เมื่อวันที่ 3 พ.ย.66 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม.
ตัวแทนผู้เสียหายทั่วประเทศ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ป.ร้องเรียนว่า หลังซื้อขายทองคำกับบุคคลหนึ่ง แอบอ้างว่าเป็นตัวแทนจากร้านทองชื่อดัง ได้ราคาพิเศษ สามารถฝากขายได้ แต่สุดท้ายไม่ได้รับสินค้า มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 40 ล้านบาท
ตัวแทนผู้เสียหาย จากหลายจังหวัด นำเอกสารเข้าร้องทุกข์ผ่านกองบังคับการปราบปราม หลังร่วมซื้อ-ขายทองคำกับบุคคลหนึ่ง แต่สุดท้ายไม่ได้รับทองคำ
น.ส.สมสกุล(นามสมมุติ) อายุ 35 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เริ่มติดต่อผู้ก่อเหตุตั้งแต่ปี 2564 ด้วยการออมทอง จำนวนครึ่งสลึง และเมื่อได้สินค้าจริง ผู้ก่อเหตุชักชวนให้ซื้อ-ขายทองคำ อ้างว่าเป็นตัวแทนจากร้านทองชื่อดัง ได้ทองคำในราคาพิเศษ บาทละ 25,000 -27,000 บาท โดยนำสินค้าไปขายต่อตามราคาทองประจำวันด้วยตัวเอง หรือจะฝากทางผู้ก่อเหตุขายหน้าร้านได้ จนสุดท้ายเมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2565 ผู้ก่อเหตุ ไม่ส่งทองคำ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1ล้าน 4 แสนบาท
นางสมหญิง (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี ผู้เสียหายอีกคน กล่าวว่า ได้นำเงินเก็บที่มีทั้งหมด รวมทั้งไปกู้เงินมา รวมทั้งของลูกค้าที่สนใจมาซื้อทองคำกับตนเอง มา ลงทุนซื้อ-ขายทองคำกับผู้ก่อเหตุ จึงอยากให้ผู้ก่อเหตุคืนเงินและรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น
นาย อธิวัฒน์ สิริกังวานวงศ์ ผู้ก่อตั้งเพจ”กล้าที่จะก้าว” ซึ่งพาผู้เสียหายมาร้องกองปราบฯ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้เสียหายเกิดความกังวล เนื่องจากแจ้งความกับสถานีตำรวจในพื้นที่ไปแล้ว แต่ผ่านมาเกือบ 1 ปีไม่มีความคืบหน้า หลังจากนี้จะนำผู้เสียหายเข้าร้องเรียนต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อเยียวยาให้กับผู้เสียหายด้วย
เบื้องต้นพบผู้เสียหายทั่วประเทศกว่า 200 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 40 ล้านบาท ผู้เสียหายเดินทางมาร้องเรียนในวันนี้ เพื่อต้องการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุและต้องการเตือนภัยเพื่อไม่ให้มีผู้เสียหายเพิ่มขึ้นอีก
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบพยานหลักฐานและจะประสานกับทางท้องที่ เพื่อหาทางช่วยเหลือผู้เสียหายต่อไป
