สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เรียกร้องความพยายามร่วมกันสร้างประชาคมที่มีการพัฒนาร่วมกัน และรับรองว่าไม่มีประเทศใดถูกทิ้งไว้ข้างหลังในกระบวนการสร้างความทันสมัยระดับโลก การสานต่อความร่วมมือกับกลุ่มประเทศแอฟริกา เพื่อสนับสนุนแอฟริกาเสริมสร้างขีดความสามารถด้านการพัฒนาของตนเอง โดยกลุ่มสถาบันการเงินของจีนจะจัดตั้งกองทุนพิเศษ มูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.51 แสนล้านบาท) เพื่อการดำเนินงานตามแผนริเริ่มการพัฒนาระดับโลก (Global Development Initiative) ยกระดับกระบอกเสียงของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในกิจการระดับโลก และสนับสนุนกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในการบรรลุการพัฒนาที่ดียิ่งขึ้น ด้วยคำกล่าวสั้นๆแต่ได้ใจว่า “จีนเป็นและจะยังคงเป็นสมาชิกของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเสมอ”
ในขณะที่มุมมองต่อประเทศมหาอำนาจอย่างอเมริกา สี จิ้นผิง กล่าวว่า โลกต้องการความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ที่มีเสถียรภาพในภาพรวม และการที่ทั้งสองประเทศแสวงหาหนทางอันถูกต้องเพื่ออยู่ร่วมกันได้นั้น จะส่งผลต่ออนาคตของมนุษยชาติ การจัดการความสัมพันธ์จีน-สหรัฐ อย่างเหมาะสม ควรให้คุณค่ากับผลประโยชน์ร่วมของทั้งสองประเทศ ความสำเร็จของอีกฝ่ายถือเป็นโอกาสมากกว่าภัยคุกคามต่อกัน จีนและสหรัฐ ควรมีส่วนส่งเสริมสันติภาพและการพัฒนาของโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงและปั่นป่วน ให้มีเสถียรภาพ ความแน่นอน และสร้างสรรค์มากขึ้น
“ชาวจีนเป็นผู้มีเกียรติศักดิ์ศรี ความมั่นใจ และพึ่งพาตนเองได้เช่นเดียวกับชาวอเมริกัน ประชาชนทั้งสองประเทศมีสิทธิแสวงหาชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ทั้งสองประเทศจึงควรปฏิบัติตนด้วยสำนึกของการรับผิดชอบต่อประวัติศาสตร์ ประชาชนและโลก” ผู้นำจีนกล่าว
สี จิ้นผิง เน้นย้ำว่า การแข่งขันของประเทศขนาดใหญ่ไม่สะท้อนกระแสธารแห่งยุคสมัย และยังคงไม่สามารถแก้ปัญหาของอเมริกาเองหรือความท้าทายต่างๆ ที่โลกกำลังเผชิญได้
“จีนเคารพผลประโยชน์ของสหรัฐ และไม่ได้แสวงหาการท้าทายหรือแทนที่สหรัฐ ทำนองเดียวกัน สหรัฐจำเป็นต้องเคารพจีน และต้องไม่ละเมิดสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของจีน ทั้งสองฝ่ายไม่ควรมุ่งกดดันอีกฝ่ายตามความประสงค์ของตัวเอง หรือลิดรอนสิทธิอันชอบธรรมในการพัฒนาของอีกฝ่าย” สี จิ้นผิง กล่าวและว่า ด้วยเหตุนี้ โลกจึงหวังเห็นความสัมพันธ์จีน-สหรัฐ ที่แข็งแรงและมั่นคงมาโดยตลอด โดยเชื่อว่าประเทศขนาดใหญ่ทั้งสองสามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆ แสวงหาหนทางอันถูกต้องเพื่ออยู่ร่วมกันบนพื้นฐานของความเคารพซึ่งกันและกัน
“เราควรอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และสร้างความร่วมมือแบบได้ประโยชน์ทุกฝ่าย ด้วยท่าทีที่มีเหตุผลและปฏิบัติได้จริง รวมถึงการทำงานในทิศทางเดียวกัน” สี จิ้นผิง สรุป
ในด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรโลก จีนได้พยายามรักษาไว้ซึ่งการแก้ไขปัญหาเชิงยุทธศาสตร์ในการสร้างความก้าวหน้าทางนิเวศวิทยา และส่งเสริมการพัฒนาที่มีคุณภาพสูง ควบคู่กับการคุ้มครองที่มีมาตรฐานสูง ขณะย่างก้าวบนการเดินทางครั้งใหม่ของการสร้างประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่ในทุกด้าน แต่ก็ก้าวเดินไปพร้อมกับความรับผิดชอบด้านการควบคุมปริมาณและความเข้มข้นของการใช้พลังงาน โดยมีเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์และก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน
“จีนพยายามส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่วิธีการผลิตและวิถีชีวิตอันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและปล่อยคาร์บอนต่ำ เพื่อมีส่วนส่งเสริมการร่วมสร้างโลกที่สะอาดและสวยงามยิ่งขึ้น พร้อมกับเร่งการเดินหน้าสร้างความทันสมัยที่มุ่งเน้นความกลมกลืนระหว่างมนุษยชาติและธรรมชาติเพื่อสร้างจีนที่สวยงามในทุกด้าน” ปธน.สี จิ้นผิง กล่าว