“….ยิ่งเวลาเปลี่ยนไป จีนก็ยิ่งทำอะไรใหม่ๆได้มากขึ้นและเร็วขึ้น สวนทางกับสหรัฐฯและกลุุ่มประเทศตะวันตกโดยรวมที่รวนเรระส่ำระสาย สะเปะสะปะ นับวันจีนจะทิ้งห่างสหรัฐอเมริกากับโลกตะวะนตกโดยรวมเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ ระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวจีนที่ดีขึ้นเป็นลำดับ จนเป็นที่ชื่นชมของชาวโลก ไม่เคยคิดฝันว่าชีวิตคนจีนจะดีเท่าหรือกระทั่งดีกว่าฝรั่งได้บนโลกนี้ คณะผู้นำจีนสามารถออกแบบอนาคตของชาวโลกได้อย่างไม่เคอะเขิน ยากที่สหรัฐอเมริกาและกลุ่มประเทศตะวันตกจะเทียบทานได้ ในบริบทดังกล่าว กฎเกณฑ์ไทยก็กำลังแสดงพลวัตขับเคลื่อนอย่างรวดเร็ว นั่นคือการก้าวขึ้นมาเป็น”อำนาจกำหนด”ของประชาชนในรูปขบวนการเมืองภาคประชาชน นาม”คณะรวมพลังแผ่นดินฯ” เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงประเทศไทยครั้งใหญ่ ที่ประชาชนทั่วไปสามารถมองเห็นได้ชัดเจนขึ้นในท่ามกลางเหตุการณ์ต่างๆ อย่างเช่นในกรณีกัมพูชารุกรานไทย กลุ่มพรรคการเมืองเกือบทั้งหมดไม่สามารถแสดงบทบาทนำประชาชนต่อต้านการรุกรานของกัมพูชา ตรงกันข้ามกลับเผยให้เห็นโฉมหน้าอัปลักษณ์ที่พวกเขามีต่อกองทัพและชาติบ้านเมือง แสดงตนอยู่ตรงข้ามกับผลประโยชน์ของชาติและประชาชนอย่างชัดเจน ดังนั้น บทบาทนำในการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ถือเอาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นศูนย์กลางจึงตกเป็นของคณะรวมพลังแผ่นดิน ซึ่งนับวันจะได้รับการสนับสนุนจากประชาชนอย่างรวดเร็ว…”
จับทางจีน正视中国
สันติ ตั้งรพีพากร陈俊泰
พลวัตแห่งกฎเกณฑ์ 规律的能动性
ในสายตาผู้เขียน สถานการณ์ของโลกโดยรวมและของประเทศไทยกำลังขับเคลื่อนตัวเองไปสู่อนาคตตามกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน สามารถยกขึ้นมาอธิบายได้ไม่ยาก โดยเฉพาะเมื่อเราใช้เครื่องมือวิเคราะห์ที่ถูกต้อง ก็จะได้คำตอบที่สอดคล้องกับความเป็นจริง ซึ่งก็คือการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกและสังคมไทยที่จะดำเนินไปแบบตรงเป๊ะกับคำวินิจฉัยของเราในทุกขั้นตอน
โดยหลักก็คือ เราจะต้องใช้หลักว่าด้วยคู่ขัดแย้งหลักมาพิจารณา จะต้องจับให้ได้ว่าคู่ขัดแข้งหลักที่กำหนดการขับเคลื่อนของสังคมโลกปัจจุบันนี้คืออะไรกับอะไร? และคู่ขัดแย้งหลักที่กำหนดอนาคตของประเทศไทยคืออะไรกับอะไร?
พิจารณาในมิติพลังการผลิต ซึ่งเป็นปัจจัยกำหนดหลักว่าใครจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำโลกในแต่ละยุคสมัย ปรากฏชัดแล้วว่า ในยุคปัจจุบันที่วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีล้ำสมัยเป็นปัจจัยชี้ขาดในการพัฒนาพลังการผลิต ก็จะพบว่าสหรัฐอเมริกากับสาธารณรัฐประชาชนจีนอยู่ในฐานะคู่ขัดแย้งหลัก ที่ต่อสู้ห้ำหั่นกันชิงความเป็นผู้กำหนดเกมการขับเคลื่อนของสังคมโลก โดยแสดงออกให้เห็นถึงลีลาและแนวโน้มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆว่ากำลังดำเนินไปตามกฎเกณฑ์ที่”ตะวันออกลอยสูง ตะวันตกคล้อยต่ำ”
“ตะวันออก” หลักๆก็คือจีน “ตะวันตก” หลักๆก็คือสหรัฐอเมริกา
จากการวินิจฉัยของคณะผู้นำจีนชุดปัจจุบัน ได้ยืนยันในการดำรงอยู่อย่างเป็นพลวัตของกฎเกณฑ์นี้ โดยชี้ให้เห็นว่าระบอบสังคมนิยมอัตลักษณ์จีน และการกำหนดแผนพัฒนาประเทศทุก5ปี โดยการบริหารจัดการของพรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างสอดคล้องกับทิศทางการขับเคลื่อนของประวัติศาสตร์และความเรียกร้องต้องการของประชาชนชาวจีน ดำเนินนโยบายเปิดกว้างเชื่อมโยงจีนเข้ากับทั้งโลก ควบคู่ไปกับการปฏิรูปกลไกภาครัฐทุกมิติทุกเวลา โดยเฉพาะการยกระดับคุณภาพของบุคลากรทุกแขนงทุกระดับ โดยเริ่มต้นจากการ”ปฏิวัติตัวเอง” ภายในพรรคฯ ทำให้เกิดการยกระดับประสิทธิภาพการทำงานในทุกแขนง ฯลฯ
