วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
หน้าแรกต่างประเทศจีนไล่ชิงเต๋อ ผู้นำ หรือ ผู้ทำลาย สันติภาพ? เมื่อกองทัพจีนเปิดฉากซ้อมรบรอบเกาะ 'ไต้หวัน'

Related Posts

ไล่ชิงเต๋อ ผู้นำ หรือ ผู้ทำลาย สันติภาพ? เมื่อกองทัพจีนเปิดฉากซ้อมรบรอบเกาะ ‘ไต้หวัน’

พลันที่ไล่ชิงเต๋อ สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของไต้หวัน เมื่อวันที่ 20 พ.ค.2024 ความตึงเครียดก็คุกรุ่นรอบเกาะไต้หวัน

กองบัญชาการยุทธภูมิตะวันออกแห่งกองทัพปลดแอกประชาชนจีน (PLA) ได้เริ่มต้นการซ้อมรบร่วมรอบเกาะไต้หวัน ตั้งแต่ 07.45 น. ของวันพฤหัสบดี (23 พ.ค.) โดยการซ้อมรบครั้งนี้มีขึ้นในช่องแคบไต้หวัน ตอนเหนือ ตอนใต้ และตะวันออกของเกาะไต้หวัน รวมถึงพื้นที่โดยรอบเกาะจินเหมิน เหลียนเจียง อูชิว และตงอิ่น

หลี่ซี โฆษกกองบัญชาการฯ กล่าวว่ากองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และกองกำลังจรวด สังกัดกองบัญชาการฯ ปฏิบัติการซ้อมรบร่วมที่มีชื่อรหัสว่าจอยท์ ซอร์ด-2024เอ (Joint Sword-2024A) ระหว่างวันพฤหัสบดี-วันศุกร์ (23-24 พ.ค.) เพื่อเป็นบทลงโทษการกระทำแบ่งแยกดินแดนของกองกำลัง “เอกราชไต้หวัน” และคำเตือนการแทรกแซงและการยั่วยุจากกองกำลังภายนอก

การซ้อมรบครั้งนี้มุ่งเน้นการลาดตระเวนเพื่อความพร้อมรบร่วมทางทะเล-อากาศ การร่วมควบคุมแนวรบอย่างรอบด้าน และการร่วมโจมตีเป้าหมายหลักอย่างแม่นยำ โดยมีเรือและเครื่องบินออกลาดตระเวนใกล้พื้นที่รอบเกาะไต้หวัน และปฏิบัติการเชิงบูรณาการภายในและภายนอกสายโซ่หมู่เกาะเพื่อทดสอบขีดความสามารถทางการร่วมสู้รบจริงของกองกำลังต่างๆ

ไม่ต้องแปลกว่า ไล่ชิงเต๋อ ประธานาธิบดีคนใหม่ของไต้หวัน คือแรงหนุนให้เกิดการการซ้อมรบครั้งนี้ เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าไล่ถูกจีนตั้งข้อสงสัยว่า มีเจตนาสนับสนุนการแบ่งแยกไต้หวันออกจากจีน โดยจีนมองว่าไต้หวันเป็นดินแดนของตน และไม่เคยปฏิเสธที่จะใช้กำลังเพื่อนำไต้หวันกลับมาอยู่ภายใต้การควบคุมของจีน

ไล่ชิงเต๋อ กลายเป็นผู้นำไต้หวันที่ถูกตั้งคำถามว่าเข้ามานำพาสันติภาพ? หรือทำลายสันติภาพ เป็นผู้ชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน หรือเปล่า?

สัญญาณความวุ่นวายเริ่มปรากฏให้เห็นตั้งแต่วันศุกร์ที่ 17 พ.ค. เมื่อ ส.ส.ไต้หวันเกิดทะเลาะวิวาทชกต่อยและตะโกนด่าทอกันไปมาในสภา สืบเนื่องมาจากกฎหมายปฏิรูปสภาที่ฝ่ายค้านพยายามผลักดันถูกเกมแทรกแซงจนปั่นป่วน

สำนักงานกิจการไต้หวันของจีนระบุว่า ไล่ ซึ่งฝ่ายจีนเรียกว่าเป็น “ผู้นำคนใหม่ของภูมิภาคไต้หวัน” จำเป็นต้องเลือกให้ชัดเจนระหว่างการพัฒนาอย่างสันติ (peaceful development) หรือการเผชิญหน้า (confrontation) ขณะที่หนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์สซึ่งเป็นสื่อของทางการจีนก็รายงานว่า ไล่ “อาจจะแสดงพฤติกรรมยั่วยุมากขึ้นเรื่อยๆ” หลังจากที่เข้ารับตำแหน่งผู้นำไทเป

ประเด็นสำคัญคือ ในพิธีสาบานตนของ ไล่ ชิงเต๋อ มีอดีตเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ หลายคนซึ่งถูกส่งไปร่วมงานโดยประธานาธิบดี โจ ไบเดน รวมถึงสมาชิกรัฐสภาจากบางประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เยอรมนี แคนาดา และยังมีผู้นำจากอีก 12 ประเทศที่ยังคงมีความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันอยู่ เช่น ประธานาธิบดี ซันติอาโก เปญา แห่งปารากวัย เป็นต้น

แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้มีถ้อยแถลงแสดงความยินดีต่อ ไล่ ชิงเต๋อ โดยระบุว่าสหรัฐฯ รอคอยที่จะได้ทำงานร่วมกับเขา “เพื่อยกระดับผลประโยชน์และค่านิยมร่วม กระชับความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นทางการให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ตลอดจนร่วมกันธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพภายในช่องแคบไต้หวัน”

นั่นไม่ต่างกับการสาดน้ำมันเข้ากองไฟ เพราะจีนประกาศชัดเจนว่า ใครก็ตามที่ละเมิดหลักการจีนเดียวในประชาคมระหว่างประเทศ เท่ากับกำลังแทรกแซงกิจการภายในและละเมิดอธิปไตยของจีน ซึ่งจีนจะไม่มีวันให้ใครหน้าไหนมาแบ่งแยกดินแดนไต้หวันออกจากจีนเด็ดขาด  และจีนไม่เคยปฏิเสธที่จะใช้ “กำลัง” เพื่อนำไต้หวันกลับมาอยู่ภายใต้การควบคุมของจีน

“เอกราชของไต้หวัน” คุกคามความเป็นอยู่ที่ดีของเพื่อนร่วมชาติชาวไต้หวันอย่างร้ายแรง ทำลายผลประโยชน์พื้นฐานของชนชาติจีนอย่างร้ายแรง และจะบ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพของช่องแคบไต้หวันอย่างร้ายแรงด้วย นั่นคือทางตัน จีนจะต้องบรรลุการรวมชาติอย่างสมบูรณ์ในที่สุด ไต้หวันจะต้องกลับสู่อ้อมกอดของมาตุภูมิ และเชื่อว่าประชาคมระหว่างประเทศจะสนับสนุนกิจกรรมอันชอบธรรมของชาวจีนอย่างต่อเนื่อง ต่อต้านการแบ่งแยกดินแดนของไต้หวัน เพื่อก้าวสู่การรวมชาติจีนตามหลักการจีนเดียวในที่สุด

กลายเป็นคำถามดังๆจากปักกิ่งว่า ไล่กำลังใช้ประชาชนไต้หวันเป็นข้ออ้างในการนำไต้หวันไปเป็นหมากของสหรัฐและพันธมิตรหรือเปล่า ถ้อยแถลงของไล่ชิงเต๋อถูกชักใยจากสหรัฐใช่ไหม เพื่อรักษาผลประโยชน์ของสหรัฐ แต่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นหมากที่ถูกใช้มาสกัดจีน มาอุดหนุนอุตสาหกรรมอาวุธของสหรัฐ ใช้เสร็จก็ทิ้ง ทั้งที่เคยมีบทเรียนมาแล้วจากเหตุการณ์สงครามเวียดนาม อัฟกานิสถาน หรือ ยูเครน

บทเรียนเหล่านี้พิสูจน์ให้เห็นว่า สิ่งที่เหลือจากการหนุนหลังของอเมริกาก็คือซากปรักหักพัง และถ้ารบกันจริง ภูมิยุทธศาสตร์ของไต้หวันไม่สำคัญเท่าตะวันออกกลางด้วยซ้ำ แถมปัญหาสงครามบนเกาะไต้หวันยังส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของภูมิภาคเอเชียอีกด้วย

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts