“….รถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะจีนมีแนวโน้มกลายเป็นสินค้าดาวรุ่งที่สะท้อนวิถีชีวิตอนาคตของมวลมนุษยชาติที่เป็นปัจจัยจำเป็น ไม่ต่างจากโทรศัพท์มือถือที่มวลมหาชนเลือกซื้อใช้ได้ทั่วไป ดูจากงานแสดงมอเตอร์โชว์ปารีสเมื่อวันที่14ตุลาคมที่ผ่านมานี้ รถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะจีนก็พาเหรดกันเข้างานเป็นแถว หนำซ้ำรถหรูราคาแพงของหัวเหวยก็แสดงปาฏิหาริย์รับจองทันทีกว่าหมื่นคัน ท่ามกลางบรรยากาศเช่นนี้ รัฐบาลประเทศผู้ผลิตรถยนต์รายเก่า ซึ่งล้วนแต่เป็นประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลกตะวันตกต่างพากันตกตื่น ทิ้งป้ายการค้าเสรีและลดระดับโลกร้อนกันเป็นแถว หันมาตั้งกำแพงภาษีรถยนต์ไฟฟ้าจีน โดยสหรัฐอเมริกาตั้งไว้ถึง100% ขณะที่สหภาพยุโรปตั้งไว้เกือบ50% ซึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่รายเก่าเช่นโตโยต้า เบนส์ ฟอร์ด บีเอ็มดับลิวฯลฯต่างพากันตกตะลึง ปรับตัวไม่ทัน สูญเสียตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะให้แก่บริษัทจีนในแทบทุกทวีป…”
ทัพหน้าที่กล้าแกร่ง 勇猛的部队
เร็วดุจสายฟ้าแลบ!
การพลิกเกมอุตสาหกรรมรถยนต์จากระบบเครื่องยนต์สันดาปภายในมาเป็นระบบขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ไฟฟ้าของจีน และการประสานเข้ากับระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะที่ล้ำหน้ากว่าใครอื่น ทำให้กระบวนการพลิกผันตัวเองจากการเป็นผู้ตามมาเป็นผู้นำ อันเป็นการเปลี่ยนแปลทางคุณภาพ สามารถดำเนินไปได้อย่างรวดเร็ว และอย่างน่าอัศจรรย์ สะท้อนให้เห็นถึงแก่นแท้ของห้วงประวัติศาสตร์ขั้นปัจจุบันที่กำลังขับเคลื่อนไปในทิศทางที่จีนกำลังมุ่งไป
อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ ถือว่าเป็นหัวใจของเศรษฐกิจการผลิตของสังคมทันสมัย โยงใยเป็นเครือข่ายครอบคลุมเป็นวงกว้าง ค้ำจุนการดำรงอยู่ของเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศใดประเทศหนึ่งอย่างมั่นคง อีกทั้งยังเป็นสัญญลักษณ์ของความเจริญก้าวหน้าโดยรวมของสังคมนั้นด้วย
ในอดีต อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์เจริญเติบโตขึ้นตามการพัฒนาของวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี โดยเฉพาะการใช้พลังงานฟอสซิลทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
ต่อมาเมื่อทุกฝ่ายพากันตระหนักถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อลดภาวะเรือนกระจก จึงได้เกิดฉันทามติปรับแนวการพัฒนาเศรษฐกิจจากการใช้พลังงานฟอสซิลมาเป็นใช้พลังงานไฟฟ้า โดยเฉพาะพลังงานไฟฟ้าจากแหล่งธรรมชาติเช่นพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานจากแรงลมฯลฯ และปรับแนวการพัฒนาประเทศไปสู่การพัฒนาแบบสีเขียวอย่างรอบด้าน
ทั้งนี้ทุกประเทศยินดีที่จะเดินหน้าไปสู่อนาคตร่วมกัน ร่วมนวัตกรรมเทคโนโลยีพลังงานแบบใหม่ที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมแทนที่พลังงานดั้งเดิม โดยทุกประเทศกำหนดเป้าหมายชัดเจนถึงการลดระดับคาร์บอนให้เป็นศูนย์ภายในกลางศตวรรษนี้
บนฐานการขับเคลื่อนของสังคมโลกเช่นนี้ จีนได้กำหนดนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ที่ใช้พลังงานใหม่อย่างชัดเจน สนับสนุนและส่งเสริมการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีแบตเตอรี่แบบครบวงจร
ในที่สุด ความพยายามของจีนก็ปรากฏผล บริษัทผู้ผลิตรายสำคัญๆเกิดขึ้นปานดอกเห็ดในฤดูฝน นำโดยBYDที่ปัจจุบันได้ผงาดขึ้นมาเป็นผู้กำหนดเกมการตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะของโลกไปแล้วชนิดไม่มีใครคาดถึง
โดยเฉพาะบริษัทยักษ์ใหญ่รายเก่าเช่นโตโยต้า เบนส์ ฟอร์ด บีเอ็มดับลิวฯลฯต่างพากันตกตะลึง ปรับตัวไม่ทัน สูญเสียตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะให้แก่บริษัทจีนในแทบทุกทวีป ปัจจุบันดูเหมือนจะมีเพียงรถยนต์ไฟฟ้าเทสล่ารายเดียวที่พอฟัดพอเหวี่ยงกับรถจีน แต่ก็เป็นไปแบบตั้งรับและสูญเสียรังวัดไปเรื่อยๆ รถยนต์พลังงานใหม่จีนมีแนวโน้มครองนลาดโลกอย่างชัดเจน
ท่ามกลางบรรยากาศเช่นนี้ รัฐบาลประเทศผู้ผลิตรถยนต์รายเก่า ซึ่งล้วนแต่เป็นประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลกตะวันตกต่างพากันตกตื่น ทิ้งป้ายการค้าเสรีและลดระดับโลกร้อนกันเป็นแถว หันมาตั้งกำแพงภาษีรถยนต์ไฟฟ้าจีน โดยสหรัฐอเมริกาตั้งไว้ถึง100% ขณะที่สหภาพยุโรปตั้งไว้เกือบ50%
โดยหวังว่าจะสามารถยันการรุกของรถจีนได้ ซึ่งคงจะผิดหวังแน่ เพราะดูจากงานแสดงมอเตอร์โชว์ปารีสที่เปิดขึ้นเมื่อวันที่14ตุลาคมที่ผ่านมานี้ รถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะจีนก็พาเหรดกันเข้างานเป็นแถว หนำซ้ำรถหรูราคาแพงของหัวเหวยก็แสดงปาฏิหาริย์รับจองทันทีกว่าหมื่นคัน
ผลิตภัณฑ์สะท้อนอนาคตของจีนช่างโดนใจผู้บริโภคอะไรเช่นนี้!
ปัจจุบันอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะปักหลักมั่นแล้วในตลาดจีน คนจีนนิยมซื้อรถแบรนด์จีนมากขึ้นและเป็นส่วนใหญ่ ทำให้บริษัทรถยนต์จีนสามารถเดินหน้าสู่ตลาดโลกได้อย่างมั่นใจ ด้วยกลยุทธ์การตลาดและการลงทุนที่หาคู่แข่งได้ยาก ยกเว้นบริษัทจีนด้วยกัน
เช่นการตั้งโรงงานผลิตในกลุ่มประเทศอาเซียน ยุโรป เม็กซิโก ควบคู่ไปกับการทำตลาดแบบถึงลูกถึงคน ถือเอาความพึงพอใจของผู้บริโภคเป็นตัวตั้ง
รถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะจีนจึงมีแนวโน้มกลายเป็นสินค้าดาวรุ่งที่สะท้อนวิถีชีวิตอนาคตของมวลมนุษยชาติที่เป็นปัจจัยจำเป็นไม่ต่างจากโทรศัพท์มือถือที่มวลมหาชนเลือกซื้อใช้ได้ทั่วไป
ไขคำจีน
勇猛 หยงเหมิ่ง กล้าหาญชาญชัย
