วันอาทิตย์, กันยายน 8, 2024
หน้าแรกคอลัมนิสต์สันติ ตั้งรพีพากร 陈俊泰จีนแกร่ง สงครามไม่เกิด 中国强 无战争

Related Posts

จีนแกร่ง สงครามไม่เกิด 中国强 无战争

“…ในสายตาผู้เขียน สหรัฐฯโดยกลุ่มนาโต้ พวกเขาใช้เล่ห์บีบจนรัสเซียต้องใช้กำลังกับยูเครน แล้วตรึงรัสเซียไว้ในปลักแห่งสงคราม บั่นทอนศักยภาพรัสเซีย แล้วคิดจะใช้กลเม็ดแบบเดียวกันนี้กับจีน โดยยุแหย่ให้จีนรบไต้หวัน หรือไม่ก็ฟิลิปปินส์ จีนไม่ประมาท สร้างเสริมความแข็งแกร่งทางด้านการทหารให้แก่ตนเอง และพร้อมเสมอที่จะเผชิญหน้ากับการท้าทายทุกรูปแบบ ในวิถีทางที่”ไม่มีวันแพ้” ดังที่ทหารจีนท่องจำอยู่ในใจเสมอว่า “กล้าตี มีชัยแน่”หรือ”ก๋านต่า ปี้เซิ่ง” รบเมื่อไหร่ ชนะเมื่อนั้น ! ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทุกวันนี้ ในห้วงที่จีนแข็งแกร่งขึ้นมาอย่างรอบด้าน คงไม่มีใครอยากรบกับจีน ทำได้อย่างมากก็เพียงยั่วยุ หลอกล่อ ส่วนจีนนั้น ไม่จำเป็นต้องทำสงคราม พวกเขาก็สามารถเดินหน้าพาชาวโลกก้าวไปสู่อนาคตได้อย่างเป็นจริง สมความคาดหวังของมวลมนุษยชาติที่มีมาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์…”

จีนแกร่ง สงครามไม่เกิด 中国强 无战争

โลกวันนี้ในสายตาเรา ไม่ต่างจากเวทีละครที่ไม่มีม่านบัง ขอเพียงเราไม่ปิดหูปิดตาตัวเอง ไม่สวมแว่นสีบังตา หรือไม่ยอมให้ใครเอาแผ่นยันต์ติดหน้าผากแล้วละก็ เราก็จะเห็นและเข้าใจทุกอย่างที่กำลังเป็นไปบนเวทีละครนั้นอย่างชัดเจน ยากที่ใครจะมาโน้มน้าวชักจูงได้

ความเป็นอิสระเป็นตัวของตัวเองทางการรับรู้ ก็จะนำไปสู่ความแม่นยำและเฉียบคมทางปัญญา สามารถวินิจฉัยเหตุการณ์และเรื่องราวต่างๆได้อย่างแม่นยำ สามารถกำหนดแนวทางการปฏิบัติและเป้าหมายใกล้ไกลได้อย่างพลิกแพลงยืดหยุ่น หวังผลสำเร็จได้สูงสุดเสมอ

เท่าที่ผู้เขียนได้ติดตามศึกษาเรียนรู้วิธีคิดวิธีทำงานของชาวพรรคคอมมิวนิสต์จีนมาเกือบตลอดชีวิต และตัวเองก็ได้ทดลองนำเอาหลักวิธีเหล่านั้นมาประสานเข้ากับการศึกษาและการทำงาน ตลอดจนการดำเนินชีวิตประจำวัน ก็พบว่าหลักวิธีที่ทุกอย่างเริ่มจากความเป็นจริงที่ว่า “ปลดปล่อยความคิด หาสัจจะจากความเป็นจริง” หรือ “เจี่ยฟ่างซือเสี่ยง สือซื่อฉิวซื่อ“(解放思想 实事求是)นั้น ถูกต้องที่สุด

“สัจจะ”ก็คือกฎเกณฑ์ของการขับเคลื่อนของความเป็นจริงผ่าน “ปรากฏการณ์” ที่เราสัมผัสได้รูปธรรม ซึ่งกฎเกณฑ์เป็นสิ่งแน่นอนภายใน ขณะที่ปรากฏการณ์นั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาตามเหตุปัจจัยภายนอก

การเข้าถึงกฎเกณฑ์ภายใน จะทำให้เรามองเห็นทิศทางการขับเคลื่อนของสิ่ง สามารถกำหนดแนวปฏิบัติระยะยาวได้อย่างถูกต้อง ขณะที่การรับรู้ในสิ่งที่เป็นปรากฏการณ์จะทำให้เราไม่หลุดลอยไปจากความเป็นจริง ปรับปรุงวิธีการปฏิบัติให้พลิกแพลงยืดหยุ่นเสมอ

เพราะฉะนั้น การจะเข้าถึงกฎเกณฑ์ได้ก็ต้องอาศัยการรับรู้จากปรากฏการณ์ โดยเฉพาะคือการรับรู้จากการปฏิบัติทั้งทางตรงและทางอ้อม

ด้วยเหตุนี้ การอ้างความรับรู้ที่สะท้อนกฎเกณฑ์ จึงมีน้ำหนักมากกว่าการอ้างความรับรู้จากตำราหรือความเชื่อศรัทธาใดๆ

ชาวพรรคคอมมิวนิสต์จีนยืนหยัดในหลักการ “ปฏิบัติ-รับรู้-ปฏิบัติ” มุ่ง “หาสัจจะจากความเป็นจริง” พวกเขาจึงสามารถเข้าถึงกฎเกณฑ์ของสิ่งที่พัฒนาไปในทิศทางที่มันจะต้องดำเนินไป และดำเนินนโยบายพัฒนาประเทศได้อย่างถูกต้อง สอดคล้องกับการขับเคลื่อนของประวัติศาสตร์

แล้วเหตุไฉนจึงจะไม่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องครั้งแล้วครั้งเล่าล่ะ?

ทุกวันนี้จีนตระหนักชัดแล้วถึงภารกิจหลักในการพัฒนาประเทศ คือทำทุกอย่างตามขั้นตอนการพัฒนาของพลังการผลิตยุคใหม่ของมวลมนุษยชาติ ที่มีเทคโนโลยีระดับใหม่คุณภาพใหม่ทะลวงนำ

แล้วเหตุไฉนจึงจะไม่ให้พวกเขาทุ่มเทสรรพกำลังไปในการพัฒนาระบบ 5G-6G-AI-หุ่นยนต์-รถยนตไฟฟ้าอัจริยะไร้คนขับฯลฯ ตลอดจนกระจายผลแห่งความสำเร็จใหม่ๆเหล่านั้นเข้าสู่สังคมจีนและสังคมโลก?

ทุกวันนี้กลุ่มประเทศตะวันตกนำโดยสหรัฐฯ กำลังพยายามทุกวิถีทางสกัดการพัฒนาก้าวหน้าของจีน โดยโยนทิ้งป้ายโฆษณาการค้าเสรีทิ้ง แล้วตั้งด่านกำแพงภาษีขึ้นมาสกัดผลิตภัณฑ์ล้ำยุคของจีน โดยยินดีย่ำเท้าอยู่ในความทรงจำที่อหังการในอดีต หรือไม่ก็หาทางก่อกวนด้วยกำลังทหารดังที่กลุ่มนาโต้กำลังกระทำอยู่

การรุกของนาโต้เคยสร้างรอยแผลให้จีนมาแล้วครั่งหนึ่ง ในปี 1999 พวกเขาส่งฝูงบินถล่มสถานทูตจีนประจำกรุงเบลเกรด อดีตยูโกสลาเวีย เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่จีนเสียชีวิตไปหลายคน

มาบัดนี้ พวกเขาประชุมสุมหัวกันที่สหรัฐฯแล้วออกแถลงการณ์กล่าวหาจีนเป็นต้นเหตุหลักของสงครามยูเครน และเป็นผู้ท้าทายต่อระบบค่านิยมตะวันตกเกินกว่าที่พวกเขาจะรับได้ พร้อมกันนั้นก็เร่งขยายประเทศสมาชิกมาทางเอเชีย ดึงญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ ฮอสเตรเลียและนิวซีแลนด์เข้าเป็นพวก เตรียมเคลื่อนไหวทางการทหารบีบจีนให้ยอมจำนน ไม่เช่นนั้นก็จะตกที่นั่งลำบากเหมือนเช่นที่รัสเซียกำลังเผชิญอยู่ทุกวันนี้

ในสายตาผู้เขียน สหรัฐฯ โดยกลุ่มนาโต้ ดูไม่ต่างจากหมาล่าเนื้อแก่หงำเหงือกเจ้าเล่ห์ พวกเขาใช้เล่ห์บีบจนรัสเซียต้องใช้กำลังกับยูเครน แล้วตรึงรัสเซียไว้ในปลักแห่งสงคราม บั่นทอนศักยภาพรัสเซีย แล้วคิดจะใช้กลเม็ดแบบเดียวกันนี้กับจีน โดยยุแหย่ให้จีนรบไต้หวัน หรือไม่ก็ฟิลิปปินส์

ในบรรยากาศเช่นนี้ คนไทยจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะสื่อทั่วไปที่อาศัยข่าวตะวันตก ก็จะพากันตื่นตระหนกว่า สงสัยจีนจะทนไม่ไหว เปิดฉากใช้กำลังทหารแก้ไขสถานการณ์

แต่กฎเกณฑ์การพัฒนาของสังคมโลกทุกวันนี้ก็บอกชัดเจนแล้วว่าผู้ที่จะเข้าป้ายชัยชนะก็คือผู้ที่พัฒนาตนเองได้ดีที่สุด ซึ่งขณะนี้จีนอยู่ในฐานะนำอย่างชัดเจน

แล้วเหตุไฉนพวกเขาจึงจะต้องพลาดท่าตกหลุมพลางที่ตะวันตกขุดล่อ?

กระนั้น จีนก็ไม่ประมาท แม้จะมุ่งหน้าพัฒนาประเทศเพียงใดก็ไม่ลืมที่จะสร้างเสริมความแข็งแกร่งทางด้านการทหารให้แก่ตนเอง และพร้อมเสมอที่จะเผชิญหน้ากับการท้าทายทุกรูปแบบ ในวิถีทางที่ “ไม่มีวันแพ้”

ดังที่ทหารจีนท่องจำอยู่ในใจเสมอว่า “กล้าตี มีชัยแน่” หรือ “ก๋านต่า ปี้เซิ่ง” 敢打 必胜!

รบเมื่อไหร่ ชนะเมื่อนั้น !

ไม่ต้องสงสัยเลบว่า ทุกวันนี้ ในห้วงที่จีนแข็งแกร่งขึ้นมาอย่างรอบด้าน คงไม่มีใครอยากรบกับจีน ทำได้อย่างมากก็เพียงยั่วยุ หลอกล่อ จนตัวเองกลายเป็นตัวตลกทางประวัติศาสตร์ไปแล้ว

ส่วนจีนนั้น ไม่จำเป็นต้องทำสงคราม พวกเขาก็สามารถเดินหน้าพาชาวโลกก้าวไปสู่อนาคตได้อย่างเป็นจริง สมความคาดหวังของมวลมนุษยชาติที่มีมาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์

ไขคำจีน
战争 จ้านเจิง สงคราม

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts