ศาลตัดสินยกฟ้อง “สุนันท์ ศรีจันทรา” และ “สุรวิชช์ วีรวรรณ” บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ 360องศา คดีหมิ่นพล.ต.ท.ธนายุตม์ หรือโอ๋สืบ 6 ระบุจำเลยแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรม
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา ที่ศาลอาญารัชดาภิเษก ศาลได้พิจารณาคดีที่ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ฉายาโอ๋สืบ 6 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสุรวิชช์ วีรวรรณ โดยระบุว่าเป็นบรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณาเว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ และนายสุนันท์ ศรีจันทรา ผู้เขียนคอลัมน์ “โอ๋สืบ 6 ชุบตัวยุคลุงตู่” ลงในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ 360องศา ในความผิดฐานหมิ่นประมาท ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและถูกเกลียดชัง พร้อมเรียกค่าเสียหาย 10 ล้านบาท
ศาลวินิฉัยว่า นายสุรวิชช์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ จึงไม่มีน้ำหนักรับฟังได้ว่า นายสุรวิชช์ ร่วมกับนายสุนันท์ เผยแพร่บทความเรื่อง “โอ๋สืบ 6 ชุบตัวยุคลุงตู่”
ส่วนบทความของนายสุนันท์ เพียงนำเสนอข้อเท็จจริงตามข้อมูลหลักฐานที่มีอยู่จริง เป็นการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับผู้บัญชาการ ซึ่งเป็นเรื่องที่สาธารณชนควรมีสิทธิโดยชอบธรรม โดยจำเลยระบุชื่อและชื่อสกุลจริงในการเขียนบทความโดยชัดแจ้ง ย่อมแสดงให้เห็นว่า จำเลยนำบทความลงในเว็บไซต์ด้วยเจตนาสุจริต
และแม้โจทก์จะไม่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการในช่วงที่มีการเผยแพร่บทความ แต่ไม่ปรากฏหลักฐานว่า เป็นเพราะบทความของนายสุนันท์ และบทความของนายสุนันท์ เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรม ในฐานะสื่อมวลชนย่อมกระทำได้ จึงไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์ พิพากษายกฟ้อง
สำหรับ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เดิมชื่อ ฤทธิรงค์ เทพจันดา หรือฉายา โอ๋สืบ 6 เคยถูกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด ฐานะละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ กรณีร่วมกับกลุ่มบุคคลทำร้ายกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ตะโกนขับไล่นายทักษิณ ชินวัตร ที่เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2549 ก่อนถูกให้ออกจากราชการ และถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุกเป็นเวลา 2 ปี แต่ให้รอลงอาญาเป็นเวลา 2 ปี
ต่อมา พล.ต.ท.ธนายุตม์ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองจังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ โดยขอทุเลาคำสั่งปลดออก โดยศาลปกครองได้ทุเลาคำสั่ง ทำให้โอ๋สืบ 6 ได้กลับเข้ารับราชการ และได้รับตำแหน่งสูงขึ้น แม้จะมีมลทินติดตัวก็ตาม จนก้าวขึ้นมาผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 และมักจะเป็นผู้แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาคดีใหญ่ๆ ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 7 ด้วยตัวเอง