การประชุมเวทีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Forum for International Cooperation: BRF) ระหว่างวันที่ 17-18 ตุลาคม 2566 ถือเป็นการประชุมที่รัฐบาลจีนให้ความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะปีนี้ถือเป็นการประชุมครั้งที่ 3 และเป็นโอกาสครบรอบ 1 ทศวรรษของโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง
จีนปรารถนาให้โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง กระชับความร่วมมือกับประเทศกำลังพัฒนาและประเทศที่เศรษฐกิจกำลังเฟื่องฟูหรือที่รู้จักกันในชื่อกลุ่มโลกใต้ และสร้างทางเลือกรับมือความเหนือกว่าของชาติตะวันตก โดยกระทรวงต่างประเทศของจีนระบุว่าการประชุมครั้งนี้ จะมีการหารือทวิภาคีหลายเวทีที่จัดขึ้นนอกรอบการประชุมด้วย ซึ่งมีผู้แทนจากกว่า 130 ประเทศตัดสินใจเข้าร่วมประชุม รวมถึงประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ที่ถูกศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ไอซีซี (ICC) ออกหมายจับในข้อหาก่ออาชญากรรมสงครามในยูเครน เนื่องจากจีนไม่ได้เป็นสมาชิกของไอซีซี ทำให้ไอซีซีไม่มีขอบเขตอำนาจเหนือดินแดนจีน
การประชุมครั้งนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของไทย มีกำหนดเข้าร่วมประชุมด้วย ตามคำเชิญของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งจะเป็นโอกาสให้นายกรัฐมนตรีเพิ่มความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนจีนและทั่วโลก ในด้านความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจของไทย โครงสร้างพื้นฐาน ดิจิทัล และการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ในการเดินทางครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีของไทยมีกำหนดการพบหารือกับผู้นำและบุคคลสำคัญหลายท่านของจีน ได้แก่ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน และนายจ้าว เล่อจี้ ประธานสภาประชาชนแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านระหว่างไทย – จีน ให้แน่นแฟ้น และได้เสริมสร้างความร่วมมือที่ใกล้ชิด ทั้งด้านการค้า การลงทุน ความเชื่อมโยง และความสัมพันธ์ระดับประชาชน
หวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวเมื่อเร็วๆนี้ในงานแถลงข่าวว่า “ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ความร่วมมือ BRI ประสบความสำเร็จอย่างมีประสิทธิผล” พร้อมเสริมว่าได้จัดตั้งโครงการความร่วมมือมากกว่า 3,000 โครงการ และกระตุ้นการลงทุนเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
การประชุมครั้งนี้ จึงไม่เพียงแต่เป็นการเฉลิมฉลองอันยิ่งใหญ่ของวาระครบรอบ 10 ปี ของแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางนำเสนอเท่านั้น ทว่ายังเป็นเวทีสำคัญสำหรับการหารือเกี่ยวกับการร่วมก่อสร้างแผนริเริ่มฯ ที่มีคุณภาพสูงสำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง