วันพุธ, มีนาคม 26, 2025
หน้าแรกคอลัมนิสต์สันติ ตั้งรพีพากร 陈俊泰จากทุนเป็นใหญ่ “สู่ยุค ปชช.เป็นสุข”

Related Posts

จากทุนเป็นใหญ่ “สู่ยุค ปชช.เป็นสุข”

“….กระแสการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกยุคปัจจุบัน ความสำเร็จของจีนยุคใหม่ ไม่ว่าจะพิจารณาในแง่มุมใด ในมิติหรือเงื่อนเวลาใด ในที่สุดก็จะมาลงตัวที่ “ประวัติศาสตร์” และ “ประชาชน”  จีนยึดมั่นในสองสิ่งนี้เป็นสรณะ ด้วยเหตุนี้ ทุกครั้งที่จีนประสบปัญหา ก็จะไม่รีรอที่จะรีบปรับตัวเองให้เข้ากับการขับเคลื่อนของกงล้อประวัติศาสตร์ โดยสลัดทิ้งสิ่งพะรุงพะรังทางความคิดและระบบปฏิบัติการต่างๆ ทิ้งไปโดยไว ในยุคปฏิวัติ “เหมา เจ๋อตง” พาประชาชนชาวจีนเปลี่ยนแปลงประเทศจีนครั้งใหญ่  “เติ้งเสี่ยวผิง” ก็พาประเทศจีนหลุดออกจากระบบเศรษฐกิจ วางแผนเชื่อมตนเองเข้ากับระบบเศรษฐกิจโลก จะเห็นได้ว่า ยุค “เหมา เจ๋อตง”สลัดทิ้งระบอบศักดินาของจีนที่ดำรงอยู่อย่างมั่นคงกว่า 2000 ปี ขณะที่ “เติ้ง เสี่ยวผิง” สลัดทิ้งระบบเศรษฐกิจวางแผนแบบสหภาพโซเวียตทิ้งไป และในวันนี้ สิ่งที่กำลังประจักษ์แก่สายตาเราก็คือ “สี จิ้นผิง” กำลังพาชาวโลกโล๊ะทิ้งระบอบทุนนิยมโลกที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องร่วม 500 ปี มุ่งพาชาวโลกก้าวไปสู่ยุคใหม่ โดยถือเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง จึงเชื่อได้ว่า จีนจะพาชาวโลกเคลื่อนตัวไปตามกระแสประวัติศาสตร์นี้ได้อย่างเป็นจริง จากยุคทุนเป็นใหญ่สู่ยุคประชาชนเป็นสุข….”

ผู้​มอบ​ชัยชนะ​ให้​จีน​ 中国至胜之道

เมื่อเรามองกระแสการเปลี่ยนแปลง​ของสังคม​โลก​ยุค​ปัจจุบัน​ จะเห็นปรากฏการณ์​ที่ประเทศ​จีนเดินหน้า​พัฒนา​ประเทศ​ได้ตามแผนทุกขั้นตอน​ ขณะที่ประเทศ​อื่นๆ เกือบทั้งโลก​ พากันตกต่ำระส่ำระสาย​ด้วยสาเหตุต่างๆ ทั้งจากภายนอก​และ​ภายใน​ ยกเว้นบางประเทศ ​เช่น สิงคโปร์​ ที่ยังสามารถเลี้ยงตัวเอง​บนความไม่แน่นอน​ของโลกได้อย่างชาญฉลาด ​รู้ทัน​

จาก​การ​ติดตาม​ศึก​ษาเรื่องจีนมาตลอด การทำงานของตนเอง​ ผู้เขียน​ขอมองข้ามสาเหตุ​ทั่วไปในความสำเร็จ​ของจีน​ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านเศรษฐกิจ​การผลิต​ การเมืองการปกครอง​และอื่นๆ​ ซึ่งล้วนแต่เป็น​ผลของสาเหตุเบื้องต้นที่ผู้เขียน​จะนำเสนอ

สาเหตุ​เบื้องต้น​ของความสำเร็จของจีนยุคใหม่​ ไม่ว่าจะพิจารณา​ในแง่​มุม​ใด​ ในมิติหรือเงื่อนเวลา​ใด​ ในที่สุดก็จะมาลงตัวที่ “ประวัติศาสตร์” และ “ประชาชน”

โดยพรรคคอมมิวนิสต์​จีนที่แสดงบทบาท​เป็นปัจจัย​ขับเคลื่อนประเทศ ​จีนยึดมั่นในสองสิ่งนี้เป็นสรณะ​ ชี้นำวิธีคิดวิธีทำงานของ​ตน​ด้วยการ “ยืนอยู่บนความถูกต้องของประวัติศาสตร์” และ “ถือเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง”อย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น​

เช่นนี้​แล้ว​ การปฏิบัติ​ของพรรคฯ จีน​ ก็แน่วแน่มั่นคง​ เปรียบเหมือนการเดินเรือที่กำหนดทิศทาง​แน่นอน​ แล่นฝ่าคลื่นลมอย่างแน่วแน่

การยึดปฏิบัติ​เช่นนี้ของพรรคฯ จีน​ เป็นไปตามแนวคิด​อุดมการณ์​พื้นฐานของพวกเขา ที่ปลูกฝังไว้ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งพรรค​ นั่นคือการยึดมั่นในหลักปรัชญา​ชี้นำที่ว่า วิวัฒนาการ​ของมวลมนุษยชาติ​ดำเนินไปตามกฎเกณฑ์​ที่แน่นอน​ ด้วยแรงผลักดัน​ของพลังการ​ผลิต​ ประวัติศาสตร์​ของมวลมนุษย์​แม้จะขับเคลื่อนไปบนเส้นทางที่คดเคี้ยว​ แต่ก็จะไม่ถอยหลัง​ ดัง​นั้น​ การยืนอยู่​บนความถูกต้องของประวัติศาสตร์​เท่านั้นจึงจะเป็นหลักประกัน​ ในการพาตนเองก้าวไปสู่​อนาคตที่สดใส

ด้วยเหตุนี้​ ทุกครั้งที่จีนประสบปัญหา​ ก็จะไม่รีรอที่จะรีบปรับตัวเองให้เข้ากับการขับเคลื่อน​ของกงล้อประวัติ​ศาสตร์​ โดยสลัดทิ้งสิ่งพะรุงพะรังทางความคิดและระบบปฏิบัติการ​ต่างๆ ทิ้งไปโดยไว

เหมา เจ๋อตง

ในยุคปฏิวัติ​ “เหมา เจ๋อตง” พาประชาชนชาวจีนเปลี่ยน​แปลงประเทศ​จีนครั้งใหญ่​  เพื่อประสานจีนเข้ากับระบอบสังคมแบบใหม่ของโลก นั่นคือระบอบสังคมนิยม​ โดยการเชิดชูลัทธิมาร์กซ์​ชี้นำ​

และเมื่อถึงเวลาที่จะต้องเร่งพัฒนา​เศรษฐกิจ​สร้างความทันสมัย​ให้แก่ประเทศ​จีน​ “เติ้ง เสี่ยวผิง” ก็พาประเทศ​จีนหลุดออกจากระบบเศรษฐกิจ ​วางแผน​เชื่อมตนเองเข้ากับระบบเศรษฐกิจ​โลกที่กลุ่มประเทศ​ตะวันตกคุมเกม​ โดยรักษาไว้เพียงระบอบการเมืองที่มีพรรคคอมมิวนิสต์​จีนเป็นผู้บริหารประเทศ​

เติ้ง เสี่ยวผิง

ตามครรลองนี้​ ในยุค “สี จิ้นผิง”​ เมื่อประเทศ​จีนเข้มแข็งทางด้านเศรษฐกิจ​แล้ว​  พรรคฯ จีน ก็ปรับตัวเองขึ้นมาเป็นหัวหอกของขบวนการเปลี่ยนแปลงสังคมโลกไปสู่ความเป็นหนึ่งเดียวกัน​ โดยการสร้างเครือข่าย​พัฒนา​เศรษฐกิจ​ที่สอดคล้องกับความเรียกร้อง​ต้องการของประเทศ​กำลังพัฒนา​ทั่วโลกเป็นฐานรองรับ

สี จิ้นผิง

จะเห็นได้ว่า “ยุคเหมาเจ๋อตง​” สลัดทิ้งระบอบศักดินาของจีนที่ดำรงอยู่อย่าง​มั่นคงกว่า 2000 ปี​ ขณะที่ “เติ้ง เสี่ยวผิง” สลัดทิ้งระบบเศรษฐกิจ​วางแผนแบบสหภาพ​โซเวียตทิ้งไป​

และในวันนี้​ สิ่งที่กำลังประจักษ์​แก่สายตาเราก็คือ​ “สี จิ้นผิง” กำลังพาชาวโลกโล๊ะทิ้งระบอบทุนนิยมโลกที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องร่วม 500 ปี

มุ่งพาชาวโลกก้าวไปสู่ยุคใหม่​ที่ชาวโลกร่วมกันสร้างอนาคตร่วมกัน​ โดยถือเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง

จากนี้​ ประวัติศาสตร์​มนุษยชาติ​ก็จะก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง​ จากยุคโลกาภิวัฒน์​ที่ถือเอาทุนเป็นศูนย์กลาง​ สู่ยุคโลกาภิวัฒน์​ที่ถือเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง

จึงไม่แปลก​ ที่เราจะรู้สึกฉงนฉงายใจอยู่ไม่คลายว่า​ ในการขับเคี่ยวต่อกรกันระหว่าง​กลุ่มประเทศ​ทุนนิยม​ตะวันตก ที่มีสหรัฐ​ฯ เป็นหัวโจก กับกลุ่มประเทศ​เกิดใหม่​ที่มีจีนเป็นแกนนำ​ ผลมักจะลงเอยที่ชัยชนะของฝ่ายหลัง

และจึงไม่ต้องสงสัยในความถูกต้อง​ของคำวินิจฉัย​ของ “สี จิ้นผิง” ที่ว่า “โลกกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่ที่ตะวันออกลอยสูง​ ตะวันตกคล้อยต่ำ”

สรุป​คือ​ การผงาดขึ้นของโลกตะวันออก​  และ​ความ​ตกต่ำของโลกตะวันตก​ เป็นไปตามกฎเกณฑ์​การพัฒนา​ของประวัติศาสตร์​ ที่ไม่มีใคร​เปลี่ยน​แปลงเป็นอื่น​ได้

จีนภายใต้​การ​นำ​ของพรรคคอมมิวนิสต์​จีน เชื่อในกฎเกณฑ์​นี้และยึดมั่น​ทำการเปลี่ยนแปลง​ตัวเองตามกฎเกณฑ์​นี้เสมอมา​ จึงไม่ตกกระแส​ประวัติศาสตร์​ และประสบแต่ชัยชนะ​

จึงเชื่อได้ว่า จีนจะพาชาวโลกเคลื่อนตัวไปตามกระแสประวัติศาสตร์นี้​ได้อย่างเป็นจริง

จากยุคทุนเป็นใหญ่สู่ยุคประชาชนเป็นสุข

ไขคำจีน

至胜之道 

จื้อเซิ่งจือต้าว​ หนทางสู่ชัยชนะ

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts