“…งานมอร์เตอร์โชว์ 2023 ที่เมืองทองธานี ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แก่วงการรถยนต์ไทย เมื่อยอดจองรถไฟฟ้าจากค่ายต่างๆของจีนสามารถเบียดแซงรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปค่ายญี่ปุ่นได้ในหลายยี่ห้อ ซึ่งเมื่อมองไปทั่วโลก ก็ได้ปรากฏเค้ารางที่รถจีนจะผงาดขึ้นมาเป็นจ่าฝูงได้ในเวลาไม่นานนัก นี่คือบรรยากาศใหญ่ของวงการรถยนต์โลก เปรียบเทียบกับบรรยากาศใหญ่ของสถานการณ์โลกยุคปัจจุบัน ที่คนทั้งโลกได้เห็นถึงความสำเร็จของจีนในการพัฒนาประเทศ คนจีนอยู่ดีกินดีถ้วนหน้า อันเนื่องจากจีนทุ่มเทสรรพกำลังสร้างบรรยากาศการสร้างชาติอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้จีนผงาดขึ้นมาอยู่ในแนวหน้าของโลก บรรยากาศใหญ่ที่จีนนำร่องอยู่นี้ จะยังดำเนินไปได้เรื่อยๆ มิใยที่สหรัฐฯและพวกจำนวนไม่มากนักจะพยามจุดชนวนสุมไฟ ก่อกวนปั่นป่วนไม่หยุดหย่อน โดยอาศัยเครือข่ายสื่อในมือเป็นอาวุธสำคัญ…”
บรรยากาศใหญ่ 大势
งานมอร์เตอร์โชว์ 2023 ที่เมืองทองธานี ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แก่วงการรถยนต์ไทย เมื่อยอดจองรถไฟฟ้าจากค่ายต่างๆของจีนสามารถเบียดแซงรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปค่ายญี่ปุ่นได้ในหลายยี่ห้อ สื่อสัญญาณอย่างชัดเจนว่า อีกไม่ช้าไม่นานรถยนต์ไฟฟ้าก็จะกลายเป็นรถยอดนิยมแทนที่รถยนต์ที่ใช้แก๊สและน้ำมัน อีกนัยหนึ่งรถจีนจะขายดีกว่ารถญี่ปุ่นในประเทศไทย ซึ่งเมื่อมองไปทั่วโลก ตลาดรถยนต์สำคัญๆทั้งในเอเชีย ยูโรปอเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ กระทั่งแอฟริกา ก็ได้ปรากฏเค้ารางที่รถจีนจะผงาดขึ้นมาเป็นจ่าฝูงได้ในเวลาไม่นานนัก ตามแนวโน้มกระแสการรักษาสิ่งแวดล้อมโลกและแก้ปัญหาโลกร้อน อันเป็นบรรยากาศใหญ่ที่กำลังครอบคลุมไปทั่วโลก
โดยภาพรวม ปัจจุบันจีนได้กลายเป็นผู้ผลิต ผู้ใช้ และผู้ส่งออกรถยนต์มากที่สุดในโลกแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถยนต์พลังงานใหม่
นี่คือบรรยากาศใหญ่ของวงการรถยนต์โลก ที่พลิกเปลี่ยนแล้วอย่างสิ้นเชิงจากอดีต จากยุคที่ยุโรปและญี่ปุ่นเป็นเจ้า มาเป็นจีน ซึ่งโอกาสที่จะย้อนถอยกลับไปเป็นเหมือนเดิมนั้นไม่มีอีกแล้ว เพราะจีนผงาดขึ้นมาครั้งนี้ เป็นการผงาดขึ้นแบบรอบด้าน โดยเฉพาะเทคโนโลยีแบตเตอรี่และระบบการขับเคลื่อนอัจฉริยะที่ล้ำหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ
เปรียบเทียบกับบรรยากาศใหญ่ของสถานการณ์โลกยุคปัจจุบัน ที่คนทั้งโลกได้เห็นถึงความสำเร็จของจีนในการพัฒนาประเทศ คนจีนอยู่ดีกินดีถ้วนหน้า อันเนื่องจากจีนทุ่มเทสรรพกำลังสร้างบรรยากาศการสร้างชาติอย่างต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่การสร้างเสถียรภาพทางการเมือง โดยพรรคคอมมิวนิสต์จีนสามัคคีคนจีนทุกฝ่ายทั้งในและต่างประเทศ ร่วมแรงร่วมใจกัน ประสานกันเข้ากับการดำเนินนโยบายเปิดประเทศ เชื่อมตลาดจีนเข้ากับตลาดโลก เดินหน้าสร้างความสัมพันธ์อันดีกับทุกฝ่าย ขยายความร่วมมือทุกระดับไปทั่วโลก ชูธงสันติภาพและการพัฒนานำหน้านานาประเทศ ฯลฯ
สรุปคือ จีนได้ใช้ห้วงเวลาสามสี่ทศวรรษที่ผ่านมา สร้างบรรยากาศใหญ่ให้แก่การพัฒนาประเทศได้เป็นผลสำเร็จ ส่งผลให้จีนผงาดขึ้นมาอยู่ในแนวหน้าของโลก โดดเด่นเป็นแบบอย่างให้แก่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก
อีกนัยหนึ่ง จีนได้อาศัยบรรยากาศใหญ่แห่งสันติภาพเร่งพัฒนาตนเองได้เป็นผลสำเร็จ และปัจจุบันกำลังใช้ศักยภาพที่เป็นทั้ง “ฮาร์ดพาวเวอร์” เช่นเศรษฐกิจ การทหารที่ขยายตัวเติบใหญ่อย่างรวดเร็วและ “ซอฟต์พาวเวอร์” เช่นบทบาทการนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่สามารถสามัคคีคนจีนทุกฝ่ายเข้าด้วยกัน เชิดชูแนวทางการสร้างอารยธรรมยุคใหม่ที่ก้าวหน้ากว่ายุคก่อนๆในอดีต เป็นต้น สรรสร้างบรรยากาศใหญ่ที่เอื้อต่อการพัฒนาก้าวหน้าของสังคมโลกโดยรวมขึ้นมา
ปัจจุบันนี้ จึงไม่แปลกที่เมื่อใดมีความขัดแย้งรุนเเรง สวนทางกับบรรยากาศใหญ่ จีนก็จะออกหน้านำเสนอทางออกให้ เช่นการคืนดีกันของอิหร่านกับซาอุดีอาระเบีย จนนำไปสู่ความร่วมมือในวงกว้างยิ่งขึ้นในโลกอาหรับและมุสลิม โดยทั้งหมดนั้นได้หันมาเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม ประสานนโยบายการพัฒนาประเทศเข้ากับข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีนอย่างกว้างขวางและลึกซึ้ง ตลอดจนความร่วมมือกับจีนในการบุกเบิกอวกาศ สำรวจดวงจันทร์ ฯลฯ
ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เมื่อการสู้รบระหว่างกลุ่มฮามาสกับอิสราเอลปะทุขึ้น โลกอาหรับและมุสลิมจึงเลือกที่จะเป็นผู้ดับไฟมากกว่าการสุมไฟ หรือในกรณีสงครามยูเครน การสุมไฟของโลกตะวันตกก็ไปไม่รอด แผนยั่วยุให้จีนใช้ความรุนเเรงแก้ปัญหาไต้หวันและปัญหาในทะเลจีนใต้ก็ยิ่งฝืดเฝือ
สรุปภาพรวมก็คือ บรรยากาศใหญ่ที่จีนนำร่องอยู่นี้ จะยังดำเนินไปได้เรื่อยๆ มิใยที่สหรัฐฯ และพวกจำนวนไม่มากนักจะพยามจุดชนวนสุมไฟ ก่อกวนปั่นป่วนไม่หยุดหย่อน โดยอาศัยเครือข่ายสื่อในมือเป็นอาวุธสำคัญ
หรือถ้าใครอยากให้พม่ารบกันเองจนแตกเป็นเสี่ยงๆ ถ้าไปถามใจกันแล้ว คนพม่าส่วนใหญ่ไม่เอาด้วยแน่ สิ่งที่พวกเขาต้องการมากที่สุด ก็คือบรรยากาศแห่งสันติภาพ และความสามัคคีภายใน เพื่อจะได้พัฒนาตัวเองให้เจริญก้าวหน้าไปตามโลกที่กำลังเดินไป
ไขคำจีน
势
ซื่อ
บรรยากาศ สถานการณ์