โดยทั้งหมดนั้นได้กลายเป็นข้อได้เปรียบที่จีนมีอยู่และจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ
จึงไม่แปลกที่เราจะพบว่า ยิ่งเวลาเปลี่ยนไป จีนก็ยิ่งทำอะไรใหม่ๆได้มากขึ้นและเร็วขึ้น สวนทางกับสหรัฐฯและกลุุ่มประเทศตะวันตกโดยรวมที่รวนเรระส่ำระสาย สะเปะสะปะ ไล่ตั้งแต่การสร้างสิ่งสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานทางด้านคมนาคม พลังงาน การสื่อสาร ฯลฯ จิปาถะ นับวันจีนจะทิ้งห่างสหรัฐอเมริกากับโลกตะวะนตกโดยรวมเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในที่สุดก็จะไปแสดงออกที่ระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวจีนที่ดีขึ้นเป็นลำดับ จนเป็นที่ชื่นชมของชาวโลก โดยเฉพาะชาวตะวันตกที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดฝันว่าชีวิตคนจีนจะดีเท่าหรือกระทั่งดีกว่าฝรั่งได้บนโลกนี้
ทั้งนี้มิต้องเอ่ยถึงโครงการอวกาศที่จีนได้กำหนดวันเวลาเดินทางไปตั้งหลักแหล่งบนดวงจันทร์แล้วอย่างชัดเจน รวมทั้งเปิดกว้างให้นานาชาติซึ่งรวมถึงประเทศไทยเข้าร่วมโครงการสำรวจดวงจันทร์นี้ด้วย ตามแนวคิดของจีนที่ว่า คนทั้งโลกจะต้องร่วมกันคิด ร่วมกันทำ ร่วมกันแบ่งปันสิ่งที่เกิดขึ้นเสมอ เพื่อก้าวไปสู่อนาคตอันสดใสร่วมกัน
โครงการอื่นๆที่จีนเป็นผู้ริเริ่ม เช่นโครงการเส้นทางสายไหมทั้งทางบกและทะเล หรือ”หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ที่จะประสานความร่วมมือกันระหว่างประเทศจีนกับประเทศต่างๆทั่วโลก เพื่อช่วยให้การพัฒนาเศรษฐกิจการค้าการลงทุนของประเทศต่างๆขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกันกับจีนและทันกับความก้าวหน้าและทันสมัยรอบด้ายของประเทศจีน
ตามเป้าหมายของจีนที่ว่า ทั่วทั้งโลกจะต้องก้าวไปสู่ความทันสมัยร่วมกัน
ซึ่งจากนี้เราจะเห็นว่า ด้วยพลังการผลิตอันยิ่งใหญ่มหาศาลของจีนนี้ ทำให้คณะผู้นำจีนสามารถออกแบบอนาคตของชาวโลกได้อย่างไม่เคอะเขิน ยากที่สหรัฐอเมริกาและกลุ่มประเทศตะวันตกจะเทียบทานได้
แน่นอน ชาวโลกก็จะขานรับมากขึ้นเรื่อยๆตามระดับระดับความตื่นตัวที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆในยุคการสื่อสารไวเท่าแสงและปัญญาประดิษฐ์ที่ครอบคลุมกว้างขวางขึ้นเรื่อยๆ ยากที่ใครจะปิดกั้นไว้ได้
นี่คือกฎเกณฑ์โลกที่ปรากฏชัดเจน!
ในบริบทดังกล่าว กฎเกณฑ์ไทยก็กำลังแสดงพลวัตขับเคลื่อนอย่างรวดเร็ว นั่นคือการก้าวขึ้นมาเป็น”อำนาจกำหนด”ของประชาชนในรูปขบวนการเมืองภาคประชาชน นาม”คณะรวมพลังแผ่นดินฯ” เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงประเทศไทยครั้งใหญ่ ในฐานะคู่ขัดแย้งหลักของกลุ่มพรรคการเมืองเลือกตั้งที่ถือเอาผลประโนชย์กลุ่มทุนอิทธิพลเป็นสรณะ ที่ประชาชนทั่วไปสามารถมองเห็นได้ชัดเจนขึ้นในท่ามกลางเหตุการณ์ต่างๆ อย่างเช่นในกรณีกัมพูชารุกรานไทย กลุ่มพรรคการเมืองเกือบทั้งหมดไม่สามารถแสดงบทบาทนำประชาชนต่อต้านการรุกรานของกัมพูชา ตรงกันข้ามกลับเผยให้เห็นโฉมหน้าอัปลักษณ์ที่พวกเขามีต่อกองทัพและชาติบ้านเมือง แสดงตนอยู่ตรงข้ามกับผลประโยชน์ของชาติและประชาชนอย่างชัดเจน
ดังนั้น บทบาทนำในการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ถือเอาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นศูนย์กลางจึงตกเป็นของคณะรวมพลังแผ่นดิน ซึ่งนับวันจะได้รับการสนับสนุนจากประชาชนอย่างรวดเร็ว!
ด้วยพลวัตของสองกฎเกณฑ์ระดับโลกและระดับชาติที่กำลังดำเนินไปอย่างขมีขมันและสอดประสานซึ่งกันและกันนี้ ขอให้ทั้งโลกรู็ว่า อนาคตของมวลมนุษชาติย่อมสดใสแน่ อนาคตของประเทศไทยและคนไทยต้องดีแน่!
ไขคำจีน
规律 กุยลซี่ กฎเกณฑ์
