กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ) ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.อภิชน เจริญผล, พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์, พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร รอง ผบก.ปอศ., ว่าที่ พ.ต.อ.ธีรภาส ยั่งยืน ผกก.3 บก.ปอศ., พ.ต.ท.นนทพัทธ์ ยอดแก้ว, พ.ต.ท.ภาสกร นภาโชติ, พ.ต.ท.ณธัชพงศ์ สินสิริยานนท์ และ พ.ต.ท.ชวลิต น้ำใจสัตย์ รอง ผกก.3 บก.ปอศ.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย ว่าที่ พ.ต.ท.วรพจน์ ลลิตจิรกุล สว. กก.3 บก.ปอศ., ร.ต.อ.ศิการ ไม้คู่
รอง สว.(ป.) กก.3 บก.ปอศ., ด.ต.อลิศ จำเนียรอนุสรณ์, ด.ต.ราชศักดิ์ ร่มไทร, จ.ส.ต.เกียรติศักดิ์ แหล่งหล้า
จ.ส.ต.อนุสรณ์ ปั้นกันอินทร์, ส.ต.อ.มนัญชัย นานคงแบบ และ ส.ต.อ.ดนุพล คิ้มวงษา ผบ.หมู่ กก.3 บก.ปอศ.
ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา ดังนี้
- นายอนุวัฒน์ฯ อายุ 38 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ จ.790/2566 ลง 11 ส.ค.66
ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่นและโดยทุจริตหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
สถานที่จับกุม บริเวณหน้า บริษัทแห่งหนึ่ง ถ.ปู่เจ้าสมิงพราย ต.สำโรงกลาง อ.พระประแดง
จ.สมุทรปราการ - น.ส.นงณภัสฯ อายุ 18 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 3634/2566 ลง 24 ต.ค.2566 ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน”
สถานที่จับกุม บริเวณศาลาริมทาง ตรงข้ามเรือนจำกลางจังหวัดสมุทรปราการ ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ
3. นายนทีฯ อายุ 38 ปี ตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.1327 ลง 18 ธ.ค.66 ในความผิดฐาน “ฉ้อโกง และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง”
สถานที่จับกุม ริม ถ.มหิดล ขาเข้าเมือง ต.ป่าแดด อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก บช.ก. ได้ดำเนินการระดมกวาดล้างอาชญากรรมเกี่ยวกับการหลอกลงทุนออนไลน์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตามปฏิบัติการ Anti Online Scam (AOC) ต่อมาเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. ได้มีการดำเนินการตามนโยบายของศูนย์ AOC จับกุมผู้ต้องหาที่มีพฤติการณ์เกี่ยวกับการหลอกลงทุนและแก็งคอลเซ็นเตอร์ จำนวน 3 ราย ใน 2 จังหวัด ดังต่อไปนี้
1. นายอนุวัฒน์ฯ ผู้ต้องหาดังกล่าว เป็นหนึ่งในขบวนการแก็งคอลเซ็นเตอร์ที่มีการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โทรศัพท์ติดต่อผู้เสียหาย โดยแจ้งว่า “มีบุคคลอื่นแอบอ้างชื่อผู้เสียหาย ไปกระทำความผิดต่างๆ รวมถึง
มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน” และแจ้งว่าต้องโอนเงินของผู้เสียหายทั้งหมดมาให้คนร้าย เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินหากตรวจสอบแล้วเจ้าหน้าที่จะคืนเงินให้ เมื่อผู้เสียหายเกิดความกลัวและหลงเชื่อว่าเป็นการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงทำการโอนเงินให้กับคนร้าย
2. น.ส.นงณภัสฯ ผู้ต้องหาดังกล่าว เป็นผู้ต้องหาสำคัญในคดีที่มีการหลอกลงทุนเทรดหุ้น ผ่าน Facebook ที่มีการชักชวนต่อสาธารณะซึ่งมีแพคเกจต่างๆ ที่มีการการันตีผลแทนและได้รับผลตอบแทนสูงภายในระยะเวลา ที่กำหนด 5 – 20 นาที โดยบุคคลทั่วไปสามารถเห็นได้ ซึ่งกลุ่มคนร้ายมีการแอบอ้างและปลอมเพจของบริษัท
ทองชื่อดังและประชาชนทั่วไปหลงเชื่อเข้าร่วมลงทุนจนเกิดความเสียหายหลายล้านบาท
3. นายนทีฯ ผู้ต้องหาดังกล่าว เป็นหนึ่งขบวนการหลอกลงทุน ซึ่งมีการหลอกลงทุนเลี้ยงวัวออนไลน์ผ่านเว็ปไซต์ โดยได้รับผลตอบแทนสูง เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อร่วมลงทุนแล้ว ไม่สามารถถอนเงินหรือรับผลตอบแทนได้ตามที่กลุ่มผู้ต้องหาแจ้งไว้ ทำให้ผู้เสียหายเสียเงินหลายแสนบาท
โดยหลังจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนเพิ่มเติมพบข้อมูล ดังต่อไปนี้ - นายอนุวัฒน์ฯ พบมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
2. น.ส.นงณภัสฯ เป็นบัญชีพักเงินของกลุ่มขบวนการหลอกลงทุน จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ผู้ต้องหาดังกล่าวมีหน้าที่สำคัญเป็นบัญชีพักเงินและเป็นบัญชีซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี ให้กับกลุ่มขบวนการ
หลอกลงทุนโดยตรวจสอบบัญชีพบว่าผู้ต้องหามีการเปิดบัญชีไว้มากกว่า 1 บัญชี โดยมีเงินหมุนเวียนรวมกว่า 70 ล้านบาท และพบมีประวัติเกี่ยวกับคดีแก๊งกู้เงินออนไลน์เมื่อกลางปี 2566
3. นายนทีฯ มีประวัติถูกแจ้งความดำเนินคีดกรณีหลอกลงทุนดังกล่าว จากผู้เสียหายหลายราย
ความเสียหายมูลค่ารวมหลายล้านบาท
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบี้องต้น ผู้ต้องหาให้การว่าเป็นผู้เปิดบัญชีธนาคาร ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ
การกระทำความผิดจริง
เตือนภัย กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางขอแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่า ปัจจุบันมีการหลอกลวงลงทุนในหลายรูปแบบ ซึ่งมักจะแอบอ้างธุรกิจและให้ผลตอบแทนสูง, มีการสร้างความน่าเชื่อถือ และตรวจสอบได้ยาก ซึ่งก่อนลงทุนควรตรวจสอบธุรกิจต่างๆ ด้วยความรอบคอบ หากมีการจดทะเบียนบริษัท
สามารถตรวจสอบได้ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และหากมีการอ้างบริษัทมหาชนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์หรือ
ผู้แนะนำการลงทุนเกี่ยวกับการลงทุนหุ้นสามารถตรวจสอบได้กับสำนักงาน ก.ล.ต. ทั้งนี้ หากท่านมีเบาะแสในเรื่อง การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง หรือน่าเชื่อว่าเป็นเพจปลอมเกี่ยวกับการลงทุน สามารถแจ้งความร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุ หรือแจ้งเบาะแสมายังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ว่าที่ พ.ต.อ.ธีรภาส ยั่งยืน ผกก.3 บก.ปอศ. โทร. 08-58289599