
เมื่อ “ขาดอำนาจ”..ก็อดอยากปากแห้ง จึงต้องทุ่มเงินทองจ้าง “ผี-โม่แป้ง” ใช้ทุกวิถีทางรวมทั้งความรุนแรงสารพัด หวังจะยึดอำนาจรัฐกลับคืนมาให้ได้ ถึงขนาดปลุกระดมทั่วประเทศ จัดชุมนุมเดินขบวนไปทั่ว บานปลายถึงขั้นใช้กำลังคนบุกป่วนการประชุม “อาเซียนบวกหก” ณ เมืองพัทยา จน “ผู้นำโลก” หลายคนกับ “นายกฯ ไทย” ต้องเผ่นหนีกันจ้าละหวั่น การประชุมต้องล้มครืนลง..
เหตุการณ์ครั้งนั้น “เหลี่ยม” กับพลพรรค ถูกคนไทยรุมประณามสาปแช่งยับเยิน.. เป็นต้นเหตุให้ชาติไทยขายหน้าไปทั่วโลก ที่รัฐบาลไทยยุคนั้นไม่อาจปกป้อง “ผู้นำโลก” กับการประชุม “อาเซียนบวกหก” และที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน คือ ชาติและประชาชนไทยต้องเสียผลประโยชน์มหาศาล..จริงไหม..?
“รัฐบาลมาร์ค” ที่ส้มหล่นใส่ ได้โอกาสบริหารชาติในยามวิกฤติ ทว่า..“รัฐบาลมาร์ค” ก็ไม่มีการปฏิรูปชาติเช่นกัน แต่กลับจัดให้มีการเลือกตั้งครั้งใหม่ ซึ่งมหาเศรษฐี “เหลี่ยม” ได้ส่ง “น้องสาว” ผู้ไร้เดียงสาทางการเมือง มาเป็นหุ่นเชิด ลงสมัครรับเลือกตั้ง จนชนะได้ “ส.ส.” เกินครึ่งสภาฯ ได้เป็น “นายกฯ หญิง” คนแรกของชาติไทย ตั้งรัฐบาล “พี่ชายคิด-น้องสาวทำ” สำเร็จ ปฏิบัติการ “โกงชาติ” ต่อไป..
เฉพาะโครงการ “จำนำข้าว” เรื่องเดียวก็ผลาญเงินชาติไปกว่า 6 แสนล้านบาท เพราะ “พ่อค้า-นักการเมือง”
ปล้นเงินชาติด้วยการ “ซื้อข้าวชาวนาในราคาถูก” มา “ขายให้รัฐในราคาแพงหูฉี่” ฟันกำไรสูงลิบเฉพาะเรื่องนี้..พวก “พ่อค้า-ข้าราชการ-นักการเมือง” ขี้ฉ้อ ร่ำรวยทั้งเงินทองทรัพย์สินสารพัดจนพุงปลิ้นเลยล่ะ
“พี่ชายคิด-น้องสาวโกง” จน “นายกฯ หญิง” ถูกประชาชนชุมนุมขับไล่ และโดน “บิ๊กตู่” ทำรัฐประหาร ต้องเผ่นหนีคดีความกับคุกตะราง ไม่กี่วันก่อนศาลฯ จะพิพากษาให้ต้องติดคุกสองปี ไปอยู่แดนอาหรับกับ “พี่ชายจอมโกง” จนทุกวันนี้
ส่วนรายการโกงชาติของ “พี่ชาย-น้องสาว” คู่นี้ ผมไม่เสียเวลานำมาลงในบทความนี้ เพราะท่านหาอ่านได้ในโซเชียลมีเดียจากสื่อมวลชนหลากค่าย อ้อ!..ยกเว้นสื่อในเครือของ “ลูกหลานเหลี่ยม” นะครับ เพราะสื่อฯพวกนั้นจะเปลี่ยน “ซาตานเหลี่ยม” ให้กลายเป็น “เทวดาเหลี่ยม” แบบหน้าด้านๆ ครับ!
มาต่อที่ “นายกฯตู่” ที่ยึดอำนาจมาได้.. บริหารชาตินานกว่า 8 ปี “นายกฯ ตู่” ไม่ได้ปราบปราบขบวนการโกงชาติจริงจัง! มิได้ลดความเหลื่อมล้ำมิติต่างๆให้สังคม! แถม “ตู่ยังทำผิดคำพูด” คือ ไม่ปฏิรูปชาติแม้แต่น้อย เรียกว่า.. “นายกฯตู่” ไม่รู้สำนึกในภารกิจสำคัญยิ่งยวด ชาติบ้านเมืองจึงต้องจมปลักกับการเมืองที่ “ถอยหลังลงคลอง” ฯลฯ ประชาชนส่วนใหญ่ยากจนลง หาเช้าไม่พอกินค่ำ-หาค่ำไม่พอกินเช้า ฯลฯ
ผลงานกว่า 8 ปีของ “นายกฯ ตู่” มีแต่ผลงานทั่วไปราวกับเป็นปลัดประเทศ แต่ “ผลงานหลัก” ไม่เข้าตาประชาชน ชื่อเสียงความน่าเชื่อถือของ “นายกฯ ตู่” จึงตกต่ำเตี้ยเรี่ยดินลงไปเรื่อยๆ
ขณะที่ผลงานในอดีตของ “เหลี่ยม” ยังครองใจประชาชน ผลการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา “พรรคเหลี่ยม” จึงชนะเลือกตั้ง ได้ “ส.ส.เขต” มากกว่าพรรคหนุน “นายกฯ ตู่”..
โชคดีที่ “กุนซือรัฐบาลตู่” วางแผนอย่างรอบคอบ ให้ “ส.ว.250 เสียง” มีสิทธิ์เลือก “นายกฯ” จึงทำให้ “ผู้นำชาติไทยตู่” ได้ยืนยิ้มเผล่ ต้อนรับ “ผู้นำโลก” ในการประชุม “เอเปค”!
แต่..เลือกตั้งครั้งหน้า ถ้า “พรรคเหลี่ยม” ชนะ “พรรคหนุนตู่”! “บิ๊กตู่” จะได้เป็น “ผู้นำชาติไทย”อีกไหม?
การเมืองไทยนับจากนี้ไป..ชะตากรรม “บิ๊กตู่” จะรุ่งหรือจะร่วง..น่าติดตามว่ะ..!!!???
