นายกฯ หารือทูตจีนชื่นมื่น เตรียมจัดฉลอง 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต พร้อมเผยแพร่ซอฟต์พาวเวอร์ไทย ด้านไทยเชิญจีนลงทุนทำฐานปล่อยดาวเทียมโคจรต่ำทำระบบ 6G ในภูมิภาค ด้านจีนลดการปล่อยน้ำในเขื่อนแม่น้ำโขง ลดอุทกภัยในภาคเหนือ อีสาน ของไทยและลาว ทูตจีนยืนยันต้นธันวานี้จะเชิญพระเขี้ยวแก้วมาประดิษฐานที่ไทย 73 วัน พร้อมนำแพนด้ายักษ์คู่ใหม่ให้เป็นทูตสันถวไมตรีแก่ประเทศไทยอีกครั้ง
วันนี้ (วันพุธที่ 16 ตุลาคม 2567) เวลา 11.00 น. ณ ห้องสีงาช้าง ทำเนียบรัฐบาล นายหาน จื้อเฉียง (H.E. Mr. Han Zhiqiang) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ เอกอัครราชทูตฯ ได้เป็นผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตจีนและสมาคมการค้าวิสาหกิจไทย – จีน มอบเงินบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จำนวนเงิน 7.2 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือประชาชนไทยในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ การเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี ดังนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าว แสดงความยินดีที่มีโอกาสได้ให้การต้อนรับ เอกอัครราชทูตจีนฯ โดยในปีหน้านี้ ถือเป็นปีทองแห่งมิตรภาพความสัมพันธ์ทางการทูตในวาระครบรอบ 50 ปี ไทย – จีน (Golden Year of Friendship) ซึ่งไทยพร้อมร่วมมือกับจีนเพื่อยกระดับความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน โดยเฉพาะด้านการค้า การลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ ๆ และด้านวัฒนธรรม พร้อมทั้งขอบคุณ สถานเอกอัครราชทูตจีนฯ และสมาคมการค้าวิสาหกิจไทย – จีน สำหรับเงินบริจาคจำนวน 7.2 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมในภาคเหนือของไทย รวมทั้งที่ฝ่ายจีนให้ความร่วมมือในการลดปริมาณการปล่อยน้ำลงแม่น้ำโขงในช่วงก่อนหน้านี้
ด้านเอกอัครราชทูตจีนฯ กล่าวแสดงความยินดีกับการเข้ารับตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี ซึ่งจีนพร้อมส่งเสริมความร่วมมือและมิตรภาพให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น และพร้อมเป็นหุ้นส่วนที่เป็นมิตรที่ไทยสามารถพึ่งพาได้เสมอ โดยเฉพาะเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ได้พบปะหารือในการประชุม ASEAN Summits ที่ประเทศลาว ซึ่งผลการหารือประสบความสำเร็จและมีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก พร้อมชื่นชมการทำงานของรัฐบาลไทยที่มีความก้าวหน้าอย่างมากต่อการส่งเสริมเศรษฐกิจในประเทศ รวมทั้งเชื่อมั่นว่าในปีหน้า ซึ่งเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – จีน จะมีความหมายอย่างยิ่งต่อประชาชนทั้งสองประเทศ โดยจีนพร้อมประสานงานร่วมกับหน่วยงานไทยอย่างใกล้ชิดต่อไป
นายจิรายุกล่าวต่อไปว่า ทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันในประเด็นที่สำคัญ โดยเฉพาะด้านการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต ไทย – จีน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมตั้งแต่ปลายปีนี้ไปจนถึงปีหน้า โดยนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า ปีหน้าถือเป็นปีทองที่เป็นโอกาสสำคัญที่จะได้จัดกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การเผยแพร่ซอฟต์พาวเวอร์ไทย – จีน การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมทางดนตรี ดังเช่น การทรงกู่เจิง ของสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เพื่อถ่ายทอดความสัมพันธ์อันดีนี้ไปสู่สองประเทศ ซึ่งเอกอัครราชทูตจีนฯ กล่าวว่า ในวันที่ 4 ธันวาคม 2567 นี้ จะเริ่มต้นกิจกรรมด้วยการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) มาประดิษฐานที่ไทยเป็นการชั่วคราว (เป็นเวลา 73 วัน) รวมทั้งยืนยันถึงการนำแพนด้ายักษ์คู่ใหม่ให้เป็นทูตสันถวไมตรีเชื่อมสัมพันธ์ไทย-จีน แก่ประเทศไทยอีกครั้ง
ด้านความร่วมมือเศรษฐกิจไทย – จีน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะสร้างมูลค่าทางการค้าร่วมกัน โดยนายกรัฐมนตรีขอบคุณฝ่ายจีนที่อนุมัติให้ด่านท่าเรือกวนเหล่ยเป็นด่านนำเข้าสินค้าผลไม้เมื่อปลายเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา พร้อมกล่าวเชิญชวนบริษัทจีนมาร่วมลงทุนกับธุรกิจไทย อาทิ Data Center ฐานการผลิตและส่งออกยานยนต์ไฟฟ้า (EV) พวงมาลัยขวา และฐานยิงจรวดขนาดเล็กเพื่อปล่อยดาวเทียมวงโคจรต่ำสำหรับให้บริการระบบ 6G ซึ่งเอกอัครราชทูตจีนฯ ยินดีแนะนำและให้ข้อมูลกับบริษัทจีนเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ของไทย
โอกาสนี้ ในการแลกเปลี่ยนการเยือน ทั้งสองฝ่ายได้เชิญเยือนอย่างเป็นทางการ เพื่อกระชับความสัมพันธ์และหารือแนวทางในการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นโอกาสให้นายกรัฐมนตรีได้หารือร่วมกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน และนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง โดยเอกอัครราชทูตจีนฯ พร้อมประสานงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อต้อนรับการเยือนจีนอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี