วันพฤหัสบดี, กันยายน 19, 2024
หน้าแรกคอลัมนิสต์วัชระ เพชรทองได้ใจ "วัชระ เพชรทอง" ผวจ.สุราษฏร์สั่งรื้อด่วน 2 อาคาร บ.นายทุน ไม่สน กม.รุกที่รัฐสร้างอาคาร

Related Posts

ได้ใจ “วัชระ เพชรทอง” ผวจ.สุราษฏร์สั่งรื้อด่วน 2 อาคาร บ.นายทุน ไม่สน กม.รุกที่รัฐสร้างอาคาร

“…วัชระ เผย ไม่มีผู้ว่าฯ ที่ไหน คนใด กล้าทำ ตนในฐานะชาวสุราษฎร์ธานีคนหนึ่งขอชื่นชมและสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ราขการของนายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีและข้าราชการทุกคน…”

จากกรณีที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้รับแจ้งจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ว่าได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ และที่ดินสาธารณะประโยชน์ ที่ประชาชนใช้ร่วมกัน และทำลายทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 4 ซึ่งจากผลการตรวจสอบที่พักอาศัยบริเวณสันเขาในพื้นที่ตำบลมะเร็ต, ตำบลแม่น้ำ และตำบลบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี พบว่า มีการสร้างอาคารบนพื้นที่ลาดชันสูงเกินกว่ากฎหมายกำหนด อันเป็นความผิดตามกฎหมาย ว่าด้วยการควบคุมอาคาร กฎหมายว่าด้วยการส่งเสริม และรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม และกฎหมายอื่นๆ ที่มีโทษทางอาญา และทางสำนักงานเทศบาลนครเกาะสมุยได้มีคำสั่งให้รื้อถอนอาคารตามมาตรา 42 และมาตรา 43 วรรคสามแห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พุทธศักราช 2522 ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ซึ่งต่อมาสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคารดังกล่าว ของเทศบาลนครเกาะสมุย ปรากฏว่า ยังมีผู้ฝ่าฝืนบางรายไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่น 2 ราย ได้แก่

  1. บริษัท วิลล่า อะมาน่า จำกัด ตามแบบ ค.6 เลขที่ 110/2566 ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งก่อสร้างอาคาร ค.ส.ล. (หลังที่ 1) ขนาด 160 ตารางเมตร จำนวน 1 หลัง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น และเป็นการฝ่าฝืนประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องกำหนดเขตพื้นที่ฯ ข้อ 4 (8)
  2. บริษัท ซี บรีช ทู จำกัด ตามแบบ ค.6 เลขที่ 113/2566 ลงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งก่อสร้างอาคาร ค.ส.ล. (หลังที่ 2) ขนาด 280 ตารางเมตร จำนวน 1 หลัง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น และเป็นการฝ่าฝืนประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องกำหนดเขตพื้นที่ฯ ข้อ 4 (8)

ซึ่งจังหวัดสุราษฎร์ธานีพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้ให้เทศบาลนครเกาะสมุย ใช้มาตรการบังคับทางปกครองกับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ว่าด้วยการควบคุมอาคารตามความในมาตรา 43 (2) แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 โดยขอให้เทศบาลนครเกาะสมุย มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ แจ้งพนักงานสอบสวนลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจภูธรบ่อผุด เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2567 ก่อนเวลา 10.00 น. เพื่อเป็นหลักฐานเกี่ยวกับการใช้มาตรการบังคับทางปกครอง รื้อถอนอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างกับผู้กระทำการฝ่าฝืนดังกล่าว

ต่อมาเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 67 เวลาประมาณ 10.00-17.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายใต้การสั่งการของนายนันธวัช เจริญวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี, ว่าที่ร้อยโท สมชาย เรืองจันทร์ ปลัดจังหวัดสุราษฎร์ธานี, นายกัมปนาท กลิ่นเสาวคนธ์ นายอำเภอเกาะสมุยนายชัชชัย มณี ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง ได้มอบหมายให้ฝ่ายความมั่นคงอำเภอเกาะสมุยพร้อมสมาชิก อส.อำเภอเกาะสมุย ลองพื้นที่ร่วมกับ ร.ต.ต.พงศกร มีพันธุ์ ผู้อำนวยการส่วนสอบสวน 4 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ภาค 4 เจ้าหน้าที่จากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อผุด เจ้าหน้าที่เทศบาลนครเกาะสมุย เข้าทำการรื้อถอนอาคารโครงการซีบีท จำนวน 2 หลัง ตั้งอยู่ ม.3 ต.บ่อผุด ซึ่งก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร ตามคำร้องขอของสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้อำเภอเกาะสมุย จัดกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.เกาะสมุย ร่วมอำนวยความสะดวกและดูแลความสงบเรียบร้อยในการรื้อถอนอาคารดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์ทั่วไปปกติ ดำเนินการรื้อถอนบางส่วน ส่วนที่เหลือผู้รับเหมาดำเนินการรื้อถอนเอง โดยการควบคุมของเจ้าหน้าที่เทศบาลนครเกาะสมุย

ด้านนายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ไม่มีผู้ว่าฯ ที่ไหน คนใด กล้าทำครับ ขออนุโมทนาสาธุ ในความกล้าหาญเด็ดขาดรักษากฎหมาย รักษาความเป็นธรรม ในฐานะชาวสุราษฎร์ธานีคนหนึ่งขอชื่นชมและสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ราขการของนายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีและข้าราชการทุกคนครับ”

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts