“….นับตั้งแต่ประเทศจีนก้าวพ้นจากกลียุค จนหลุดพ้นจากกรอบจำกัดเดิมๆ ได้สำเร็จ พรรคคอมมิวนิสต์จีนก็ได้ดำเนินนโยบายสร้างชาติตามหลักทฤษฎีลัทธิมาร์กซ์ นั่นคือมุ่งสร้างพลังการผลิต อันเป็นรากฐานสำหรับการพัฒนาประเทศไปสู่ความเจริญก้าวหน้าในสังคมโลกยุคใหม่ “วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีคือพลังการผลิตอันดับหนึ่ง” เมื่อ “สี จิ้นผิง” เข้ารับตำแหน่งก็ได้ยกระดับความเข้าใจขึ้นเป็น “การนวัตกรรมทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีคือพลังการผลิตอันดับหนึ่ง” ล่าสุดก็ได้สร้างนวัตกรรมใหม่ออกมาเป็นทฤษฎี “พลังการผลิตคุณภาพใหม่” ยกระดับความสำคัญทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีขั้นสูง ที่มีลักษณะบุกเบิกทะลุมิติใหม่ๆ เพื่อชี้นำการพัฒนาประเทศจีนให้บรรลุเป้าหมายยุทธศาสตร์ของการเป็นประเทศที่แข็งแกร่งชั้นนำของโลกภายใน 1-2 ทศวรรษนี้ ด้วยทฤษฎี “พลังการผลิตคุณภาพใหม่” นี้ จีนจะเกิดการระเบิดทางด้านนวัตกรรมล้ำยุคที่ยังไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์เป็นระลอกๆ อย่างน่าอัศจรรย์…”
(ตอน) พลวัตจากภายใน 内在能动性
เมื่อครั้งที่เราได้รับรู้ถึงทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มีสิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนประทับใจคือ เรื่อง การระเบิดจากภายในขับเคลื่อนการพัฒนาก้าวหน้า ซึ่งเมื่อนำเอาหลักทฤษฎีนี้มาจับจีนก็จะเข้าใจได้ทันที
นับตั้งแต่พาประเทศจีนก้าวพ้นจากกลียุค ปลดปล่อยแผ่นดินใหญ่จีนและปฏิวัติสังคมจนหลุดพ้นจากกรอบจำกัดเดิมๆ ได้สำเร็จ พรรคคอมมิวนิสต์จีนก็ได้ดำเนินนโยบายสร้างชาติตามหลักทฤษฎีลัทธิมาร์กซ์ นั่นคือมุ่งสร้างพลังการผลิต อันเป็นรากฐานสำหรับการพัฒนาประเทศไปสู่ความเจริญก้าวหน้าในสังคมโลกยุคใหม่
เมื่อพลังการผลิตเข้มแข็ง เศรษฐกิจอุตสาหกรรมยุคใหม่ก็จะเกิดขึ้น จีนก็จะก้าวเข้าสู่ความเป็นสังคมทันสมัยได้สำเร็จ
พลังการผลิตแบบใหม่ที่ประกอบไปด้วยวิทยาศาสตร์เทคโนโลยียุคใหม่คือเป้าหมายหลักของจีน ดังนั้นพรรคฯ จีนจึงได้ทำแผนพัฒนาประเทศที่ตั้งอยู่บนฐานการพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีมาตั้งแต่เริ่มแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายหลังการเปิดประเทศและปฏิรูป(改革、开放)ที่เริ่มตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1980 เป็นต้นมา “เติ้ง เสี่ยวผิง” ได้ติดตามการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด แล้วทำการสรุปขึ้นเป็นความเข้าใจใหม่ว่า “วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีคือพลังการผลิตอันดับหนึ่ง”
(科学技术是第一生产力)
ด้วยระบบการบริหารประเทศภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่สามารถรวมกำลังทำงานใหญ่ได้ ทำให้จีนประสบความสำเร็จในการพัฒนาประเทศโดยอาศัยการสร้างความเข้มแข็งภายในของตัวเองเป็นหลัก แม้เมื่อเปิดประเทศรับการลงทุนจากภายนอกและเชื่อมตัวเองเข้ากับระบบการค้าโลกแล้ว ก็ยังคงเดินหน้าระดมทรัพยากรทั้งหลายทั้งปวง เข้าสู่กระบวนการสร้างพลังการผลิต ยกระดับพลังการผลิตสูงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเมื่อจีนก้าวเข้าสู่ระยะของการสร้างเศรษฐกิจใหม่ ทำการปรับโครงสร้างการพัฒนาเศรษฐกิจจากการเน้นปริมาณมาเป็นเน้นคุณภาพ เกิดการนวัตกรรมใหม่ๆ มากมาย ซึ่งต่อมาเมื่อ “สี จิ้นผิง” เข้ารับตำแหน่งผู้นำสูงสุดในปลายปี คศ.2012 แล้วไม่นาน ก็ได้ยกระดับความเข้าใจขึ้นเป็น “การนวัตกรรมทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีคือพลังการผลิตอันดับหนึ่ง”(科技创新是第一生产力)
ล่าสุด พรรคคอมมิวนิสต์จีนภายใต้การนำของ “สี จิ้นผิง” ก็ได้ประมวลผลของการสร้างพลังการผลิตที่มุ่งสร้างนวัตกรรมใหม่ของจีนออกมาเป็นทฤษฎี “พลังการผลิตคุณภาพใหม่”(新质生产力)ยกระดับความสำคัญของการนวัตกรรมทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีขั้นสูง ที่มีลักษณะบุกเบิกทะลุมิติใหม่ๆ เพื่อชี้นำการพัฒนาประเทศจีนให้บรรลุเป้าหมายยุทธศาสตร์ของการเป็นประเทศที่แข็งแกร่งชั้นนำของโลกภายใน 1-2 ทศวรรษนี้
การระดมเหตุปัจจัยทั้งในและต่างประเทศเข้าสู่กระบวนการขับเคลื่อนประเทศโดยเน้นไปยังการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ทำให้จีนเกิดพลังที่ระเบิดจากภายในอย่างต่อเนื่องและรุนแรงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเข้าสู่ภาวะก้าวกระโดดในที่สุด
ด้วยทฤษฎีชี้นำ “พลังการผลิตคุณภาพใหม่” นี้ จีนจะเกิดการระเบิดทางด้านนวัตกรรมล้ำยุคที่ยังไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์เป็นระลอกๆ อย่างน่าอัศจรรย์
ไขคำจีน