แม้การเลือกตั้งตั้งใหญ่ในไต้หวัน เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2024 ไล่ ชิงเต๋อ กับรองประธานาธิบดี เซียว บีคิม จากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (Democratic Progressive Party: DPP) จะได้รับคะแนนเสียงเป็นอันดับหนึ่งที่ 5,586,019 คะแนน (40.1 เปอร์เซ็นต์) แต่เมื่อดูคะแนนอันดับ 2 โหว โหย่วอี๋ กับ จ้าว ชาวกัง จากพรรคก๊กมินตั๋ง (Kuomintang: KMT) ที่ได้คะแนน 4,671,021 คะแนน (33.5 เปอร์เซ็นต์) และ เค่อ เหวินเจ๋อ กับ ซินเธีย อู่ จากพรรคประชาชนไต้หวัน (Taiwan People’s Party: TPP) 3,690,466 คะแนน (26.5 เปอร์เซ็นต์) ก็มีนัยยะที่น่าจับตามองว่า “คนไต้หวันกำลังคิดอะไร”
เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า “โหวโหย่วอี๋” และ “เค่อเหวินเจ๋อ” นั้นมีนโยบายสร้างความสัมพันธ์กับจีนแผ่นดินใหญ่ แต่นโยบายของ “ไล่ ชิงเต๋อ” จากพรรค DPP มีจุดยืนต่อต้านการรวมชาติกับจีน แม้ ไล่ ชิงเต๋อ จะได้รับคะแนนเป็นอันดับ 1 โดยได้คะแนนเสียง 5,586,019 คะแนน แต่เมื่อมองไปที่คะแนนอันดับ 2 คือ โหวโหย่วอี๋ 4,671,021 คะแนน และอันดับ 3 เค่อเหวินเจ๋อ 3,690,466 คะแนน เมื่อนำคะแนนของอันดับ 2 และ 3 มารวมกันก็จะได้คะแนนรวม 8,361,487 คะแนน เท่ากับว่าคะแนนการเลือกตั้งของชาวไต้หวันที่เห็นด้วยกับนโยบายสร้างความสัมพันธ์กับจีน สูงกว่าอันดับที่ 1 เกือบ 3 ล้านคะแนน และยังมีผู้ที่ไม่ได้ออกมาใช้สิทธิอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้ใช้สิทธิ์ประมาณ 69.8% จากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด 19.54 ล้านคน ต่ำกว่าผลการสำรวจก่อนหน้านี้ที่ชี้ว่าจะมีจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิสูงถึง 75%
นั่นจึงไม่แปลกที่ เฉิน ปินหัว โฆษกของสำนักงานกิจการไต้หวันแห่งสภา จะออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) ไม่ได้เป็นตัวแทนเสียงส่วนใหญ่
“ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ไม่ได้เป็นตัวแทนเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน” เฉิน กล่าว
เฉินยังกล่าวอีกว่า ไต้หวันเป็นของจีนและการเลือกตั้งที่จัดขึ้นจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์และการพัฒนาความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบได้ อีกทั้งยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความต้องการของเพื่อนร่วมชาติที่ต้องการกระชับความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้นได้ และยังไม่สามารถขัดขวางแนวโน้มการผนึกรวมกันของจีนที่มีเสถียรภาพ ความมุ่งมั่นแข็งแกร่งดั่งหิน
“เราจะยึดมั่นในมติปี 1992 ที่โอบรับหลักการจีนเดียวและต่อต้านกิจกรรมของนักแบ่งแยกดินแดนที่มีเป้าหมายในการสร้างเอกราชให้กับไต้หวัน รวมทั้งการแทรกแซงจากต่างประเทศ จีนจะร่วมมือกับพรรคการเมืองต่าง ๆ และประชาชนจากหลายภาคส่วนในไต้หวัน เพื่อกระตุ้นการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือข้ามช่องแคบ ยกระดับการพัฒนาแบบผนวกรวม ส่งเสริมวัฒนธรรมจีน และสนับสนุนการพัฒนาความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบอย่างสันติ” เฉิน กล่าว
ขณะที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนได้เผยแพร่แถลงการณ์ ตอบโต้กรณีที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการเลือกตั้งในไต้หวันว่าเป็นการละเมิดหลักการจีนเดียว และความร่วมมือระหว่างจีนและสหรัฐออย่างรุนแรง แถลงการณ์ของสหรัฐไม่สอดคล้องกับความมุ่งมั่นทางการเมืองของสหรัฐที่จะรักษาความสัมพันธ์ด้านวัฒนธรรม การค้า และความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นทางการภายในภูมิภาคไต้หวัน และยังเป็นการส่งสัญญาณที่ผิดพลาดไปยังกลุ่มที่ต้องการแบ่งแยกเพื่อเอกราชของไต้หวัน
โฆษกกระทรวงกล่าวว่า เราขอคัดค้านแถลงการณ์ดังกล่าวอย่างจริงจัง คำถามเกี่ยวกับเรื่องไต้หวันนั้นเป็นประเด็นที่อยู่ในความสนใจของจีนและเป็นประเด็นสำคัญที่ไม่ควรจะมีการล้ำเส้นสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐ หลักการจีนเดียวนั้นเป็นพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มติในชุมชนสากลและพื้นฐานทางการเมืองของความสัมพันธ์จีนและสหรัฐ จีนขอคัดค้านทุกรูปแบบของการมีปฏิสัมพันธ์อย่างเป็นทางการระหว่างสหรัฐและไต้หวัน รวมถึงการแทรกแซงกิจการภายในของไต้หวัน ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใดก็ตาม และสหรัฐควรยึดในหลักการจีนเดียว รวมทั้งมติร่วมจีนและสหรัฐ โดยลงมือปฏิบัติอย่างจริงจังและสอดคล้องกับสิ่งที่ผู้นำสหรัฐได้เคยย้ำเรื่องการไม่สนับสนุนการเป็นเอกราชของไต้หวัน