เห็น “เจ้าสัวน้อย” ศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซี.พี) ออกมาแสดงจุดยืนเห็นด้วยกับการที่รัฐเปิดกว้างให้เอกชนจัดซื้อวัคซีนทางเลือกอย่าง ซิโนฟาร์ม ไฟเซอร์ โมเดอร์นา และ อื่นๆ เพื่อฉีดให้กับพนักงานและครอบครัวเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของภาครัฐและเป็นหนทางที่จะทำให้ประชาชนเข้าถึงวัคซีนได้กว้างขวางมากขึ้นแล้ว ก็อดชื่นชมแนวคิดและจุดยืนของ “เจ้าสัวน้อย” ไม่ได้
พร้อมระบุด้วยว่า เครือ ซี.พี.เห็นด้วยและสนับสนุนแนวทางดังกล่าว โดยถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเปิดโอกาสให้มีวัคซีนทางเลือก เพื่อให้ภาคเอกชนที่มีกำลังซื้อนำเข้ามาได้ เพราะขณะนี้วัคซีนโควิดยังเป็นการใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน การขยายวิธีการนำเข้าวัคซีนทางเลือกชนิดอื่นจะเพิ่มโอกาสให้คนไทยเข้าถึงวัคซีนที่หลากหลายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
แนวคิดของ “เจ้าสัวศุภชัย” ข้างต้นถือเป็นจุดยืนที่ทำให้ภาพลักษณ์ของเครือ ซี.พี.ที่ถูกมองว่า เป็นกลุ่มทุนที่หวังแต่จะ “กินรวบธุรกิจ” มาโดยตลอดปรับเปลี่ยน และดีขึ้นอักโขเลยทีเดียว เพราะนอกเหนือจาก กลุ่ม ซี.พี.จะทุ่มงบเป็น 100 ล้านสร้างโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยคอยแจกจ่ายให้แก่โรงพยาบาลและบุคคลากรทางการแพทย์ไปก่อนหน้านี้แล้ว
ในห้วงที่สถานการณ์โควิดระบาดรุนแรงรอบนี้ ยังไฟเขียวให้ธุรกิจในเครือทั้ง เซเว่นอีเลฟเวน (7-11) แมคโคร โลตัส จัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งอำนวยความสะดวกอีกหลายอย่างไปมอบให้แก่โรงพยาบาลสนามในพื้นที่ใกล้เคียงที่ตั้งสาขาอีกด้วย เมื่อประธานคณะผู้บริหารเครือ ซี.พี.ออกมาแสดงจุดยืนล่าสุด จึงยิ่งสอดคล้องกับความคาดหวังที่ผู้คนในสังคมอยากเห็นจากกลุ่มทุนธุรกิจอย่างนี้มานานแล้ว
แต่จะให้ดีกว่านี้ หากเครือ ซี.พี.จะได้ทบทวนแนวคิดการดำเนินธุรกิจและรุกคืบทางธุรกิจบางประเภทที่เป็นเรื่องอ่อนไหวต่อผู้คนในสังคม อย่างเรื่องของการเปิดเคาท์เตอร์ “All meal” ขายอาหารตามสั่งในร้านเซเว่น แข่งขันกับบรรดาข้าวแกงริมทางทั้งหลายแหล่ ที่ล่าสุดกระแสโซเชียลออกมาเหน็บแรงๆ กรณีเซเว่นสาขาโคราชเปิดเคาท์เตอร์ขายอาหารตามสั่งเอาใจสายเฮลท์ตี้ในราคาเมนูละแค่ 55 บาทเท่านั้น โดยประเดิม 4 เมนูอย่าง ข้าวผัดเห็ดออรินจิ สปาเก็ตตี้พอร์คบอล-แพลนต์เบส์ ข้าวผัดแกงเขียวหวานไก่-แพลนต์เบส์ และกะเพราขี้เมาเห็ดออรินจิ เป็นต้น
จะว่าไปเซเว่นฯ นั้นได้ซุ่มเปิด เคาท์เตอร์ All meal ที่ว่านี้มาตั้งแต่ปี 2557 แล้ว โดยประเดิมที่สาขาประชาสงเคราะห์ 23 ดินแดง โดยมีเมนูอันหลากหลายกว่า 20-30 เมนูให้ลูกค้าได้เลือก ทั้งเมนูข้าวผัด แกง ข้าวต้ม เมนูเส้นและขนมหวาน สร้างความฮือฮาให้กับผู้คนในห้วงเวลานั้นพอสมควร ก่อนจะทยอยขยายไปยังสาขาอื่น ๆ ที่มีความพร้อมและสถานที่อำนวย
และก็ใช่จะมีแต่เคาท์เตอร์อาหารตามสั่งนี้เท่านั้น ก่อนหน้านี้เซเว่นฯ ก็เปิด All café เคาท์เตอร์กาแฟสด ที่ทำออกมาเขย่าตลาดกาแฟพรีเมี่ยมแข่งบรรดากาแฟคี-ออส คาเฟ่อเมซอนและกาแฟโบราณทั้งหลายแหล่ให้ฮือฮากันมาแล้ว ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์ในสังคมในวงกว้างที่มีทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
โดยกลุ่มที่เห็นด้วยก็ว่าเป็นเรื่องของธุรกิจและการแข่งขันทางธุรกิจ ส่วนฝั่งที่ไม่เห็นด้วยก็ว่า อาศัยความได้เปรียบ เบียดตลาดแย่งอาชีพแม่ค้าขายข้าวแกงริมทาง ยิ่งในห้วงวิกฤตปัจจุบันที่ร้านรวงริมทางทั้งหลายทยอยปิดกิจการกันเป็นรายวันด้วยแล้ว
แม้ก้าวรุกในการดำเนินธุรกิจข้างต้นเหล่านี้ ในส่วนของภาครัฐคือกรมการค้าภายในและกระทรวงพาณิชย์ที่เคยลงไปตรวจสอบแล้วจะยืนยันว่าทำได้เพราะกฎหมายไม่ได้ห้ามอะไร แต่ต้องไม่ทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อนหรือไปทำลายธุรกิจรายย่อยที่มีอยู่แล้ว ซึ่งถือเป็นการใช้อำนาจเหนือตลาดลดการแข่งขัน หากได้รับการร้องเรียนว่าเข้าข่าย ก็พร้อมใช้กฎหมายลงโทษ แต่เรื่องของ “จริยธรรม”ในการดำเนินธุรกิจนั้น คงเป็นเรื่องของจิตสำนึกของบริษัทเองว่าจะเลือกทางไหน ทางการไม่สามารถเข้าไปสั่งการได้
จุดนี้แหล่ะที่ยังทำให้ผู้คนในสังคมยังคงคลางแคลงใจอยู่ หากเมื่อไหร่ที่ทุนยักษ์ ซี.พี.ปรับเปลี่ยนบทบาทใหม่แทนที่จะ “กินรวบทุกธุรกิจ” แค่ปรับเปลี่ยนมาเป็นพี่เลี้ยง SME ที่กำลังสำลักพิษโควิดกันอยู่เวลานี้นับแสนๆ ราย นอกเหนือจากที่เข้าไปส่งเสริมและเป็นพี่เลี้ยงปรับเปลี่ยนธุรกิจแบบไก่ย่าง 5 ดาว หรือมุ่งแต่ป้อนสินค้าให้กับเซเว่นฯ หรือธุรกิจในเครือโดยตรงแล้ว หากปรับเพิ่มบทบาทมาเป็นพี่เลี้ยงเอสเอ็มอี หรือร้านค้าข้าวแกง ดั่งที่หอการค้าไทยและ กกร.กำลังเพรียกหาอยู่ในเวลานี้
