เวลา 11.30 น. วันที่ 27 ธันวาคม 2566 ที่ศูนย์รับแจ้งความ บช.ก. จ่าคิงส์ พาผู้เสียหายแจ้งความกองปราบฯ
กรณีโดนกระทืบต่อหน้า ลูก 7 ขวบ จนสลบ และฟันหักแล้วเตะหัวซ้ำ จนสมองบวม หลงลืม จำความไม่ได้ คู่กรณีข่มขู่ จะฆ่าให้ตายทั้งบ้าน ขู่ว่าตร.สภ.คลองหลวง ทำอะไรพวกเขาไม่ได้หลอกเพราะเขารู้จัก “ผู้เสียหายบอก” ผู้ต้องหายังเดินลอยนวลอยู่ และกดดันทำให้เคลียร์ทุกวัน
น.ส.จิดาภา ดีแสน อายุ 41 ปี ภรรยาผู้เสียหาย เล่าว่า ตนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ร่วมกับนายปัณณวิชญ์ สุวรรณ์ อายุ 50 ปี สามี และลูกชายวัย 7 ขวบ พร้อมกับแม่สามี ก่อนหน้านี้ยอมรับว่าครอบครัวตนมีปัญหากับเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้าม ในเรื่องขยะหน้าบ้านของตน ซึ่งแม่สามีมักเก็บของเก่ามากองเอาไว้หน้าบ้านขวางถนนประมาณ 1 เลน ซึ่งตนก็พูดอะไรไม่ได้มาก เนื่องจากแม่สามีเป็นคนเก็บ แต่ปัญหากองขยะดังกล่าวทำให้ตนเริ่มมีปัญหาระหองระแหงกับเพื่อนบ้านดังกล่าวอยู่เป็นประจำ ซึ่งเพื่อนบ้านดังกล่าวประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้าง อาศัยอยู่กันในบ้านประมาณ 9 คน
กระทั่งเวลาล่วงเลยถึงวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 13.00 น.ในขณะที่ตนและสามี อยู่ที่บริเวณหน้าบ้านของตนซึ่งติดกับช่องกลับรถภายในหมู่บ้าน วันนั้นกลุ่มเพื่อนบ้านอยู่กันประมาณ 7 คน ขณะนั้นได้มีหนึ่งในกลุ่มเพื่อนบ้านดังกล่าว เดินเข้ามาใกล้รถยนต์ของตน ตนจึงเข้าไปเตือนว่าอย่ามาเข้าใกล้รถ เพราะว่าก่อนหน้านั้นหนึ่งในเพื่อนบ้านดังกล่าวเคยมาละลานขูดรถของตนไปครั้งหนึ่งแล้ว ซึ่งตนมีหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิด เคยแจ้งความไปแล้วแต่คดีก็ไม่คืบอยู่ดี
เหตุการณ์ในวันดังกล่าว ตนก็โต้เถียงกับหนึ่งในกลุ่มเพื่อนบ้าน แล้วชายคนหนึ่งในกลุ่มเพื่อนบ้านโมโห จอดรถทำทีท่าว่าจะวิ่งไปเอาปืนพร้อมกับขู่ว่าจะยิงให้ตายยกครัวเลย ซึ่งภรรยาของชายคนนั้นก็ได้ห้ามปรามเอาไว้ ต่อมาผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มดังกล่าวจะเข้ามาทำร้ายร่างกายตน สามีจึงเข้ามาช่วยห้ามปราม ต่อมากลุ่มเพื่อนบ้านหลายคนดังกล่าวได้มาลากตัว สามีไปรุมทำร้ายร่างกาย จนสลบในช่องกลับรถข้างบ้านผู้แจ้งและต่อมามีผู้หญิงและเพื่อนในกลุ่มดังกล่าวเข้ามาทำร้ายตนต่อ
จนได้รับบาดเจ็บจึงรีบไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลประชาธิปัตย์ในเวลาต่อมา
หลังเกิดเหตุทราบว่าตุ้มหูทองคำพลอยนพเก้าได้หายไป มีราคาประมาณ 15,000 บาท ส่วนอาการบาดเจ็บของสามีแพทย์ระบุว่า มีอาการเลือดคลั่งในสมอง แก้วหูทะลุ ฟันหน้าหัก 2 ซี่ ต้องเดินทางไปพบแพทย์ตลอด หลังเหตุการณ์ตนเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.คลองหลวง ซึ่งสายตรวจได้ลงพื้นที่มาเก็บพยานหลักฐานไปแล้ว พร้อมกับเรียกตนกับสามีให้ปากคำ แต่ตอนนี้คดีความยังไม่คืบหน้าทุกวันนี้ผู้ก่อเหตุยังก่อกวนแหย่สุนัขของตนให้เห่าดังตอนตี 2 ตนต้องทนทุกข์มาตลอด 4 ปี แจ้งความไปแล้วหลายครั้งในเรื่องเสียงดัง ขูดรถ ปล่อยสุนัข มาสร้างความรำคาญ ซึ่งกลุ่มผู้ก่อเหตุบอกว่ารู้จักกับตร.คลองหลวง เขาบอกว่าไม่เบื่อเหรอแจ้งความไปตำรวจก็ไม่มา ตนเคยคิดจะขายบ้านแต่อยู่มานานแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ตนกังวลกลัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นนักเลงมีพวกเยอะ ซึ่งขณะที่ทำร้ายร่างกายกลุ่มผู้ก่อเหตุก็ทำร้ายตนกับสามีต่อหน้าลูกชาย จึงคิดว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุไม่มีจิตสำนึกผิดชอบชั่วดี วันนี้จึงอยากมาร้องสื่อ อยากให้ตำรวจกองปราบช่วยเร่งรัดคดี
จิดาภา เผยเมื่อปีที่แล้วเป็นข่าว เรื่องแม่สามีเก็บของเก่าจนเป็นกองขยะ จนทาง จนท.อบต.มาช่วยกันเก็บออกไปจนเกลี้ยง หลังจากนั้นมาก็เก็บอีกจนกลับไปเป็นเหมือนเก่า อาจเป็นสาเหตุหนึ่งทำให้บ้านตรงข้ามไม่พอใจ จนเกิดเรื่องทำร้ายกันได้
พบ พงส.บก.ป.แล้ว ช่วยประสาน สภ.คลองหลวง ช่วยทำคดีให้ความเป็นธรรม และดูแลความปลอดภัยแก่ครอบครัว
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนตรวจสอบข้อมูลผู้เสียหายก่อนจะประสาน สภ.คลองหลวง ให้ความช่วยเหลือตามกฎหมายต่อไป
