วันอังคาร, พฤศจิกายน 26, 2024

Related Posts

ร่วมโลกเดียวกัน 同球共济

“….ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้ต้อนรับการเข้าพบของนายแอนโทนี บลินเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่กรุงปักกิ่ง ครั้งนี้ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ก็ได้ย้ำอีกว่า จีนนั้นได้นำเสนอทางออกแล้ว คือ การสร้างประชาคมโลกที่มีอนาคตร่วมกัน ไปด้วยกัน ลงเรือลำเดียวกัน หรือ ก็คือ “ร่วมโลกเดียวกัน” พยายามทำให้ทุกฝ่ายมาร่วมประสานกันแก้ไขปัญหาร่วมกัน สร้างอนาคตร่วมกัน ความสำเร็จร่วมกัน นี่เป็นการกำหนด “โทน” (tone) การขับเคลื่อนความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศยักษ์ใหญ่ยุคใหม่ของโลก ซึ่งหากดำเนินไปได้ตามนี้ โลกมนุษย์ก็มีความหวัง อย่างน้อยโอกาสที่จะเกิดสงครามก็น้อยลง และในวันที่จีนพบบลินเคนนั้น ปรากฏว่าผู้แทนกลุ่มฮามาสกับฟาต้าห์ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันต่อสู้เพื่อฟื้นฟูฐานะของรัฐปาเลสไตน์ ตามแนวเสนอของจีนที่จะดึงอิสราเอลมาร่วมเจรจาตกลงกับฝ่ายปาเลสไตน์ เพื่อให้สองรัฐนี้ดำรงอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ตัวแทนของสองฝ่ายประกาศร่วมกันที่กรุงปักกิ่งว่า ชาวปาเลสไตน์ยินดียุติการต่อสู้ด้วยอาวุธเพื่อบรรลุสู่เป้าหมายสันติภาพบนผืนแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์นั้น นี่คือผลสำเร็จอันโดดเด่นอีกครั้งหนึ่งของจีน ในการแก้ไขปมปัญหาอันยุ่งยากและยุ่งเหยิง…”

(ตอน) ร่วมโลกเดียวกัน 同球共济

คำพังเพยที่ว่า “ลงเรือลำเดียวกัน” ตรงกับภาษาจีนที่ว่า “ร่วมโลกเดียวกัน” (同舟共济) หมายถึงร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรค ต่อสู้เอาชนะอุปสรรค สร้างอนาคตร่วมกัน

ในวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา ประธาธิบดี สี จิ้นผิง ได้ต้อนรับการเข้าพบของ นายแอนโทนี บลินเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่กรุงปักกิ่ง ได้ยกสุภาษิตข้อนี้ขึ้นมาพูดแต่ก็ได้ยกระดับขึ้นเป็น “ร่วมโลกเดียวกัน” (同球共济)

แอนโทนี บลิงเคน และ สี จิ้นผิง พบกันวันที่ 26 เมษายน 2024 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน (ภาพโดย Mark Schiefelbein/Pool via REUTERS)

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้สรุปภาพรวม 45 ปีของความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนว่ามีขึ้นมีลง แต่ก็สามารถกำหนดเป็นแนวปฏิบัติที่ทั้งสองฝ่ายควรจะยึดไว้เป็นหลักนำ หรือ “โทน” หลักชี้นำการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศมหาอำนาจชั้นนำของโลกในยุคปัจจุบัน รวม 4 ประการ คือ 1.ควรเป็นเพื่อนกัน หุ้นส่วนกัน มิใช่เป็นคู่อริกัน ศัตรูกัน 2.ควรเป็นปัจจัยเสริมสร้างความสำเร็จซึ่งกันและกัน มิใช่คู่กัดขัดขวางทำร้ายทำลายกัน 3.ควรแสวงจุดร่วมและสงวนจุดต่างกันให้มาก หลีกเลี่ยงการเชือดเฉือนฟาดฟันกันร่ำไป 4.พูดแล้วต้องทำ มิใช่พูดอย่างทำอย่าง

นี่เป็นการกำหนด “โทน” (tone) การขับเคลื่อนความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศยักษ์ใหญ่ยุคใหม่ของโลก ซึ่งหากดำเนินไปได้ตามนี้ โลกมนุษย์ก็มีความหวัง อย่างน้อยโอกาสมี่จะเกิดสงครามก็น้อยลง ความเจริญรุ่งเรืองที่มวลมนุษยชาติถวิลหาก็จะปรากฏเป็นจริง

การกำหนดแนวหารือ “โทน” เช่นนี้ ดูจะเป็นเรื่องที่จีนยึดถือปฏิบัติมาโดยตลอดและอย่างเปิดเผย

แอนโทนี บลิงเคน และ สี จิ้นผิง พบกันวันที่ 26 เมษายน 2024 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน (ภาพโดย Mark Schiefelbein/Pool via REUTERS)

ครั้งนี้ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ก็ได้ย้ำอีกว่า โลกทุกวันนี้กำลังเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในรอบร้อยปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนแปลงที่คุกคามโดยตรงต่อมวลมนุษยชาติ ที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันหาคำตอบ สำหรับจีนนั้นได้นำเสนอทางออกแล้ว คือการสร้างประชาคมโลกที่มีอนาคตร่วมกัน ไปด้วยกัน ลงเรือลำเดียวกัน หรือก็คือ “ร่วมโลกเดียวกัน” พยายามทำให้ทุกฝ่ายมาร่วมประสานกันแก้ไขปัญหาร่วมกัน สร้างอนาคตร่วมกัน โดยอาศัยความรู้ความเข้าใจร่วมกันและทำทุกอย่างที่น่าไปสู่ความสำเร็จร่วมกัน

แนวเสนอที่ผู้นำจีนย้ำแล้วย้ำอีกนี้ สำหรับผู้ที่คิดตามทิศทางการขับเคลื่อนของสังคมโลกจะรู้สึกคุ้นเคย มิใช่เรื่องใหม่ แต่ครั้งนี้แตกต่างไปจากอดีตตรงที่ ในวันที่จีนพบบลินเคนนั้น ปรากฏว่าผู้แทนกลุ่มฮามาสกับฟาต้าห์ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันต่อสู้เพื่อฟื้นฟูฐานะของรัฐปาเลสไตน์ ตามแนวเสนอของจีนที่จะดึงอิสราเอลมาร่วมเจรจาตกลงกับฝ่ายปาเลสไตน์ เพื่อให้สองรัฐนี้ดำรงอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

ตัวแทนของสองฝ่ายประกาศร่วมกันที่กรุงปักกิ่งว่า ชาวปาเลสไตน์ยินดียุติการต่อสู้ด้วยอาวุธเพื่อบรรลุสู่เป้าหมายสันติภาพบนผืนแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์นั้น

นี่คือผลสำเร็จอันโดดเด่นอีกครั้งหนึ่งของจีน ในการแก้ไขปมปัญหาอันยุ่งยากและยุ่งเหยิง

การสร้างความเป็นปึกแผ่นในหมู่ชาวปาเลสไตน์จะทำให้อิสราเอลต้องเผชิญหน้ากับคู่กรณีที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียว โอกาสที่จะหักหาญทำลายก็ยากขึ้น ขณะบรรยากาศต้านยิวก็กำลังแพร่กระจายเป็นไฟลามทุ่งในรั้วมหาวิทยาลัยของสหรัฐฯ ยุโรป ออสเตรเลีย เป็นต้น เพราะทนไม่ได้กับพฤติกรรมเหี้ยมโหดของอิสราเอลที่กระทำต่อชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ซึ่งตลอดเวลานั้นรัฐบาล โจ ไบเดน ออกโรงถือหางอิสราเอล คอยลงมติวีโต้ขัดขวางการยุติสงครามแทบทุกครั้งไป

การกำหนด “โทน” หรือแนวการขับเคลื่อนของสังคมโลกที่ยึดถือเอาความถูกต้องของประวัติศาสตร์เป็นที่ตั้ง มุ่งมั่นให้คนทั้งโลกหลุดพ้นจากวงจรวิกฤต และก้าวไปสู่อนาคตที่ดีกว่าร่วมกัน โดยอาศัยความเจริญก้าวหน้าของวิทยาการยุคใหม่ ที่จะช่วยบันดาลให้ทุกสิ่งทุกอย่างปรากฏเป็นจริงได้เสมอ ดังเช่นที่กำลังปรากฏให้เห็นกันทุกวี่วันบนแผ่นดินจีน

“โทน” เช่นนี้ก็กำลังจะปรากฏขึ้นบนผืนแผ่นดินไทยแล้ว เมื่อทุกฝ่ายเริ่มมองเห็นตรงกันแล้วว่า อนาคตของคนไทย ประเทศไทยอยู่ในมือของคนไทยที่ร่วมกันลงเรือลำเดียวกัน หากมิใช่พวกนักการเมืองที่ทำอะไรไม่เป็นนอกจากแก่งแย่งกันโกงกิน

ไขคำจีน

同球 ถงฉิว โลกเดียวกัน

#สืบจากข่าว รายงาน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts