วันพฤหัสบดี, กรกฎาคม 31, 2025
หน้าแรกคอลัมนิสต์สันติ ตั้งรพีพากร 陈俊泰มวลประชา “มหาประชาชน”ต้องรวมพลัง “ให้ยิ่งใหญ่”ขับเคลื่อนไทย “ให้ทันสมัย”“เป็น” สังคมโลกยุคใหม่จีน-ไทย

Related Posts

มวลประชา “มหาประชาชน”ต้องรวมพลัง “ให้ยิ่งใหญ่”ขับเคลื่อนไทย “ให้ทันสมัย”“เป็น” สังคมโลกยุคใหม่จีน-ไทย

“….วิวัฒนาการทางด้านความคิดทฤษฎีมาร์ซิสม์ของประเทศจีน โดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน ดำเนินควบคู่กันมากับการปฏิวัติ และการพัฒนาประเทศให้ทันสมัยรอบด้านอย่างใกล้ชิด ปัจจุบันนี้ แนวคิดที่นำเสนอสู่เวทีโลกของจีนกำลังได้รับการตอบรับในทางบวกชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้เพราะจีนมีศักยภาพเพียงพอที่จะแปรข้อเสนอให้เป็นความจริงได้ ตามคำขวัญที่ว่า “พูดแล้วต้องทำได้”และ “ทำแล้วต้องได้ผลจริง” นี่คือคำอธิบายว่า เหตุใดจีนจึงประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องมานานหลายสิบปี และมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จลักษณะนี้ไปอีกนานเท่านาน ทิศทางการขับเคลื่อนของสังคมไทย ก็จะพบว่าประเทศไทยภายใต้อำนาจกำหนดของกลุ่มทุนในรูปพรรคการเมืองที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันบริหารประเทศไทย จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถนำพาประเทศไทยก้าวไปสู่เป้าหมายที่ ตั้งไว้ ตรงกันข้ามกลับสร้างปัญหาสะสมจนกลายเป็นอุปสรรคต่อการสร้างความเจริญรุ่งเรืองระยะยาวต่อประเทศชาติประชาชน กลายเป็นตัวปัญหาหลักของชาติประชาชน ที่จะต้องขจัดออกไป ซึ่งอำนาจใหม่ที่จะต่อสู้เอาชนะอำนาจกลุ่มทุนนี้ได้ก็คืออำนาจของปวงชนชาวไทยทุกฝ่ายที่รวมตัวกันเข้าเป็นกลุ่มรวมพลังแผ่นดินที่ยิ่งใหญ่…”

@suebjarkkhao

มวลประชา “มหาประชาชน”

♬ เสียงต้นฉบับ – Suebjarkkhao – Suebjarkkhao

จับทางจีน正视中国
สันติ ตั้งรพีพากร陈俊泰

มาร่วมกันจับปัจจัยกำหนดการขับเคลื่อนสังคมโลกยุคใหม่จีน-ไทย让我们一起掌握推动新时代世界的决定力量

การติดตามทำความเข้าใจในทิศทางที่สังคมโลกจะเคลื่อนไป ซึ่งในนั้นก็จะมีการขับเคลื่อนของสังคมไทยประสานไปด้วยนั้น ดูจะเป็นหน้าที่เดียวกันของเราๆท่านๆที่สนใจติดตามเหตุการณ์ต่างๆที่กำลังเกิดขึ้น เพื่อจะได้ปรับตัวให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างถูกต้อง และทำบางสิ่งบางอย่างที่ดีมีประโยชน์ให้กับตัวเอง ครอบครัว หรือกระทั่งประเทศชาติโดยรวม

สำหรับเรื่องนี้ ผู้เขียนในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่ง ดำเนินชีวิตมาอย่างยาวนานในท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของประเทศไทยในสังคมโลกที่เปลี่ยนแปลงไปทุกวี่วัน ได้เห็นคุณประโยชน์ของการใช้หลักปรัชญาลัทธิมาร์กซ์ชี้นำการวิเคราะห์เหตุการณ์ต่างๆ ทำให้เข้าถึงแก่นแท้ของปัญหา และมองเห็นทางออกที่เป็นไปได้จริง ทั้งในบริบทการดำเนินชีวิตส่วนตัว การสะท้อนความจริงของประเทศชาติและมวลมนุษยชาติโดยรวม จึงได้นำมาปรับใช้ในการวิเคราะห์สถานการณ์ในปัจจุบันในฐานะเครื่องมือหลัก

เกี่ยวกับลัทธิมาร์กซ์ ผู้เขียนรับเอาแนวคิดปรัชญาวัตถุนิยมประวัติศาสตร์และปรัชญาวัตถุนิยมวิภาษมาเป็นเครื่องมือเบื้องต้นในการอธิบายความจริงที่กำลังเกิดขึ้น สำหรับล้วงลึกลงไปจับกฎเกณฑ์หรือแก่นแท้ของสิ่งที่เกิดขึ้นจริงที่เราสัมผัสอยู่ และเมื่อเครื่องมือเบื้องต้นนี้ได้ปรากฏออกมาเป็นทฤษฏีว่าด้วยการปฏิบัติและทฤษฎีว่าด้วยความขัดแย้งของเหมาเจ๋อตงแล้ว ก็ยิ่งทำให้กระบวนการล้วงลึกลงสู่แก่นแทัของสิ่งสามารถดำเนินไปได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น

วิวัฒนาการทางด้านความคิดทฤษฎีมาร์ซิสม์ของประเทศจีน โดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน ดำเนินควบคู่กันมากับการปฏิวัติ และการพัฒนาประเทศให้ทันสมัยรอบด้านอย่างใกล้ชิด แล้วปรากฏออกมาเป็นบทสรุปทางความคิดทฤษฎีอย่างเป็นระบบตั้งแต่ความคิดเหมาเจ๋อตง ทฤษฎีเติ้งเสี่ยวผิงซึ่งขยายความออกมาเป็นทฤษฏีว่าด้วยสามตัวแทนของเจียงเจ๋อหมืนและแนวคิดการพัฒนาอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ของหูจิ่นเทา ตลอดจนการยกระดับความคิดทฤษฎีครั้งใหญ่ในยุคของสีจิ้นผิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการสร้างสังคมโลกที่มวลมนุษยชาติมีชะตากรรมร่วมกัน

ปัจจุบันนี้ แนวคิดทฤษฎีที่นำเสนอสู่เวทีโลกของจีนกำลังได้รับการตอบรับในทางบวกชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้เพราะจีนมีศักยภาพเพียงพอที่จะแปรข้อเสนอให้เป็นความจริงได้ ตามคำขวัญที่ว่า “พูดแล้วต้องทำได้”และ “ทำแล้วต้องได้ผลจริง”

ในสายตาผู้เขียน ตามหลักวิเคราะห์ว่าด้วยความขัดแย้งหลักและด้านหลักของความขัดแย้งศักยภาพของจีนทั้งทางด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมการผลิต วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การทหาร การเมืองการปกครอง สังคม วัฒนธรรมฯลฯได้ประกอบกันเข้าเป็นอำนาจกำหนดโดยรวมของจีนเหนือประเทศอื่นใดในโลกนี้

อยู่ในฐานะเป็นด้านหลักของตวามขัดแย้งหลักระหว่างสังคมนิยมจีนกับโลกทุนนิยมตะวันตก

อีกนัยหนึ่ง จีนอยู่ในฐานะผู้นำการเปลี่ยนแปลงตามแนวคิดริเริ่มของจีนตลอดกระบวนการ

นี่คือคำอธิบายว่า เหตุใดจีนจึงประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องมานานหลายสิบปี และมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จลักษณะนี้ไปอีกนานเท่านาน

การมองเห็นปัจจัยกำหนดการขับเคลื่อนของสังคมโลกยุคใหม่ คือจีน จะทำให้เราทำตัวให้พร้อมได้อย่างสอดคล้องกับความเป็นจริง เช่นกรณีภาษีทรัมพ์ เราไม่เพียงแต่จะไม่เข่าอ่อนตีนอ่อนกับคำขู่ของวอชิงตันเท่านั้น ตรงกันข้ามเราควรจะหาทางกระชับความร่วมมือกับจีน ร่วมกันเดินหน้าจัดระเบียบโลกใหม่ที่ไม่มีใครตกอยู่ภายใต้การข่มขู่ของนักเลงโตอีกต่อไป

เมื่อนำเอาหลักทฤษฎีนี้มาทำความเข้าใจในทิศทางการขับเคลื่อนของสังคมไทย ก็จะพบว่าประเทศไทยภายใต้อำนาจกำหนดของกลุ่มทุนในรูปพรรคการเมืองที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันบริหารประเทศไทย แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถนำพาประเทศไทยก้าวไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ ตรงกันข้ามกลับสร้างปัญหาสะสมจนกลายเป็นอุปสรรคต่อการสร้างความเจริญรุ่งเรืองระยะยาวต่อประเทศชาติประชาชน

ณ วันนี้ อำนาจกำหนดโดยกลุ่มพรรคการเมืองได้กลายเป็นตัวปัญหาหลักของชาติประชาชน ที่จะต้องขจัดออกไป ซึ่งอำนาจใหม่ที่จะต่อสู้เอาชนะอำนาจกลุ่มทุนนี้ได้ก็คืออำนาจของปวงชนชาวไทยทุกฝ่ายที่รวมตัวกันเข้าเป็นกลุ่มรวมพลังแผ่นดินที่ได้แสดงพลังยิ่งใหญ่ออกมาแล้วเป็นเบื้องต้นเมื่อวันที่28สิงหาคม2568

ไขคำจีน

决定力量

เจวี๋ยติ้งลี่เลี่ยง อำนาจกำหนด

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

spot_img

Latest Posts