“…โลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรอบร้อยปี นี่คือคำวินิจฉัยของ สีจิ้นผิง ในการประชุมความร่วมมือนานาชาติหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางครั้งที่ 3 สีจิ้นผิงชี้ว่า เมื่อประเทศจีนดี ประเทศอื่นๆก็ดีด้วย ประเทศที่นำหน้าสมควรที่จะยื่นมือดึงเอาประเทศที่ยังล้าหลังกว่าชั่วคราวตามไปด้วย วลีเช่นนี้ ยากนักที่ชาวโลกจะได้ยินจากปากของผู้นำสหรัฐฯ อียู ญี่ปุ่นฯลฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผนความร่วมมือที่ตะวันตกไม่เคยทำและปัจจุบันนี้ไม่สามารถทำได้ และการเปลี่ยนแปลงใหญ่ครั้งนี้ตัวแปรสำคัญจะตกอยู่กับจีนและประเทศเกิดใหม่ มิใช่กลุ่มประเทศตะวันตก ดังที่ว่า “ตะวันออกกำลังลอยสูง ตะวันตกกำลังคล้อยต่ำ” จีนยังได้ยกระดับมาตรฐานความร่วมมือสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งการสร้างเครือข่ายการสื่อสารคมนาคมชั้นนำของโลก ระบบพลังงานสะอาด เศรษฐกิจดิจิตอล เป็นต้น โดยมีจีนทำหน้าที่อำนวยความสะดวก และเป็นพี่เลี้ยงในการฝึกฝนอบรมบุคลากรทั้งระดับล่าง กลางและสูง..”
ปัจจัยแปรเปลี่ยน 变革因素
สังคมโลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรอบร้อยปี นี่คือคำวินิจฉัยของ สีจิ้นผิง สะท้อนแนวคิดเบื้องลึกของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ในการกำหนดแนวทางการพัฒนาประเทศ และน้ำหนักที่จะทุ่มเทลงไป
ซึ่งเมื่อมองอย่างรอบด้านแล้วจะได้ภาพที่ชัดเจนอย่างยิ่งว่า มันก็คือการทำทุกอย่างและทุกวิถีทางในการเพิ่ม “ปัจจัยบวก”（正能量）ให้แก่ตนเองและทั้งโลกโดยรวม
ตามการวินิจฉัยของพรรคฯจีน การเปลี่ยนแปลงใหญ่ครั้งนี้ มีความรอบด้านที่สุด ยิ่งกว่าการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในหลายๆครั้งที่ผ่านมา เพราะมันเป็นความเปลี่ยนแปลงระดับโลกที่กำลังดำเนินไปทั้งโลกพร้อมๆกันอันเนื่องจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการสื่อสาร ทำให้ความสำนึกตื่นรู้ในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกระจายตัวไปทั่วทุกมุมโลกอย่างรวดเร็ว เกิดการตัดสินใจที่ฉับไวในกลุ่มผู้นำทางการเมือง ผู้บริหารธุรกิจ และองค์กรต่างๆอย่างไม่เลือกหน้า ด้วยทุกฝ่ายต่างกำลังแหวกว่ายอยู่ในกระแสประวัติศาสตร์อันเชี่ยวกราก หากเชื่องช้าหรือผิดพลาดอาจทำให้ตนเสียโอกาส ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
อีกทั้งการเปลี่ยนแปลงใหญ่ครั้งนี้ มีแนวโน้มว่าตัวแปรสำคัญจะตกอยู่กับจีนและประเทศเกิดใหม่ มิใช่กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมตะวันตก สังเกตเห็นได้จากความเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจของประเทศเหล่านั้น ได้แซงหน้าไปทีละส่วนทีละด้าน จากการเข้าร่วมโครงการในแผ่นริเริ่มต่างๆของจีน
นี่คือที่มาของคำสรุปที่ว่า “ตะวันออกกำลังลอยสูง ตะวันตกกำลังคล้อยต่ำ”น้ำหนักของการเปลี่ยนแปลงจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากการดำเนินยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศของจีน และความร่วมมือที่เกิดขึ้นในขอบเขตทั้งโลก
ในการนี้ สิ่งที่จีนมุ่งทำก็คือ สร้างเวทีและชี้เป้าหมาย
เวทีสำคัญก็เช่นข้อเสนอริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง เป้าหมายสำคัญก็เช่นการสร้างสังคมโลกที่มวลมนุษยชาติมีชะตากรรมร่วมกัน人类命运共同体
ผลสำเร็จที่ตามมา ได้พิสูจน์ถึงสัจธรรมที่ผู้นำจีนเข้าถึง ส่งผลให้เกิดแผนใหม่ๆที่จะดึงเอาประเทศต่างๆทั่วทั้งโลกมาร่วมด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือแผนความร่วมมือที่ตะวันตกไม่เคยทำและปัจจุบันนี้ไม่สามารถทำได้ เช่นความร่วมมือสำรวจและปฏิบัติการร่วมกันบนดวงจันทร์ โดยจีนมีแผนส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์ภายในปี คศ.2030 และตั้งฐานปฏืบัติการบนดวงจันทร์เป็นลำดับ
นอกจากนี้ จีนยังได้ยกระดับมาตรฐานความร่วมมือหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางสูงขึ้นเรื่อยๆ อันเป็นการเปิดโอกาสให้ประเทศที่เข้าร่วมก้าวขึ้นสู่การพัฒนาระดับสูงได้ทันที ทั้งการสร้างเครือข่ายการสื่อสารคมนาคมชั้นนำของโลก ระบบพลังงานสะอาด เศรษฐกิจดิจิตอล เป็นต้น โดยมีจีนทำหน้าที่อำนวยความสะดวก และเป็นพี่เลี้ยงในการฝึกฝนอบรมบุคลากรทั้งระดับล่าง กลางและสูง
ทั้งหลายทั้งปวงที่กำลังดำเนินไป จีนถือว่าเป็นกระบวนการสั่งสมของ”ปัจจัยบวก”หรือพลังงานบวกที่จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงใหญ่ครั้งสำคัญนี้ให้เป็นไปในทิศทางที่เอื้อต่อการพัฒนาอารยธรรมของมวลมนุษยชาติมากที่สุด ซึ่งสอดคล้องอย่างยิ่งต่อความเรียกร้องต้องการของยุคสมัยที่ต้องการสันติภาพ ความเจริญก้าวหน้าและโอกาสที่เท่าเทียมกัน
กลุ่มประเทศตะวันตกที่เคยชินกับความเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงมาตั้งแต่ยุคล่าอาณานิคม และการปฏิวัติอุตสาหกรรม ควบคู่ไปกับการแก่งแย่งอำนาจอิทธิพลจนเกิดสงครามโลกถึงสองครั้ง มาบัดนี้ แม้ว่าจะยังคงแข็งแกร่งพอที่จะเป็นหลักเป็นแกนได้ แต่ด้วยทัศนคติที่ฝังลึกในความยิ่งใหญ่และเหนือกว่าที่มีมานาน ทำให้พวกเขารู้สึกฝืดฝืนยิ่งนักในการปรับแนวคิดจากการถือเอาตัวเองเป็นใหญ่มาเป็นร่วมกันเป็นใหญ่
ในการประชุมความร่วมมือนานาชาติหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางครั้งที่ 3 ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงชี้ว่า เมื่อประเทศจีนดี ประเทศอื่นๆก็ดีด้วย ประเทศที่นำหน้าสมควรที่จะยื่นมือดึงเอาประเทศที่ยังล้าหลังกว่าชั่วคราวตามไปด้วย
วลีเช่นนี้ ยากนักที่ชาวโลกจะได้ยินจากปากของผู้นำสหรัฐฯ อียู ญี่ปุ่นฯลฯ
ตามหลักว่าด้วยความขัดแย้ง เมื่อใดที่ด้านหลักของความขัดแย้งเปลี่ยนไป สิ่งๆนั้นก็จะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
อย่างสิ้นเชิง
โดยนัยก็คือ เมื่อใดที่ด้านหลักของสังคมโลกคือปัจจัยบวก สังคมโลกก็จะก้าวเข้าสู่ความเป็นสังคมกลมกลืน ก้าวหน้า สันติสุข มวลมนุษย์จะสามารถร่วมกันสร้างอารยธรรมใหม่ร่วมกัน นั่นคือการสร้างสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศที่ดีให้แก่ดาวโลกดวงนี้ไปพร้อมๆกับการบุกเบิกดวงจันทร์ ดาวอังคาร และเทหะฟากฟ้าอื่นๆรอบๆตัวเราต่่อไป
ไขคำจีน
