ปชต. “อัตลักษณ์ไทย” ปชช.”ร่วมเป็นเจ้าภาพ” มี“อำนาจ” และมี “สภาประชาชน” ทำให้เป็นจริง “ชาติรุ่งเรือง”

“….การเมืองภาคประชาชน อาทิ”คณะรวมพลังแผ่นดิน” จะต้องสามารถรวมใจเป็นหนึ่งแล้วร่วมกันสร้างสิ่งใหม่ให้เกิดขึ้นบนผืนแผ่นดินไทย ชนิด จาก 0 เป็น 1 จาก”ไม่มี” ไปสู่ “มี” เมื่อนั้น ประเทศไทยก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงแปลงใหญ่ คนไทยจะสามารถรวมกำลังกันทำเรื่องใหญ่ได้สำเร็จไปเรื่อยๆ สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่และอนาคตสดใสได้เกินจินตนาการอย่างยั่งยืน อนาคตของไทย จะไม่หยุดอยู่แค่การพัฒนา หากแต่จะก้าวเข้าสู่ยุคนวัตกรรมที่คนไทยมีความพร้อมที่จะทำงานใหญ่ได้ในแทบทุกด้าน ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเองเสมอและตลอดไป การเคลื่อนไหวปฏิบัติบนพื้นฐานการจัดตั้งมวลชน อะไรอะไรที่”เป็นไปไม่ได้” ก็จะกลับกลายเป็น”ความจริง” เสมอ เรื่องนี้ ประเทศจีนได้แสดงเป็นตัวอย่างให้ชาวโลกเห็นเป็นประจักษ์ พลิกประเทศจีนจากประเทศเลียนแบบมาเป็นประเทศต้นแบบทางด้านอุตสาหกรรมการผลิตในแทบทุกด้าน กระตุ้นให้เศรษฐกิจกิจจีนขยายตัวเติบใหญ่อย่างต่อเนื่องและมั่นคง เฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า5% มิใยที่จะต้องต่อสู้ฟันฝ่ากับการสะกัดขัดขวางของกลุ่มประเทศตะวันตกในแทบทุกย่างก้าวก็ตาม…”

จับทางจีน正视中国
สันติ ตั้งรพีพากร陈俊泰

สามขั้นตอนที่จะต้องทำให้ปรากฏเป็นจริง必完成的三个步骤

จังหวะก้าวสำคัญของการนำไปสู่การสถาปนาระบอบประชาธิปไตยประชาชนอัตลักษณ์ไทย ประกอบไปด้วย”3ต้อง” คือ
1.ประชาชนต้องเป็นเจ้าภาพ
2.ประชาชนที่จัดตั้งกันเข้าต้องเป็นอำนาจกำหนด
3.จะต้องสร้างกลไกอำนาจของตนเอง”สภาประชาชน” ขึ้นมาให้ได้

โดยนัยก็คือ ประชาชนโดยขบวนการการเมืองภาคประชาชน อาทิ”คณะรวมพลังแผ่นดิน” จะต้องสามารถรวมใจเป็นหนึ่งแล้วร่วมกันสร้างสิ่งใหม่ให้เกิดขึ้นบนผืนแผ่นดินไทย ชนิด จาก0เป็น1 จาก”ไม่มี” ไปสู่”มี” เมื่อนั้น ประเทศไทยก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงแปลงใหญ่ คนไทยจะสามารถรวมกำลังกันทำเรื่องใหญ่ได้สำเร็จไปเรื่อยๆ สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่และอนาคตสดใสได้เกินจินตนาการอย่างยั่งยืน

เอาละ เรื่องการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ในบริบทของสังคมโลกที่จีนแสดงบทบาทนำ ผู้เขียนขอจบเพียงแค่นี้ เพื่อให้ทุกอย่างดำเนินไปตามเหตุปัจจัยที่เป็นจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความตื่นรู้ของประชาชนภายใต้การขับเคลื่อนอย่างเป็นเอกภาพของคณะรวมพลังแผ่นดิน ที่มีแนวโน้มจัดตั้งกันเข้าเป็นศูนย์รวมของคนไทยทุกฝ่ายร่วมคิดร่วมทำ เพื่อความเจริญรุ่งเรืองอย่างยั่งยืนของประเทศชาติ และความผาสุกของคนไทยโดยรวม

