“….ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดฉากสงครามภาษีสินค้ากับจีนและอีกหลายประเทศเพื่อบีบจีน และเพื่่อกรุยทางไปสู่การฟื้นความยิ่งใหญ่ทางด้านอุตสาหกรรมการผลิตของอเมริกาขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งนั้น ผลที่สุดจะลงเอยที่ความล้มเหลวของสหรัฐ ทั้งนี้ ความคาดหมายที่ว่า ทั่วโลกจะเดือดร้อน เกิดวิกฤตทั่วด้าน ประเทศต่างๆจะวิ่งซบสยบยอมสหรัฐอเมริกานั้น จะไม่ปรากฏเป็นจริง จีนจะทำการโต้กลับ ประสานกับการแข็งขืนของสหภาพยุโรปและกลุ่มประเทศที่เศรษฐกิจการค้าผูกพันแนบแน่นกับจีน ถึงที่สุดจะสามารถยันกลับมวลวิกฤติที่ถาโถมเข้าใส่ กลายเป็นคลื่นสึนามิย้อนกลับถล่มเข้าใส่สหรัฐอเมริกา โยกคลอนโครงสร้างเศรษฐกิจการเงิน โดยเฉพาะตลาดเงินตลาดทุนอย่างรุนแรง เกิดภาวะเงินเฟ้อ ข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจําวันขาดแคลน ตลาดซบเซา ประชาชนเดือดร้อน ถึงกับพากันเคลื่อนไหวประท้วง ปั่นป่วนไปทุกหย่อมหญ้า เมื่อนั้น รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ก็จะเข้าตาจน แก่นแท้ของธรรมชาติหรือปรัชญาที่ว่า “พลังบวก” ย่อมชนะ”พลังลบ” หรือ”ธรรมะ” ย่อมชนะ”อธรรม” เสมอ ความมั่นใจในพลังบวกของจีนนี้จะกลายเป็นพลังทางสังคมอันยิ่งใหญ่ดุจสึนามิถาโถมครอบคลุมไปทั่วทั้งโลกอย่างรวดเร็ว เกินกว่าที่เราจะคาดถึง….”
สึนามิพลังบวก 正能量海啸
สหรัฐอเมริกาโดยรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังทำสิ่งที่สวนทางกับคำเตือนของจีนที่ว่าอย่าคิดทำสงครามกับจีน ไม่ว่าจะเป็นสงครามการค้า สงครามเย็น หรือสงครามร้อน เพราะจีนจะรับมือเต็มที่ โดยสหรัฐฯจะไม่มีทางชนะ
ทางที่ดีก็คือ มาร่วมกันสร้างอนาคตร่วมกันของมวลมนุษยชาติ ตามกฏเกณฑ์การขับเคลื่อนของประวัติศาสตร์ที่สอดคล้องกับความเรียกร้องต้องการของมวลมนุษย์ยุคใหม่ ซึ่งปัจจุบันได้เข้าสู่ระยะของความตื่นรู้แบบทันทีทันใด ด้วยเทคโนโลยี่การสื่อสารไวเท่าแสงในมือของคนทุกคน
ในสายตาผู้เขียน การเปิดฉากสงครามภาษีสินค้ากับจีนและอีกหลายประเทศเพื่อบีบจีน และเพื่่อกรุยทางไปสู่การฟื้นความยิ่งใหญ่ทางด้านอุตสาหกรรมการผลิตของอเมริกาขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งนั้น ผลที่สุดจะลงเอยที่ความล้มเหลวของสหรัฐ เพราะเศรษฐกิจการค้าโลกที่มีจีนเป็นแกนนำ แม้ไม่มีสหรัฐฯ ก็จะยังดำเนินต่อไปได้ ขณะที่เศรษฐกิจการค้าของสหรัฐฯที่ตัดขาดจากโลกจะถึงทางตัน
ทั้งนี้ ความคาดหมายที่ว่า ทั่วโลกจะเดือดร้อน เกิดวิกฤตทั่วด้าน
ประเทศต่างๆจะวิ่งซบสยบยอมสหรัฐอเมริกานั้น จะไม่ปรากฏเป็นจริง
ตรงกันข้าม จีนจะทำการโต้กลับ ประสานกับการแข็งขืนของสหภาพยุโรปและกลุ่มประเทศที่เศรษฐกิจการค้าผูกพันแนบแน่นกับจีน ถึงที่สุดจะสามารถยันกลับมวลวิกฤติที่ถาโถมเข้าใส่ กลายเป็นคลื่นสึนามิย้อนกลับถล่มเข้าใส่สหรัฐอเมริกา โยกคลอนโครงสร้างเศรษฐกิจการเงิน โดยเฉพาะตลาดเงินตลาดทุนอย่างรุนแรง เกิดภาวะเงินเฟ้อ ข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจําวันขาดแคลน ตลาดซบเซา ประชาชนเดือดร้อน ถึงกับพากันเคลื่อนไหวประท้วง ปั่นป่วนไปทุกหย่อมหญ้า เมื่อนั้น รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ก็จะเข้าตาจน
ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้น หากพวกเขายังมืดบอดต่อทิศทางการพัฒนาของสังคมโลก ไม่ยอมรับการผงาดขึ้นของจีน ก็อาจจะถึงกับเสี่ยงก่อสงครามมหาประลัยกับจีน ซึ่งจีนเวลานั้นก็คงเตรียมรับมือไว้แล้วเช่นกัน
จึงไม่เป็นที่กังขาใดๆ ครั้งนี้ จีนได้โต้ตอบแบบสมน้ำสมเนื้อทันควัน พร้อมกับเดินหน้าผนึกกำลังของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจใหม่ในเครือข่ายที่จีนได้ร่วมสร้างขี้นมา เช่นกลุ่มBRICS กลุ่ม ACEP และองค์กรความร่วมมือระหว่างจีน-อาหรับ จีน-แอฟริกา จีน-ลาตินอเมริกา และอื่นๆในขอบข่ายทั่วโลก ผลักดันระบบเศรษฐกิจการค้า การลงทุนและอื่นๆที่ไม่มีอเมริกา ให้ดำเนินไปได้เป็นอย่างดี สามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้เป็นพื้นฐาน
โดยจีนจะใช้โอกาสที่เกิดขึ้นจากวิกฤตนี้ ร่วมกับประเทศต่างๆทำการสร้างระเบียบโลกใหม่ที่สอดคล้องกับการขับเคลื่อนของประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของมวลมนุษยชาติ ที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมและถือเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง
อารยธรรมใหม่ของมวลมนุษยชาติก็จะปรากฏขึ้น
ณ วันนี้ ความเข้มแข็งของจีนที่มีความพร้อมเพรียงทั่วด้าน มีตลาดขนาดมหึมาที่เปิดกว้างรองรับ กลายเป็นหลักประกันสูงสุดให้แก่คนทั้งโลก ในการก้าวข้ามวิกฤติครั้งใหญ่นี้ แล้วเดินหน้าสร้างอนาคตร่วมกัน
วิกฤติใหญ่ครั้งนี้ จะทำให้ทั่วทั้งโลกเกิดความรับรู้ในระดับแก่นแท้ของธรรมชาติหรือปรัชญาครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งว่า “พลังบวก” ย่อมชนะ”พลังลบ” หรือ”ธรรมะ” ย่อมชนะ”อธรรม” เสมอ
ความมั่นใจในพลังบวกของจีนนี้จะกลายเป็นพลังทางสังคมอันยิ่งใหญ่ดุจสึนามิถาโถมครอบคลุมไปทั่วทั้งโลกอย่างรวดเร็ว เกินกว่าที่เราจะคาดถึง
นี่คือผลที่จะตามมาของการจุดพลุก่อวิกฤติของโดนัลด์ ทรัมป์ ในขั้นตอนการพัฒนาของประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของมวลมนุุษยชาตินี้
ในสายตาผู้เขียน!
ไขคำจีน
正能量 เจิ้งเหนิงเลี่ยง พลังบวก พลังงานบวก พลังงานสร้างสรรค์
