เมื่อวันศุกร์ (12 ม.ค.) รถยนต์ไฟฟ้า (EV) คันแรกของเกรท วอลล์ มอเตอร์ (GWM) ผู้ผลิตรถยนต์อเนกประสงค์และรถกระบะรายใหญ่ของจีน ออกจากสายการผลิตในไทยใน ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญเนื่องจากเป็นยานยนต์ไฟฟ้าบริสุทธิ์คันแรกที่ผลิตในไทย
พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวระหว่างร่วมพิธีเปิดตัวว่า เกรท วอลล์ มอเตอร์ เป็น 1 ใน 2 บริษัทแรกที่ได้ลงนามข้อตกลงเพื่อสนับสนุนนโยบายส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลไทย โดยกระทรวงฯ พร้อมสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ส่งเสริมไทยให้เป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนในภูมิภาคอาเซียน ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับโลกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์แห่งสำคัญของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาเป็นเวลานาน เนื่องจากมีข้อได้เปรียบด้านห่วงโซ่อุตสาหกรรมและที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ โดยมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าแตะร้อยละ 30 ของการผลิตยานยนต์ทั้งหมดภายในปี 2030 ภายใต้การส่งเสริมด้านการลงทุนของรัฐบาล
ไคลด์ เฉิง ประธานเกรท วอลล์ มอเตอร์ ประจำภูมิภาคอาเซียน กล่าวว่า นับตั้งแต่เข้าสู่ตลาดไทย เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ช่วยเหลือไทยในการสร้างศูนย์กลางยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลไทย และการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า รุ่นออร่า กู๊ด แคท จากการผลิตในระยอง จะทำให้ไทยกลายเป็นตลาดแรกจากทั่วโลกที่เริ่มการผลิตยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่างๆ ของบริษัทฯในท้องถิ่น สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของไทยในกลยุทธ์ระดับโลกของเกรท วอลล์ มอเตอร์ และจะขับเคลื่อนให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางสำคัญสำหรับการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าระดับภูมิภาค
เกรท วอล มอเตอร์ส ถือเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์เอกชนรายใหญ่ของจีน มีสำนักงานใหญ่อยู่ในมณฑลเหอเป่ย ก่อตั้งขึ้นในปี 1984 ผลิตรถกระบะ รถอเนกประสงค์ และ รถยนต์นั่ง มีเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายอยู่ในกว่า 60 ประเทศ มีโรงงานการผลิต 9 แห่งในจีน และโรงงานการผลิต 15 แห่งทั่วโลก มีศูนย์วิจัยและพัฒนากว่า 10 แห่งใน 7 ประเทศ ส่งออกรถยนต์ไปจำหน่ายในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมยุโรป อเมริกากลาง อเมริกาใต้ แอฟริกา และ ออสเตรเลีย ปัจจุบันได้รับการจัดอยู่ในระดับท็อป 3 ของค่ายรถยนต์แดนมังกรร่วมกับ Zhejiang Geely Holding Group และ Chery Automobile เข้าสู่เมืองไทยด้วยการลงนามเซ็นสัญญาซื้อขายโรงงานของเจนเนอรัล มอเตอร์ส หรือ จีเอ็ม ด้วยมองว่าแนวโน้มของอุตสาหกรรมยานยนต์ในภูมิภาคอาเซียนกำลังเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งประเทศไทยนับเป็นประเทศที่มีพื้นฐานด้านอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง อยู่ในระดับแนวหน้า อีกทั้งยังได้รับการยกย่องว่าเป็นฐานการผลิตยานยนต์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทั้งความพร้อมด้านบุคลากร ตลอดจนระบบนิเวศที่พัฒนาอย่างสมบูรณ์ เพื่อรองรับอุตสาหกรรมยานยนต์ที่จะเติบโตขึ้น
GWM เริ่มปรับปรุงพื้นที่และวางระบบใหม่ให้โรงงานแห่งนี้เป็น “Smart Factory” ตามมาตรฐานการผลิตยานยนต์ระดับโลกของ เกรท วอล มอเตอร์ส โดยนำความเชี่ยวชาญ และความสามารถในการผลิตรถเอสยูวี รถกระบะ รวมไปถึงเทคโนโลยีระบบส่งกำลัง (Powertrain Technologies) ที่ทันสมัยมาใช้ในการผลิตรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) และรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (HEV) รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) และรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) นอกจากนี้ยังมีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบการผลิตอัตโนมัติอย่าง AI (Artificial Intelligence) เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ถึงขีดสุด มีการลงทุนด้านอุปกรณ์การผลิต การวิจัย และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับตลาดเมืองไทยและภูมิภาคอาเซียน รวมถึงพัฒนาทักษะและฝีมือแรงงานในภาคการผลิตอีกด้วย ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังประเทศต่างๆในภูมิภาคอาเซียน รวมถึงประเทศออสเตรเลียด้วย เริ่มต้นนำร่องผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 80,000 คันต่อปี ก่อนจะเพิ่มวอลลุ่มการผลิตมากขึ้นในปีต่อๆ ไป ผลักดันและพลิกโฉมอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยและภูมิภาค
