“…หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ดำเนินมาแล้วสิบปีเต็ม เป็นความร่วมมืออย่างคึกคักแข็งขันของประเทศต่างๆร่วม 150 ประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศอีกกว่า 30 องค์กร ภายใต้แนวปฏิบัติ “ร่วมคิด ร่วมสร้าง ร่วมแบ่งปัน” ลองคิดดูสิ เมื่อสิบปีที่แล้วยังไม่มีการลำเลียงขนส่งสินค้าระหว่างเอเชียกับยุโรปโดยตรงด้วยรถไฟแม้แต่ขบวนเดียว แต่ทุกวันนี้ มีขบวนรถไฟลำเลียงสินค้าไปมาระหว่างจีนกับนับสิบประเทศในยุโรปวันละหลายสิบหลายร้อยขบวน รถไฟเชื่อมโยงลาวเข้ากับจีน ทำให้ลาวพลิกจากประเทศ “แลนด์ล็อค” ที่ไม่มีทางออกทะเล กลายเป็นประเทศ “แลนด์ลิ้งค์” สามารถติดต่อเชื่อมโยงกับประเทศต่างๆทั่วโลกได้โดยพลัน ส่วนอินโดนีเซีย รถไฟออกวิ่งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมานี้ เรื่องราวดีๆทำนองนี้ กำลังปรากฏขึ้นและกระจายตัวไปอย่างรวดเร็วในหลายๆประเทศทั้งในเอเชีย แอฟริกา และลาตินอเมริกา ซึ่งมีแนวโน้มอย่างชัดเจนว่าจะเพิ่มทวีขึ้นอย่างรวดเร็ว..”
จับทางจีน 正视中国
สันติ ตั้งรพีพากร 陈俊泰
จริงแท้แน่นอน 实打实
การประชุมความร่วมมือนานาชาติระดับสูงหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง(一带一路)ครั้งที่ 3 ทึ่กรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 17-18 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้สร้างแรงกระเพื่อมอย่างแรงแข่งกับเหตุการณ์มิกสัญที่กำลังลุกลามอยู่ในตะวักออกกลางระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามัส ต่างกันแต่เพียงว่า แรงกระเพื่อมจากที่ประชุมนี้ เป็นแรงกระเพื่อมแห่งความหวัง ขณะที่แรงกระเพื่อมที่ตะวันออกกลาง เป็นแรงกระเพื่อมแห่งความหายนะ
สองเหตุการณ์นี้ ได้สื่อและส่องให้เห็นอีกครั้งอย่างชัดเจนถึงทิศทางที่สังคมโลกจะเคลื่อนไป
สิ่งที่เกิดขึ้นที่กรุงปักกิ่งบ่งบอกอย่างชัดเจนว่านี่คือสิ่งที่กำลังเป็นไปและจะเป็นไปมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่สิ่งที่กำลังลามเลียอยู่ในตะวันออกกลาง เปรียบเหมือนเปลวเพลิงแห่งอดีตที่กำลังจะมอดไหม้เหลือแต่เถ้าถ่าน
ความริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางดำเนินมาแล้วสิบปีเต็ม เริ่มจากศูนย์ที่เป็นเพียงข้อเสนอมาเป็นความร่วมมืออย่างคึกคักแข็งขันของประเทศต่างๆร่วม 150 ประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศอีกกว่า 30 องค์กร
ภายใต้แนวปฏิบัติ “ร่วมคิด ร่วมสร้าง ร่วมแบ่งปัน” ประเทศต่างๆกว่าครึ่งโลกนี้ ได้ปรับแนวนโยบายการพัฒนาประเทศของตนให้สานสอดเข้ากับ ความริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง เชื่อมโยงกันเข้าทั้งในทางกายภาพ คือเส้นทางคมนาคม ทั้งทางบก อากาศและทะเล ตลอดจนโครงข่ายการสื่อสารคมนาคมที่ทันสมัยก้าวหน้าระดับโลก
ขณะที่การเชื่อมโยงทางด้านแนวความคิด วิทยาการ ศิลปะวัฒนธรรม ก็มีความคืบหน้าเป็นลำดับ ผลพวงของความร่วมมือในรอบสิบปีแรก จึงสรุปได้ว่าอุดมสมบูรณ์เกินจินตนาการ
ลองคิดดูสิ เมื่อสิบปีที่แล้วยังไม่มีการลำเลียงขนส่งสินค้าระหว่างเอเชียกับยุโรปโดยตรงด้วยรถไฟแม้แต่ขบวนเดียว แต่ทุกวันนี้ มีขบวนรถไฟลำเลียงสินค้าไปมาระหว่างจีนกับนับสิบประเทศในยุโรปวันละหลายสิบหลายร้อยขบวน
การสร้างทางรถไฟเชื่อมโยงลาวเข้ากับจีน ทำให้ประเทศลาวพลิกจากประเทศ”แลนด์ล็อค”ที่ไม่มีทางออกทะเล กลายเป็นประเทศ “แลนด์ลิ้งค์” สามารถติดต่อเชื่อมโยงกับประเทศต่างๆทั่วโลกได้โดยพลัน ผ่านทางรถไฟลาวจีน
ส่วนอินโดนีเซีย เมื่อรถไฟความเร็วสูงระดับแนวหน้าของโลก ออกวิ่งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมานี้ ก็ได้สร้างความภาคภูมิใจอย่างสูงให้แก่ชาวอินโดนีเซียโดยรวม เกิดความหวังที่จะก้าวเดินไปสู่อนาคตอันรุ่งโรจน์พร้อมๆกับนานาชาติ โดยไม่ต้องหวั่นเกรงว่าจะถูกทิ้งไว้ข้างหลังอีกต่อไป
ยิ่งถ้าเรายกตัวอย่างการสร้างระเบียงเศรษฐกิจต่างๆ ทั้งที่ปากีสถาน แอฟริกาตะวันออกและตกอีกหลายแห่ง ก็จะพบกับการเปลี่ยนแปลงที่เปี่ยมด้วยความหวังอีกมากมาย
เรื่องราวดีๆทำนองนี้ กำลังปรากฏขึ้นและกระจายตัวไปอย่างรวดเร็วในหลายๆประเทศทั้งในเอเชีย แอฟริกา และลาตินอเมริกา ซึ่งมีแนวโน้มอย่างชัดเจนว่าจะเพิ่มทวีขึ้นอย่างรวดเร็ว อันเนื่องจากแรงกระเพื่อมของความร่วมมืออย่างแข็งขันระหว่างจีนกับนานาชาติ สำหรับการก้าวไปสู่อนาคตร่วมกัน
ในการประชุมทึ่มีผู้นำของประเทศต่างๆ ถึง 22 ประเทศ (รวมทั้งนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสินของเราด้วย) เข้าร่วมครั้งนี้ ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงได้นำเสนอมาตรการขับเคลื่อนความร่วมมือกับนานาชาติ เพื่อยกระดับความร่วมมือขึ้นสู่ระดับ”คุณภาพสูง”(高质量)ในขั้นต่อไป เพื่อให้โครงการต่างๆทั้งใหญ่และเล็กขับเคลื่อนกระบวนการพัฒนาประเทศไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองและทันสมัยด้วยกันมากขึ้นอีกขั้นหนึ่ง รวม 8 ประการ
ประการที่ 1 เสริมสร้างโครงข่ายเชื่อมโยงสามมิติให้ครอบคลุมทั่วทั้งเอเชียและยุโรป ฯลฯ
ประการที่ 2 ผลักดันให้เศรษฐกิจโลกมีความเปิดกว้างอีกขั้นหนึ่ง โดยเฉพาะการค้าผ่านระบบออนไลน์ จีนจะสร้างเขตการค้าออนไลน์นำร่อง และทำข้อตกลงการค้าเสรีและการลงทุนกับประเทศต่างๆมากขึ้น อีกทั้งจีนจะยกเลิกข้อจำกัดทั้งหมดต่อการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมการผลิตจากต่างประเทศ รวมทั้งเร่งปรับเปลี่ยนรูปแบบวิธีการค้าขายระหว่างประเทศให้มีมาตรฐานสูงขึ้น ขยายตลาดการค้าอิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ
เพื่อการนี้ ฝ่ายจีนจะจัดงานเอ็กซ์โปการค้าดิจิตอลโลกปีละครั้ง
ประการที่ 3 ดำเนินความร่วมมือรูปธรรมในโครงการใหญ่น้อยที่มีนัยสำคัญให้มากขึ้น โดยจีนจะสนับสนุนด้านการเงินแก่โครงการเหล่านั้นผ่านธนาคารของรัฐด้วยเงินจำนวน 350,000 ล้านหยวนละเพิ่มเงินทุนให้แก่กองทุนสายไหมอีก 80,000 ล้านหยวน ฯลฯ
ประการที่ 4 กระตุ้นการพัฒนาสีเขียว ทั้งทางด้านโครงสร้างพื้นฐาน พลังงานและการคมนาคม โดยจีนจะจัดให้มีการฝึกอบรมให้แก่บุคคลากรที่เกี่ยวข้องหนึ่งแสนตำแหน่ง ฯลฯ
ประการที่ 5 ขับเคลื่อนการนวัตกรรมทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี โดยจีนจะสนับสนุนแผนความร่วมมือทางด้านนวัตกรรมใหม่ๆในแผนปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง จะทำการเปิดประชุมแลกเปลี่ยนทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี”หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง”ครั้งที่1 และเพิ่มจำนวนห้องปฏิบัติการเป็น 100 ห้องภายใน 5 ปี รวมทั้งส่งเสริมให้นักวิทยาศาสตร์หนุ่มสาวในประเทศต่างๆไปทำงานระยะสั้นในประเทศจีน
อีกทั้งจีนจะทำข้อเสนอริเริ่มการบริหารจัดการปัญญาประดิษฐ์โลกแก่ที่ประชุมทำการแลกเปลี่ยน เพื่อวางแนวทางการพัฒนาของปัญญาประดิษฐ์ให้ดำเนินไปได้อย่างเป็นระเบียบมั่นคง ฯลฯ
ประการที่ 6 ส่งเสริมการไปมาหาสู่กันของภาคประชาชน ให้เกิดการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมซึ่งกันเเละกัน ทั้งในรูปของการเดินทางท่องเที่ยวเยี่ยมเยียน การจัดแสดงนิทรรศการ การแสดงละคร และภาพยนตร์ เป็นต้น ในการนี้จีนจะเพิ่มจำนวนทุนการศึกษาสำหรับเยาวชนประเทศต่างๆ ให้มากขึ้น ฯลฯ
ประการที่ 7 เสริมสร้างการบริหารจัดการที่สะอาดโปร่งใส ฯลฯ
ประการที่ 8 เสริมสร้างความสมบูรณ์ให้แก่กลไกความร่วมมือทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี ก่อตั้งสำนักเลขาธิการการประชุมระดับสูงหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ฯลฯ
สีจิ้นผิงสรุปส่งท้ายในคำปราศรัยสำคัญนี้ว่า ข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง จีนเป็นผู้เสนอ แต่ผลเป็นของคนทั้งโลก พร้อมกับย้ำว่า ด้วยจิตใจที่มุ่ง “ร่วมคิด ร่วมสร้าง ร่วมแบ่งปัน”นี้เองที่จะช่วยนำพาพวกเราทั้งโลกก้าวไปสู่อนาคตร่วมกัน ความทันสมัยร่วมกันได้อย่างเป็นจริง
อีกนัยหนึ่ง การสร้างอนาคตร่วมกัน เพื่อบรรลุสู่ความเจริญรุ่งเรืองและทันสมัยด้วยกัน คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นและเป็นไปได้จริง…อย่างจริงแท้แน่นอน
ไขคำจีน 实 สือ ความจริง