รายงานข่าวแจ้งจาก กลุ่มไลน์ท่าเรือสีขาว แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ว่าที่ด่านกักกันสัตว์ ที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ศุลกากรและกรมปศุสัตว์ ได้ดำเนินการร่วมกันในการตรวจสอบตู้คอนเทเนอร์บรรจุซากสัตว์เน่าที่นำเข้าจากนอกราชอาณาจักร หรือต่างประเทศ เพื่อที่จะนำไปฝังกลบในพื้นที่ฐานทัพเรือสัตหีบ บริเวณสรรพาวุธทหารเรือ โดยมีคณะทำงานกำกับตรวจสอบตู้สินค้าตกค้างเพื่อทำลาย ได้ดำเนินการควบคุมฝังกลบและทำลายวานนี้(25ม.ค.67)จำนวน 20 ตู้คอนเทเนอร์ ส่วนวันนี้(26ม.ค.)เริ่มดำเนินการตรวจตู้และปล่อยอีก30ตู้ ออกจากด่านกักกันสัตว์ตั้งแต่ เวลา 07.30 น.และตรวจเสร็จสิ้น เวลา 11.40 น. จากนั้นฝังกลบเสร็จสิ้น เวลา 14.30 น. โดยน้ำหนักที่ดำเนินการฝังทำลายสินค้าวานนี้และวันนี้รวมทั้งสิ้น 530,010 กิโลกรัม
ขณะที่วันพรุ่งนี้(27ม.ค.)จะปล่อยอีก 24 ตู้ รวม3วัน จำนวนทั้งหมด 74 ตู้ โดยตู้ทั้งหมดระบุว่าเป็นตู้ซากสัตว์เน่าไม่สามารถนำไปฝังพื้นที่เอกชนได้
อย่างไรก็ตาม เป็นที่สังเกตว่าตัวเลขจำนวน74ตู้นั้น ตรงกับที่พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม และในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 23มกราคม 2567 ว่า”ล่าสุดพบว่ากรมศุลกากรนั้น ได้ส่งหมู 16 ตู้ และเนื้อไก่หมูปนกัน อีก 74 ตู้ มาให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อพิจารณาขยายผลว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรบ้างกับคดีที่กำลังทำอยู่ นับว่าเป็นคดีใหม่ที่ไม่มีเลขคดี เนื่องจากเพิ่งได้รับมาและพิจารณารับเป็นคดีพิเศษอีกคดีหนึ่ง เบื้องต้นคาดว่าจะมีกลุ่มบริษัทชิปปิ้งนำเข้าใหม่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด” ทั้งนี้ ถ้าหากการฝังกลบทำลายซากสัตว์จำนวน74ตู้ เป็นจำนวนของเนื้อไก่หมูปนกันตามที่ศุลกากรส่งข้อมูลให้ดีเอสไอดังกล่าว อาจจะเป็นการทำลายของกลางโดยยังไม่ได้มีการตรวจพิสูจน์ของพนักงานสอบสวนหรือไม่