ทางการจีนประณามรัฐบาลต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง กรณีแสดงความยินดีต่อ ไล่ชิงเต๋อ ผู้สมัครจากพรรค DPP ที่ชนะการเลือกตั้งในเมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา และเตรียมนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีไต้หวันคนใหม่อย่างเป็นทางการในวันที่ 20 พฤษภาคมนี้
กระทรวงการต่างประเทศจีนชี้ว่า สหรัฐอเมริกากำลังส่งสัญญาณที่ไม่ถูกต้องอย่างร้ายแรง และอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ได้ หลัง แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ส่งข้อความแสดงความยินดีต่อ ไล่ชิงเต๋อ และพรรค DPP ที่คว้าชัยในการเลือกตั้งผู้นำไต้หวัน
บลิงเคนได้เน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และไต้หวันที่มีความเป็นหุ้นส่วนกัน โดยมีรากฐานสำคัญมาจากค่านิยมประชาธิปไตย และสหรัฐฯ พร้อมที่จะแสดงบทบาทสำคัญในการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพข้ามช่องแคบ ผ่านการกระชับความสัมพันธ์แบบไม่เป็นทางการกับไต้หวัน และสอดคล้องกับนโยบายจีนเดียวที่สหรัฐฯ ยึดถือ
โดยทางการจีนได้เรียกร้องให้สหรัฐฯ ยุติการมีปฏิสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับไต้หวันในทุกรูปแบบ พร้อมทั้งยังเน้นย้ำด้วยว่า กรณีไต้หวันถือเป็นเส้นแดงที่สหรัฐฯ จะต้องไม่ก้าวล้ำในความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ โดยปักกิ่งมองว่า การแสดงความยินดีของบลิงเคนในครั้งนี้นั้นไม่ต่างจากการแสดงความยินดีกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนของไต้หวัน
จีนยังประณาม เดวิด คาเมรอน รัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักร ที่แสดงความยินดีกับไล่ชิงเต๋อและพรรค DPP ว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง โดยคาเมรอนระบุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงระบอบประชาธิปไตยที่เบ่งบานและมีสีสันในไต้หวัน
จีนยังได้เรียกร้องให้สหราชอาณาจักรรับทราบจุดยืนที่ว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน การปฏิสัมพันธ์หรือการดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับไต้หวันจะต้องเป็นไปอย่างระมัดระวังตามหลักการจีนเดียว และยุติการใช้ถ้อยคำใดๆ ที่อาจตีความได้ว่า เป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีน
นอกจากนี้จีนยังได้แสดงความไม่พอใจต่อท่าทีของรัฐบาลญี่ปุ่น หลังจากที่ โยโกะ คามิกาวะ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น แสดงความยินดีต่อผู้ชนะการเลือกตั้ง และเน้นย้ำถึงการเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญระหว่างญี่ปุ่นกับไต้หวันบนพื้นฐานความสัมพันธ์ที่ไม่ได้อยู่ในระดับรัฐหรือที่เป็นทางการ พร้อมกันนี้ยังได้ประณามรัฐบาลฝรั่งเศสด้วยเช่นกัน ถึงแม้ฝรั่งเศสจะไม่ได้ระบุชื่อของไล่ชิงเต๋อหรือพรรค DPP ที่ชนะการเลือกตั้ง โดยเลี่ยงไปแสดงความยินดีกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งและผู้รับสมัครเลือกตั้งทุกคนแทน
วิกเตอร์ เกา ศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยซูโจวในประเทศจีน ตั้งข้อสังเกตว่า 60% ของผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงไม่ได้สนับสนุนไล่ชิงเต๋อ ขณะที่พรรค KMT ก็ครองที่นั่งในรัฐสภาไต้หวันมากยิ่งขึ้น และฝ่ายค้านสามารถรวมตัวกันเป็นเสียงข้างมากในสภา ผลการเลือกตั้งครั้งนี้จึงอาจไม่ได้สร้างพายุ แม้ไล่ชิงเต๋อและพรรค DPP จะครองอำนาจนำในการบริหารไต้หวันต่อไป แต่รัฐบาลใหม่จะมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับจีน
นายเกายังชี้อีกว่า จีนมีความอดทนอย่างไม่จำกัดในการส่งเสริมการรวมชาติอย่างสันติ แต่จะไม่อดทนต่อการประกาศเอกราชของไต้หวัน
“ท้ายที่สุดแล้ว พรรคที่เหนี่ยวไกอาจจะไม่ใช่จีน แต่เป็นกลุ่มคนที่ผลักดันเอกราชของไต้หวัน”