ซึ่งหมายความว่า อนาคตของประเทศไทย จะไม่หยุดอยู่แค่การพัฒนา หากแต่จะก้าวเข้าสู่ยุคนวัตกรรมที่คนไทยมีความพร้อมที่จะทำงานใหญ่ได้ในแทบทุกด้าน ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเองเสมอและตลอดไป

นี่อาจจะเป็นเพียงความฝันถ้าทุกอย่างยังคงเป็นเช่นเดิม แต่เมื่อนำเอาประวัติศาสตร์และบทบาทของขบวนการการเมืองภาคประชาชนที่จัดตั้งกันได้แล้วมาพิจารณา ทุกอย่างก็จะไม่เหมือนเดิม อะไรอะไรที่บอกว่าเป็นความฝัน พลันก็จะปรากฏเป็นความจริงได้เสมอ

โดยนัยก็คือ ในทัศนะของนักเปลี่ยนแปลง เมื่อเราอยู่กับประวัติศาสตร์ อยู่กับกฎเกณฑ์การขับเคลื่อนของประวัติศาสตร์ เข้าใจบทบาทของมวลชน และดำเนินการเคลื่อนไหวปฏิบัติบนพื้นฐานการจัดตั้งมวลชน อะไรอะไรที่”เป็นไปไม่ได้” ก็จะกลับกลายเป็น”ความจริง” เสมอ

เรื่องนี้ ประเทศจีนได้แสดงเป็นตัวอย่างให้ชาวโลกเห็นเป็นประจักษ์ ซึ่งในสายตาผู้เขียน สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศจีน ถึงที่สุดก็จะส่งผลต่อสังคมโลกโดยรวมอย่างกว้างขวางและลึกซึ้งยาวนาน

มีอะไรบ้างที่สะท้อนถึงแนวโน้มการเป.ลี่ยนแปลงแปลงเช่นนี้?

นี่คือสิ่งที่ผู้เขียนจะขอนำเสนอตั้งแต่บทนี้เป็นต้นไป

เรื่องแรกก็คือเป้าหมายใหญ่ในการสร้างประเทศจีนให้เป็นประเทศที่แข็งแกร่งทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีภายในปีคศ.2035

นี่คือการเดินหน้าต่อของประเทศจีนภายหลังประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการสร้างประเทศจีนให้เป็นประเทศอุตสาหกรรมก้าวหน้าระหว่างปี 2015-2025 ที่พลิกประเทศจีนจากประเทศเลียนแบบมาเป็นประเทศต้นแบบทางด้านอุตสาหกรรมการผลิตในแทบทุกด้าน ที่เด่นชัดที่สุดก็คืออุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ จากรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในมาเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยการพัฒนาแบตเตอรี่รถยนต์จนล้ำหน้าทั้งโลก

ควบคู่กันนั้น โดยเฉพาะในช่วงหลังๆ3-4ปี จีนก็ได้เดินหน้านำระบบการผลิตอัจฉริยะที่อิงอยู่กับเทคโนโลยีการสื่อสาร5-6Gและปัญญาประดิษฐ์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจการผลิตโดยรวมอย่างกว้างขวาง กระตุ้นให้เศรษฐกิจกิจจีนขยายตัวเติบใหญ่อย่างต่อเนื่องและมั่นคง เฉลี่ยปีละไม่ต่ำกว่า5% มิใยที่จะต้องต่อสู้ฟันฝ่ากับการสะกัดขัดขวางของกลุ่มประเทศตะวันตกในแทบทุกย่างก้าวก็ตาม

เป้าหมายใหญ่ของการก้าวไปสู่ความเป็นประเทศชั้นนำเหนือโลกทางด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีภายในปีคศ.2035 มีอะไรบ้าง ผู้เขียนจะขอนำเสนอรายละเอียดในลำดับต่อไป

ไขคำจีน
步骤 ปู้โจ้ว จังหวะก้าว