“…สีจิ้นผิงได้ยกเอางานด้านการเงินขึ้นไปอยู่ภายใต้การนำของพรรคฯโดยตรง เพื่อกระตุ้นการพัฒนาของประเทศให้แข็งแกร่งทั่วด้าน เปรียบเสมือนการอัดฉีดเม็ดเลือดให้ทั่วถึงทุกส่วนของร่างกาย ผ่านกลไกที่ทรงประสิทธิภาพสูงสุด ภายใต้การกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดของคณะผู้นำ การยกระดับมาตรฐานทางด้านการเงิน ในยุคหัวเลี้ยวหัวต่อที่เงินดอลล่าห์สหรัฐฯกำลังกลายเป็นปัญหาโลกและเงินหยวนจีนกำลังเนื้อหอม ในประเทศจะทำให้จีนยกระดับตัวเองขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง ก้าวเข้าสู่ช่วงของการพัฒนาคุณภาพสูง ในทางสากลจะยิ่งสร้างความเชื่อมั่นในเงินหยวนมากขึ้น การปรับตัวครั้งสำคัญนี้ส่อสัญญาณให้เห็นถึงจังหวะก้าวการขับเคลื่อนประเทศจีนไปสู่ความเป็นประเทศที่แข็งแกร่งรอบด้าน แน่นอนที่สุดว่าบทบาทการนำบนเวทีโลกของจีนก็จะสูงขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง..”
ความแข็งแกร่งใหม่ (การเงิน) 金融强国
วันที่ 30-31 ตุลาคมที่ผ่านมา ประเทศจีนได้มีสิ่งใหม่ที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ทั้งประเทศโดยรวมเกิดขึ้น เมื่อคณะผู้นำพรรคฯหรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “ศูนย์กลางพรรคฯ” ภายใต้การนำของสีจิ้นผิงได้ยกเอางานด้านการเงินขึ้นไปอยู่ภายใต้การนำของพรรคฯโดยตรง เพื่อกระตุ้นการพัฒนาของประเทศให้แข็งแกร่งทั่วด้าน เปรียบเสมือนการอัดฉีดเม็ดเลือดให้ทั่วถึงทุกส่วนของร่างกาย ผ่านกลไกที่ทรงประสิทธิภาพสูงสุด ภายใต้การกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดของคณะผู้นำ
การประชุมของคณะทำงานด้านการเงินของศูนย์กลางพรรคฯที่มี สีจิ้นผิง เป็นประธานครั้งนี้ ได้ระบุชัดเจนว่าเพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางด้านการเงินให้แก่ประเทศจีน จากประเทศที่มีขนาดใหญ่ทางด้านการเงินเป็นประเทศที่มีความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน ซึ่งก็คือมีทั้งความใหญ่โตและคุณภาพสูงด้วย
เท่าที่เห็น มาตรการเชิงยุทธศาสตร์ครั้งนี้ ก็เพื่อกระตุ้นให้การพัฒนาไปสู่ระดับสูงของจีนประสบความสำเร็จ ด้วยการยกระดับมาตรฐานทางด้านการเงิน ในยุคหัวเลี้ยวหัวต่อที่เงินดอลล่าห์สหรัฐฯกำลังกลายเป็นปัญหาโลกและเงินหยวนจีนกำลังเนื้อหอม
ในประเทศจะทำให้จีนยกระดับตัวเองขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง ก้าวเข้าสู่ช่วงของการพัฒนาคุณภาพสูง (高质量发展)ในทางสากลจะยิ่งสร้างความเชื่อมั่นในเงินหยวนมากขึ้น
การเข้าไปจับงานการเงินโดยตรงของ สีจิ้นผิง จะเป็นหลักประกันสูงสุดให้แก่ชัยชนะครั้งใหญ่ในอนาคต ซึ่งแน่นอนที่สุดว่าบทบาทการนำบนเวทีโลกของจีนก็จะสูงขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง
ทั้งนี้มิได้หมายความว่าผู้นำจีนลงไปทำเองกับมือ เพราะงานที่ใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะเช่นนี้ เขามีคณะทำงานตามสายงานอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเมื่องานเข้ามาอยู่ในสายตาโดยตรงของคณะผู้นำ งานนี้ก็จะขับเคลื่อนไปได้ตามแนวกำหนดเพื่อบรรลุเป้าหมายรูปธรรมในทุกขั้นตอน ซึ่งทั้งหมดนั้น จะอยู่ในกระบวนการควบคุมตรวจสอบครบวงจร โดยหน่วยงานชำนาญเฉพาะของพรรคในทุกระดับชั้น เพื่อประกันให้เกิดประสิทธิผลสูงสุดในทุกขั้นตอน
การปรับตัวครั้งสำคัญนี้ส่อสัญญาณให้เห็นถึงจังหวะก้าวการขับเคลื่อนประเทศจีนไปสู่ความเป็นประเทศที่แข็งแกร่งรอบด้าน จากเดิมทีมุ่งไปยังการสร้างเศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การทหาร อวกาศ การบุกเบิกทางทะเล อุตสาหกรรมการผลิต การค้าการลงทุน การสร้างบุคคลากรขั้นสูง และวัฒนธรรมที่แข็งแกร่ง ฯลฯ
ปัญหาที่จีนต้องจัดการทางด้านการเงิน ตามที่ชาวโลกมองเห็น ก็คือการอำนวยช่องทางการไหลเวียนของเงินในระบบ ให้กระจายตัวอย่างสมดุลไปยังภาคส่วนต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยียุุคใหม่ การผลิตสีเขียว รักษาสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรมดิจิตอล ธุรกิจประชากรสูงวัย เป็นต้น
เหตุผลอีกประการหนึ่งที่ศูนย์กลางพรรคฯจีนต้องเข้ามานำงานการเงินโดยตรงก็คือ เพื่อรับกับการเปิดกว้างยิ่งขึ้นของเศรษฐกิจจีน ในการเชื่อมโยงประเทศจีนเข้ากับสังคมโลกแบบไร้รอยต่อ ตามแนวคิดสร้างสังคมโลกให้พัฒนาไปสู่อนาคตร่วมกัน ซึ่งจีนจะต้องเตรียมพร้อมตัวเองสูงสุด ปิดช่องโหว่และโอกาสที่จะเกิดความเสี่ยงไว้แต่เนิ่นๆ
ทั้งหมดนี้ สะท้อนถึงระบบวิธีการนำและการบริการจัดการรัฐกิจของคณะผู้นำจีนชุดนี้ ที่นับวันจะได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างไร้พรมแดน เสริมบทบาทการนำในระดับโลก แก้ปัญหาระดับโลก นำโลกเดินไปบนเส้นทางที่ถูกต้อง(人间正道)ที่ชาวโลกถวิลหาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ได้อย่างเป็นจริง