“…‘วัชระ’ ร้อง วันนอร์ และ ปดิพัทธ์ คัดค้านและไม่เห็นด้วยกับเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและคณะกรรมการตรวจการจ้างโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบ ที่แก้ไขเพิ่มเติมสัญญาจ้างเลขที่ ๑๑๖/๒๕๕๖ ลงวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๖๖ คิดค่าปรับเป็นศูนย์ (๐) อันอาจทำให้ทางราชการเสียหายอย่างร้ายแรง…”
เมื่อวันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๖๖ นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตามที่เฟซบุ๊ก Tawee Sodsong พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ได้เผยแพร่เมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๖ เรื่องการก่อสร้างรัฐสภาล่าช้ามากกว่า ๒ ปี ผู้รับเหมาต้องเสียเงินค่าปรับตามสัญญามากกว่า ๙.๘ พันล้านบาท ทำไมค่าปรับจึงเป็น “๐” (หายสิ้นไป) ? และสื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวเรื่องดังกล่าวปรากฏต่อสาธารณชนนั้น
นายวัชระ กล่าวอีกว่า ขอสนับสนุนการแสดงความคิดเห็นของ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและหัวหน้าพรรคประชาชาติดังกล่าวและขอคัดค้านการคิดค่าปรับเป็นศูนย์ (๐) โครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบ จากกรณีที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรโดยเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร (นางพรพิศ เพชรเจริญ) และคณะกรรมการตรวจการจ้างฯ (ชุด นายสาธิต ประเสริฐศักดิ์ ประธานกรรมการตรวจการจ้าง) ได้ทำบันทึกแก้ไขเพิ่มเติมแนบท้ายสัญญาจ้างก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบ เลขที่ ๑๑๖/๒๕๕๖ ลงวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๖๖ (สิ่งที่ส่งมาด้วย ๓) มีสาระสำคัญคือ ผู้รับจ้างจะต้องชำระค่าปรับเป็นรายวันให้แก่ผู้ว่าจ้างในอัตราร้อยละ ๐ (ศูนย์) ตั้งแต่วันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๓ ถึงวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๕ ของราคางานจ้างก่อสร้างทั้งหมดตามสัญญาซึ่งมีพฤติการณ์ส่อว่าเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนหรือไม่ และทางราชการเสียหายอย่างร้ายแรงหรือไม่ เนื่องจากขณะนี้สำนักงานฯ ถูกผู้รับจ้างฟ้องศาลปกครองเรียกค่าเสียหายจำนวนเงิน ๑,๕๙๖,๕๙๒,๓๐๕.๔๖ บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปีของต้นเงินดังกล่าว (สิ่งที่ส่งมาด้วย ๔)
ณ วันนี้ วันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๖๖ งานก่อสร้างก็ยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ปราศจากข้อบกพร่องทั้งนี้หากสำนักงานฯ ไม่มีพฤติการณ์แก้ไขสัญญาที่ส่อว่าเอื้อประโยชน์โดยคิดค่าปรับเป็นศูนย์ (๐) งานก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่จะล่วงเลยกำหนดการส่งมอบงานตามสัญญา จำนวน ๓,๗๖๒ วัน ค่าปรับวันละ ๑๒,๒๘๐,๐๐๐ บาท ค่าปรับคิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น ๔๖,๑๙๗,๓๖๐,๐๐๐ บาท หรือหากคิดค่าปรับเฉพาะนับจากสิ้นสุดสัญญาขยายครั้งสุดท้าย (๑ มกราคม ๒๕๖๔ – ๒๕ กันยายน ๒๕๖๖) รวมจำนวน ๙๙๘ วัน ค่าปรับคิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น ๑๒,๒๕๕,๔๔๐,๐๐๐ บาท
นายวัชระ กล่าวอีกว่า ในฐานะประชาชนผู้เสียภาษีขอคัดค้านการที่เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรแก้ไขสัญญาเพิ่มเติมคิดค่าปรับเป็นศูนย์ (๐) ทั้งนี้ต้องให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ทั้งคู่สัญญาและประเทศชาติ
ล่าสุดเมื่อวันที่ ๒๕ กันยายนที่ผ่านมา นายวัชระ ได้เดินทางไปที่รัฐสภาเพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร และ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ที่รัฐสภา เพื่อติดตามทวงถาม ในฐานะผู้รับผิดชอบ ให้ทราบและพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายและสัญญาการก่อสร้างอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาผลประโยชน์ของราชการและภาษีอากรของประชาชนทั้งประเทศ
สืบจากข่าว รายงาน