“…‘ปารีณา’ ไล่บี้ ป.ป.ช. เร่งดำเนินคดีนักการเมืองทั้ง 60 คน อย่าเลือกปฏิบัติ ยกคำพิพากษาศาลฎีกาชี้ชัด นักการเมือง ไม่สามารถครอบครอง ยึดถือ หรือทำประโยชน์ในที่ดินรัฐได้ ถือครองที่ดินรัฐ ผิดจริยธรรมร้ายแรงทั้งหมด…”
11 เม.ย. 2565 นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า
“เมื่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) บอกว่าต้องดูว่าที่ดินได้มาถูกต้องหรือไม่ และแต่ละเคสมีความแตกต่างกันนั้นแน่นอนว่า ทุกเคสมีความแตกต่างกัน แต่คำพิพากษาชัดเจนว่า มิได้สนใจว่าได้ที่ดินมาได้อย่างไร แต่สำคัญว่า นักการเมือง ไม่สามารถครอบครอง ยึดถือ หรือทำประโยชน์ในที่ดินรัฐได้ ผิดจริยธรรมร้ายแรง และต่อให้ส่งมอบที่ดินคืนให้กับรัฐแล้ว ก็ยังคงผิดจริยธรรม เนื่องจากจะต้องคืนทันที ที่ได้รับมอบ หรือง่ายๆ ว่า ไม่ว่าคุณจะได้โดยมรดก ไปซื้อมา หรือก่อนเคยเป็นเกษตกร แต่หากคุณเป็นนักการเมืองแล้ว คุณจะต้องคืนที่ … ทันที!!! ให้กับรัฐ เพราะคุณขาดคุณสมบัติในการยึดถือ ครอบครอง ทำประโยชน์แล้ว ผิดจริยธรรมร้ายแรงส่วนความล่าช้าในการดำเนินคดีนั้น ช้าจริง เพราะตอนนี้ ป.ป.ช. ได้ใช้เวลาประมาณ 1 ปีแล้ว ซึ่งปกติ ป.ป.ช. จะใช้เวลาประมาณ 180 วัน ในการพิจารณา จึงขอให้ ป.ป.ช. ได้โปรดดำเนินการเร่งรัด และดำเนินคดีกับทุกคนโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการครอบครองที่ดินของ ส.ส. ที่ก่อนหน้านี้มีการร้องมายัง ป.ป.ช.เพื่อให้เอาผิดข้อหาฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง ลักษณะเดียวกับ นางสาวปารีณา ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากมีการร้องเรียนเข้ามาอยู่หลายรายพอสมควร โดยนอกจากที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เคยมายื่นเอาไว้ 19 รายชื่อ ยังมีคนอื่นมายื่นอีก และมีที่ ป.ป.ช.ตรวจพบจากการยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน 50-60 ราย แต่ไม่ได้หมายความว่าทั้ง 50-60 ราย จะมีมูลเหมือนกับของ น.ส.ปารีณาทั้งหมด ต้องพิจารณาเป็นรายๆ ไป.