ภญ.นพวรรณ หัวใจมั่น ว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม.เขตบางเขน กล่าวว่า เกือบ 4 ปีแล้วที่ประชาชนต้องเผชิญกับการระบาดของโควิด ซึ่งเราได้บทเรียนหลายอย่างในเรื่องของรักษา เช่น ประชาชนที่ติดโควิด-19 ไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ทำให้มีเคสผู้ติดเชื้อเสียชีวิตขณะที่กำลังรอเตียงผู้ป่วย นี่ทำให้เห็นว่าหากเรามีโรงพยาบาลรัฐหรือศูนย์สาธารณสุขในทุกเขต สามารถรองรับและทำให้ประชาชนเข้าถึงระบบการรักษาได้ง่ายขึ้น สิ่งนี้จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยได้ โดยที่ผู้ป่วยไม่ต้องนอนรอเตียงโรงพยาบาลว่างอยู่ที่บ้าน ด้วยเหตุนี้ตนจึงอยากขอผลักดันเรื่องการรักษาพยาบาลที่จำเป็นจริงๆ ให้ประชาชนได้เข้าถึงง่าย สะดวก ไม่ต้องรอคิวตั้งแต่เช้าได้ตรวจเที่ยง ตรวจบ่ายหรือบางคนต้องมาวันอื่น โรงพยาบาลดี คลินิกดี และทันสมัยต้องมีทุกเขตในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
อีกทั้งจากการที่ตนลงพื้นที่ ได้เข้าไปพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่ และพบปัญหาว่า การส่งคนไข้ต่อจากโรงพยาบาลหนึ่งไปอีกโรงพยาบาลหนึ่ง มักเกิดปัญหาข้อมูลประวัติผู้ป่วยไม่มีการเชื่อมถึงกัน ตนเลยมีความคิดว่าหากเราใช้บัตรประชาชนใบเดียว ที่สามารถเชื่อมข้อมูลการรักษาของผู้ป่วยได้ ทำให้เมื่อเราย้ายการรักษาไปอีกโรงพยาบาล คุณหมอสามารถทราบข้อมูลประวัติการรักษาจากที่เดิมได้ โดยที่เราไม่ต้องไปตรวจใหม่ เพราะเรามีระบบที่ปลอดภัย นั่นคือระบบคลาวด์ ที่จะเก็บข้อมูลส่วนกลางของผู้ป่วยแต่ละเคสไว้ ทำให้แต่ละโรงพยาบาลสามารถดึงข้อมูลนั้นไปใช้ได้เลย
รวมถึงตอนนี้ประเทศไทยของเรา ได้เข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างเต็มรูปแบบแล้ว พรรคพลังประชารัฐของเราจึงทำนโยบายเพิ่มเบี้ยผู้สูงวัย ไม่เพียงแค่นั้นเรายังทำให้กับคนทุกวัย ทุกบ้าน เพราะทุกบ้านมีผู้สูงวัย ผู้สูงวัยต้องไม่ใช่ภาระ แต่คือคนที่เราต้องดูแล
นอกจากนี้ปัญหาถนนขรุขระเป็นหลุมบ่อในพื้นที่ก่อสร้างต่าง ๆ เช่น เส้นถนนรามอินทรา แจ้งวัฒนะ ที่มีการก่อสร้างอยู่ จะเห็นได้ว่าถนนขรุขระ เป็นหลุม ทำให้คนนั่ง คนขับรถได้รับการกระเทือน ช่วงล่างรถพัง ฉะนั้นปัญหาการก่อสร้างในพื้นที่ต่าง ๆ เมื่อมีการก่อสร้างเสร็จในส่วนไหน ควรรีบมีการคืนพื้นที่ผิวถนน ปรับปรุงถนนที่ก่อสร้าง เพราะการที่มีหลุมบ่อ ทางขรุขระ ต้องเร่งคืนพื้นผิวถนนการจราจรในทุกเส้นทาง หลังจากที่ก่อสร้างบริเวณนั้นเสร็จ ไม่ใช่รอจนก่อสร้างเสร็จถึงคืนผิวถนน ตนขอเป็นหนึ่งเสียงที่จะผลักดันเรื่องการแก้ไขปัญหาการเร่งคืนถนนทุกเส้น หลังจากก่อสร้างบริเวณนั้นเสร็จ
