#โซล่ารูฟท็อป หรือ การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาบ้าน เป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการลดค่าไฟฟ้าของประชาชน และสนับสนุนนโยบายพลังงานสะอาด

ย้อนกลับไปในช่วงที่ “#พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ” รักษาการนายกรัฐมนตรี ประมาณ 30 กว่าวัน คณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของ “#ลุงป้อม” มีมติสำคัญหนึ่งเรื่องที่สร้างความฮือฮา และความหวังต่อภาคประชาชนอย่างมาก
นั่นคือการสนับสนุนให้ติดแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาบ้าน ด้วยระบบ “#หักกลบหน่วยไฟฟ้า” หรือ “#หักกลบลบหน่วย”
หมายความว่า ครัวเรือนสามารถขายไฟฟ้าให้แก่รัฐ ในราคาเดียวกันกับที่ครัวเรือนซื้อไฟฟ้าจากรัฐ
ถ้าซื้อไฟฟ้าจากรัฐในราคาหน่วยละ 4.70 บาท ก็จะขายไฟฟ้าส่วนเกินให้แก่รัฐได้ในราคาหน่วยละ 4.70 บาทเช่นเดียวกัน
ไม่ใช่ใช้ไฟฟ้าจากรัฐในราคาหน่วยละ 4.70 บาท แต่ขายไฟฟ้าส่วนเกินให้รัฐในอัตรา 2.20 บาทต่อหน่วย เหมือนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ด้วยแนวคิดนี้ จะทำให้การติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคาบ้าน มีกำไรและคุ้มทุนรวดเร็ว
นโยบายลุงป้อม จะทำให้ธนาคารรัฐและธนาคารเอกชน พร้อมใจปล่อยสินเชื่อให้ครัวเรือน เพื่อการนี้
เป็นการทำให้ครัวเรือนใช้ไฟฟ้าราคาถูก มีรายได้เสริม โดยรัฐไม่ต้องควักกระเป๋าเอางบประมาณไปอุดหนุน
นโยบายดังกล่าว เป็นการสนับสนุนให้ประชาชนผลิตไฟฟ้าด้วยโซลาร์เซลล์ สำหรับใช้ในบาน และขายไฟฟ้าส่วนเกินให้กับภาครัฐ
ไม่เน้นเปิดประมูลไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ให้แก่ธุรกิจขนาดใหญ่
ด้วยแนวทางดังกล่าว ผสมกับเทคโนโลยีปัจจุบัน ประชาชนจะสามารถผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ แข่งกับโซลาร์ฟาร์มของบริษัทยักษ์ใหญ่ได้อีกด้วย
นอกจากการสนับสนุนชาวบ้าน ติดโซลาร์รูฟท็อปแล้ว “ลุงป้อม” ยังสนับสนุนโครงการ หนึ่งอบต. หนึ่งโซลาร์ฟาร์ม

โดยให้ อบต. หรือ เทศบาล เป็นผู้จัดหาที่ดินประมาณ 5-6 ไร่ และให้ธนาคารของรัฐออกทุนสร้างโซลาร์ฟาร์ม
กำไรหลังจากคืนหนี้ให้แก่ธนาคารของรัฐ ส่วนหนึ่งจะแบ่งให้แก่ อบต. หรือ เทศบาล เพื่อเป็นทุนให้ประชาคมท้องถิ่นนำไปใช้พัฒนาชุมชน
อีกส่วนคืนให้แก่ชุมชนในรูปของการรับซื้อไฟฟ้าในระบบ “หักกลบลบหน่วย”
นโยบายดังกล่าว จะทำให้เงินเข้ากระเป๋าของครัวเรือน หมุนเวียนขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากอย่างแท้จริง
#สืบจากข่าว รายงาน