วันที่ 25 ม.ค. นายก้องเกียรติ เต็มตำนาน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) พร้อมด้วย พ.ต.ท.พรทรัพย์ สุพร สวป.ห้วยใหญ่ ได้นำกำลังทีมสัตว์แพทย์ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และเทศกิจ เข้าตรวจสอบบ้านพักหลังหนึ่ง ภายในซอย 13 เขามะกอก ม.4 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังมีผู้ใช้เฟซบุ๊กแจ้งว่ามี สิงโตหลุดออกมาเดินบนถนนอยู่บ่อยครั้ง สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านในละแวกดังกล่าว
จากการตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านชั้นเดียว สีขาว มีรั้วรอบขอบชิด ภายในบ้านพบสิงโตขาว วัย 10 เดือน จำนวน 2 ตัว และสุนัขพันธุ์ ร็อตไวเลอร์ อีกจำนวน 2 ตัว ถูกเลี้ยงไว้ในบ้านแบบล่ามโซ่ และไม่ได้อยู่ในกรงตลอดเวลา โดยมีน.ส.จรินย์ญาภรณ์ แก้วไสย์ อายุ 28 ปี ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน และเจ้าของสิงโต นอกจากนี้ยังพบลูกน้องคนเลี้ยงอีกจำนวน 2 คน ซึ่งเจ้าของสิงโต ได้นำเอกสารการซื้อขายมาแสดง จากฟาร์มกระป๋องสี ไลอ้อนซู ทั้งสองตัว เป็นตัวผู้ มีการระบุหมายเลขและฝังไมโครชิฟ ตามระเบียบของไซเตส และมีการเซ็นรับรองว่าเจ้าของเป็นผู้รับเลี้ยงจริง
สอบถาม น.ส.จรินย์ญาภรณ์ เจ้าของสิงโต ทราบว่า สิงโตดังกล่าวได้ซื้อจากฟาร์มกระป๋องสีไลอ้อนซู ในจังหวัดนครปฐม เป็นตัวผู้ทั้งสองตัว ชื่อ อาซัว กับ หลิวหลิว ในตอนแรกได้นำไปเลี้ยงที่บ้านพัก ในพื้นที่อำเภอสัตหีบ หลังจากเลี้ยงไปได้ประมาณ 6 เดือน สิงโตทั้งสองตัวเริ่มโตขึ้น จึงได้เคลื่อนย้ายสิงโตทั้งสองตัวจะมาไว้ที่บ้านหลังดังกล่าว และเมื่อสิงโตครบ 10 เดือน เลยตัดสินใจว่าขายคืนฟาร์ม เนื่องจากฟาร์มติดธุระไม่สามารถมารับกลับได้ โดยทางฟาร์มขอเวลาอีก 2-3 วัน ถึงสามารถมารับได้ ส่วนที่มีภาพสิงโตหลุดออกไปบนถนนหน้าบ้าน ได้เปิดประตูอัตโนมัติหน้าบ้าน และไม่ได้ล่ามโซ่ไว้ จึงทำให้สิงโต หลุดวิ่งออกไปบนถนน ก่อนจะมีคนเลี้ยงรีบวิ่งเข้าไปต้อนสิงโตเข้าบ้าน โดยยืนยันว่า สิงโตที่เลี้ยงไว้ไม่มีนิสัยดุร้ายที่จะไปทำร้ายคน
ขณะที่ นางลี ชาวบ้าน เล่าให้ฟังด้วยว่า วันเกิดเหตุช่วงประมาณปีใหม่ เห็นสิงโตจำนวน 2 ตัว เคยหลุดออกมาวิ่งอยู่บนถนนถึง 2 ครั้ง ขณะนั้นกำลังเลี้ยงลูกหลานอยู่บริเวณนั้นพอดี จึงรีบอุ้มลูกหลานเข้าบ้านทันทีเพราะกลัวสิงโตจะทำร้ายได้รับอันตราย ถึงแม้ว่าเจ้าของจะยืนยันว่า สิงโตไม่มีนิสัยที่ดุร้าย แต่ถ้าสิงโตกำลังหิวพอดีกลัวว่าอาจจะกินลูกหลานได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวเลี้ยงสิงโต ก็สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านละแวกดังกล่าวเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า สิงโตสองตัวนี้ ได้มาจากฟาร์มเดียวกันกับสิงโตตัวที่มีข่าวชาวต่างชาติพานั่งรถสปอร์ตหรูกินลมชมวิวที่เมืองพัทยา สำหรับสิงโตสองตัวนี้พบว่า สิงโตที่ขึ้นทะเบียน และฝังไมโครชิฟด้วยกันสองตัวเป็นเพศผู้ แต่ตรวจสอบอย่างละเอียดปรากฏว่ามีหนึ่งตัวเป็นเพศเมียวัยเดียวกัน ไม่ตรงกับใบซื้อขายที่ระบุไว้เป็นเพศผู้สองตัว และยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนครอบครองกับสำนักงานอนุรักษ์สัตว์ป่าพื้นที่ โดยเจ้าของ อ้างว่าน่าจะเป็นการผิดพลาดเอกสารของฟาร์มที่รับซื้อมาตั้งแต่แรก ส่วนเจ้าของสิงโต เบื้องต้นไม่ยินยอมให้ยิงยาสลบสิงโต เพื่อเอาไปตรวจยึดเพื่อตรวจสอบ และให้รอทนายเข้าเจรจา อย่างไรก็ตามตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ อยู่ในการขอหมายค้นเข้าตรวจสอบ.