ยอมรับกันแล้วว่าโลก ค.ศ.2023 มีมหาอำนาจหลักอยู่ 2 ประเทศคือสหรัฐฯและจีน ทุกครั้งที่สหรัฐฯส่งผู้แทนระดับสูงไปเยือนเมืองจีน พวกสื่ออเมริกันมักจะตีไข่ใส่ข่าวกันครึกโครมว่า สหรัฐฯมาสั่งสอนจีน มาแนะนำจีนให้ทำอย่างโน้นอย่างนี้ สหรัฐฯใช้เทคนิคนี้เพื่อหลอกคนอเมริกันว่าพวกตนยังเป็นเผ่าพันธุ์ที่เหนือกว่า ส่วนจีนนั้นเป็นประเทศด้อยกว่าที่ต้องการการอบรมสั่งสอนแนะนำจากพวกเราชาวสหรัฐฯ
ระยะหลังจีนจับไต๋ได้ จึงไม่ได้ต้อนรับคณะผู้นำสหรัฐฯอย่างหรูหราหมาเห่าเท่าที่ควร เพราะไม่อยากให้ฝ่ายสหรัฐฯนำภาพไปใช้โม้กับคนอเมริกันและชาวโลก การต้อนรับขับสู้จึงเป็นไปอย่างพื้นๆ ในห้วงช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา สหรัฐฯส่งรัฐมนตรีมาเยือน จีน 2 คนด้วยกัน คือนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศ และนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลัง
รัฐมนตรีต่างประเทศมาแว้บๆ แป๊บๆ อุจจาระปัสสาวะ เช็ดก้นเสร็จแล้วก็บินกลับ ส่วนรัฐมนตรีคลังยังมาอยู่นานกว่า มาคุยกันหวานๆ แต่ในความเป็นจริง ไบเดนกำลังจะประกาศห้ามบริษัทอินวีเดียส่งชิปที่จะใช้ด้านปัญญาประดิษฐ์ ทั้งรุ่น A800 และรุ่น H800 ให้จีน เพื่อไม่ให้จีนพัฒนางานของตนได้ นอกจากนั้น ไบเดนยังต้องการจำกัดกองทุนต่างๆ ของสหรัฐฯที่เข้าไปลงทุนในภาคเทคโนโลยีขั้นสูงในจีน โดยจะเริ่มจำกัดตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม 2023 เป็นต้นไป
แต่ก่อนง่อนชะไร สหรัฐฯไม่เคยมองคู่เจรจาว่ามีความสัมพันธ์แบบเท่าเทียมกัน โฆษกกระทรวงการคลังของจีนพยายามย้ำว่าการมาเยือนของนางเยลเลนเป็นความสัมพันธ์แบบเท่าเทียมกัน การเยือนของเยลเลนในครั้งนี้เกิดจากการตัดสินใจของทั้งสองฝ่าย ฝ่ายสหรัฐฯและฝ่ายจีน ไม่ได้มาจากการที่จีนกระสันเชิญให้มาเยือนจนตัวสั่น จีนไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเรื่องใดทั้งสิ้น
การพูดของโฆษกกระทรวงการคลังของจีนเป็นการป้องกันไม่ให้สื่ออเมริกันทั้งหลายแพร่ข่าวออกมาทำนองว่า อ้า จีนขายของไม่ได้ จึงต้องเชิญรัฐมนตรีของสหรัฐฯมาเยือน ว่ากันตามความจริงแล้ว ประธานาธิบดีไบเดนส่งคนมาจีนผิด ปัญหาคาราคาซังระหว่างจีนกับสหรัฐฯที่เกิดมาตั้งแต่ยุคของนายทรัมป์ ก็คือ ‘ปัญหาทางการค้า’ ทรัมป์ประกาศสงครามการค้ากับจีน โดยหวังว่าจีนจะอยู่ไม่ได้ แต่ตอนนี้ก็พิสูจน์แล้วว่า จีนสบายดี คนที่ไบเดนน่าจะส่งมาคุยกะจีนก็คือรัฐมนตรีกระทรวงการค้าหรือพาณิชย์ หรือผู้แทนการค้าสหรัฐฯมากกว่า
จีนรู้แท้แน่ชัดว่าสหรัฐฯพยายามปิดล้อมจีน แต่จีนไม่ตาย ไอ้คนที่จะดิ้นเป็นไส้เดือนโดนขี้เถ้าและตายในบั้นปลายท้ายที่สุดก็คือสหรัฐฯ แต่ก่อนง่อนชะไร สหรัฐฯมักจะบีบจีนให้ยอมประนีประนอมในเรื่องต่างๆ ทว่ามาคราวนี้ จีนไม่ประนีประนอมยอมสหรัฐฯทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเรื่องอะไร อย่างที่ผมเขียนรับใช้ไปแล้วว่า จีนให้สหรัฐฯเจรจากับตนบนพื้นฐาน ที่เท่าเทียมกันทั้งสองฝ่าย
ประธานาธิบดีไบเดนเล่นงานจีนก่อนหลายเรื่อง รัฐบาลจีนจึงออกมาตรการควบคุมการส่งออกโลหะที่สำคัญต่อการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ นางเยลเลนมาครั้งนี้ก็นำสารของไบเดนมาบอกกับจีนว่า อ้า รัฐบาลสหรัฐฯกังวลต่อการที่จีนใช้มาตรการควบคุมการส่งออกโลหะ รวมทั้งการที่รัฐบาลจีนลงโทษกิจการต่างๆ ของสหรัฐฯที่มาทำมาหากินในจีน นางเยลเลนต้องการให้จีนแก้ไขในสองเรื่องหลักนี้ในสหรัฐฯด้วย
หลายท่านถามว่า การเยือนจีนอย่างเป็นทางการ 4 วันของนางเยลเลนที่เสร็จสิ้นไป มีอะไรเป็นมรรคเป็นผลบ้างไหม ขอเรียนว่า อ้า ‘ไม่มี’ นอกจากนำประโยคมาสื่อให้รัฐบาลจีนเข้าใจคือ ขอให้แข่งขัน (ทางการค้า) กันอย่างมีคุณภาพ และเป็นไปด้วยความยุติธรรม สร้างผลประโยชน์ให้กับทั้ง 2 ฝ่าย
ในระดับเท่าเทียมกัน ไม่ใช่การกินรวบเหมือนอย่างที่จีนเข้าไปกินรวบในตลาดสหรัฐฯและตลาดต่างๆทั่วโลกเหมือนในอดีตที่ผ่านมา.