(ตอน) แต่งตั้ง “ชูวิทย์” เป็นนายกฯ…ดีไหม??
ผมใช้ความพยายาม…ทำความเข้าใจกับ “ความคิด” มันสะท้อนความรู้สึก
เหมือนความว่างเปล่า ที่ขาด “แนวร่วม” การมองช่องทางแก้ “ภัยพิบัติ” ในความเป็นความตาย ที่ทุกคนมีผลกระทบรุนแรง ในแผ่นดิน ทั่วหัวระแหง
ร่วมเป็นร่วมตายกันอยู่ในขณะนี้
ดูเหมือนเราคือ “ชนกลุ่มน้อย” ที่นั่งรำพันออกมา…เหมือน “หมาเห่าใบตองแห้ง” อยู่รอบกองเพลิง เพียงลำพัง
มองไปทางไหนก็ไม่มีเสียงขานรับ…กลับพูดใส่หน้า “ไฟป่ามันลามอยู่ในป่า…มลพิษไม่ได้มาปิดจมูกเราซักหน่อย”
“เรื่องของเขา…ไม่ใช่เรื่องของเรา”
“มึงมีหน้าที่อะไร….บอกกูได้ไหม”
“พวกมันมีหน้าที่…มีอำนาจล้นฟ้าล้นแผ่นดินไม่เห็นหัวใครไปรับรู้รับผิดชอบ”
อีกหลายต่อหลายคำพูด…ที่เราฟังแล้วแทบสำลัก “มึงแน่จริง ช่วยบอกคุณชูวิทย์ไปด่าพวกนั้นดูบ้างซิ”
ไฟป่า มลพิษ เต็มท้องฟ้า เต็มบ้านเต็มเมือง…ไม่มีฝ่ายอำนาจใดใส่ใจ
หรือ…คอยให้คุณชูวิทย์ช่วยจูงจมูก ลากคอคนใจร้ายทั้งหลาย กลัวความผิด ที่ปล่อยปละเลย ให้คุณชูวิทย์ต้องเดือดร้อน ออกมาลากใส้ให้มาลากคอไปทำหน้าที่
สื่อ…ที่เลือกแต่ข่าวได้เสียกับธุรกิจ จึงนำเสนอข่าว…เท่านั้นหรือ??
นักการเมืองหรือ…หน้าไหนมันจะกล้าเดินไปตามหมู่บ้าน ต้นทางไฟลามป่า รู้กันอยู่เต็มอก
มันเกิดจากคน….พวกนายทุนหนุนหลังชาวบ้าน เตรียมทำแปลงปลูกข้าวโพด
“มือชาวบ้าน” ประปราย ที่ตั้งใจเผาเพื่อล่าสัตว์…รอเก็บเห็ดฤดูฝน
มีไหม? นักการเมืองลงพื้นที่ขอร้องให้ชาวบ้านหยุดทำร้ายตนเองและประเทศชาติส่วนรวม
พูดไป…ก็สอบตก!!
สู้นิ่งเฉยปล่อยให้เผากันไปตามใจเขา….พรรคเราก็สอบผ่าน
บ้านเมืองฉิบหายช่างหัวมัน!!
ครับ…ความวิบัติที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ มีอยู่ช่องทางเดียว ที่พอจะเลือกแก้ปัญหาได้ คงต้องขอแรงรบกวนผู้มีประสพการเช่น คุณชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ เท่านั้น
ที่ประชาชน นักการเมือง ข้าราชการในแผ่นดิน ก้มหัวให้…หรือ??
หรือ…ถ้าคิดยึดอำนาจ กลับมาปกครองบ้านเมืองอีก ก็อย่าลืม แต่งตั้งให้ตั้งคุณขูวิทย์เป็นนายกฯ
บ้านเมืองจะได้สงบเสียที