อาชีวศึกษาไทย-จีน ผสานความร่วมมือด้านการศึกษาสมัยใหม่ 210 สาขา เปิดโอกาสนักเรียนไทยฝึกอบรม “ภาษาจีน+ทักษะวิชาชีพ” ยกระดับความร่วมมือการศึกษานานาชาติแบบดิจิทัล
เรืออากาศโท สมพร ปานดำ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ได้รับมอบหมายจากเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ประเทศไทย คุณ ฟู่ โป๋ รองเลขาธิการสมาคมแลกเปลี่ยนการศึกษาระหว่างประเทศของจีน คุณ Moin ul Haque (โมอิน อุล ฮาก) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิสลามปากีสถานประจำประเทศจีน คุณ Shakib Bin Ahmad Shakir (ชากิบ บิน อาหมัด ชากีร์) อธิบดีฝ่ายกำลังคน กระทรวงทรัพยากรมนุษย์ มาเลเซีย คุณ เผิง ไต้หยิน อธิการบดีมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนอันฮุย คุณ หลี่ จิ้นซง ประธานการศึกษานานาชาติถังฟงกรุ๊ป ผู้บริหารมหาวิทยาลัยจีนและตัวแทนจากวิทยาลัยของจีน ร่วมพิธีความร่วมมือ “อุตสาหกรรม-การศึกษา” ระหว่างประเทศ ในบริบทของการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลในด้านการศึกษาและการประชุมและนิทรรศการการศึกษาประจำปีของจีนครั้งที่ 24 “โครงการความร่วมมือด้านอาชีวศึกษาสมัยใหม่ระหว่างจีน-ไทย 210 สาขา”
รองเลขาธิการฯ เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ประเทศไทย มีนโยบายส่งเสริมการพัฒนาอาชีวศึกษาของประเทศไทยสมัยใหม่มากขึ้น ผสมผสานแนวคิดการพัฒนาและทิศทางการพัฒนาอาชีวศึกษาของจีนและไทยมีความสอดคล้องกันมากขึ้น สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ประเทศไทย ยินดีอย่างยิ่งกับ “โครงการความร่วมมือด้านอาชีวศึกษาสมัยใหม่ระหว่างจีน-ไทย 210 สาขา” ซึ่งดำเนินการบนพื้นฐานการศึกษาดิจิทัลที่เสนอขึ้นโดยการศึกษานานาชาติถังฟงกรุ๊ป เปิดโอกาสให้นักเรียนไทยได้รับการศึกษาและการฝึกอบรมในรูปแบบ “ภาษาจีน+ทักษะวิชาชีพ” ช่วยฝึกอบรมครูผู้สอนของไทย และยกระดับอาชีวศึกษาไทยสมัยใหม่ บนความร่วมมือด้านการศึกษานานาชาติแบบดิจิทัล ของความร่วมมือด้านอาชีวศึกษาระหว่างจีน-ไทย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของ พล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ที่จะร่วมกันยกระดับคุณภาพการศึกษา ภายใต้แนวทางการทำงาน “จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน” และการบริหารจัดการศึกษา “เรียนดี มีความสุข” เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาไปด้วยกัน โดยขับเคลื่อนผลักดันในเรื่องการศึกษาให้เจริญรุดหน้ายิ่งขึ้นไป ในแนวคิดในการจัดการศึกษาที่แบ่งเป็น 2 ข้อหลัก คือ การศึกษาเพื่อความเป็นเลิศ และการศึกษาเพื่อความมั่นคงของชีวิต
รวมทั้งรัฐบาลยังมีนโยบายสนับสนุนการสร้างพลังสร้างสรรค์ หรือ ซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทยสู่ระดับสากล นอกจากนี้ รัฐบาลมีแผนเสริมสร้างสังคมดิจิทัล โดยนำเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์มาช่วยในการทำงาน ควบคู่ไปกับการสร้างเศรษฐกิจสีเขียว เพื่อตอบสนองความต้องการทรัพยากรบุคคล และแรงงานทั้งในภาคการผลิต การบริการ และการพัฒนาเทคโนโลยี ทั้งนี้รองเลขาธิการฯ ได้ลงนามแสดงเจตจำนงค์ ร่วมกับวิทยาลัยอาชีวศึกษาวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์ฉงชิ่ง วิทยาลัยช่างเทคนิคการขนส่งเจ้อเจียง วิทยาลัยเทคนิคอาชีวศึกษาไฟฟ้าพลังน้ำอันฮุย และวิทยาลัยอาชีวศึกษาและเทคนิคไถโจว เพื่อร่วมมือกันพัฒนาสาขา 210 สาขาวิชา ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน