“ถั่วเหลือง” เป็นหนึ่งสินค้าส่งออกของสหรัฐ ตลอด 25 ปีที่ผ่านมา จีนเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ของสหรัฐฯ
ปี 2024 จีนนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐ คิดเป็นหนึ่งในห้า ของการนำเข้าทั้งหมด มูลค่ากว่า 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ มากกว่าครึ่งหนึ่งของการส่งออกถั่วเหลืองสหรัฐ
เมื่อสหรัฐประกาศสงครามการค้า 2.0 กับจีน ทำให้จีนหันไปเพิ่มการค้ากับขั้วโลกใหม่ หนึ่งในนั้นคือ “บริกส์” นำเข้าสินค้าเกษตรสำคัญอย่าง “ถั่วเหลือง” จากบราซิล แทนตลาดเดิมคือสหรัฐ
ปี 2025 นับถึงวันที่ 18 ก.ย. ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรสหรัฐระบุว่า จีนยังไม่ได้ซื้อถั่วเหลืองฤดูกาลใหม่ แม้แต่ตันเดียว!
สื่อท้องถิ่นอเมริกา รายงานว่า เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว ถั่วเหลืองในเซาท์ดาโคตา มีราคาขายอยู่ที่ประมาณ 10.50 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 333 บาท) ต่อบุชเชล (ราว 25.4 กิโลกรัม) แต่ปัจจุบันราคากลับลดลงไป 1-1.50 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 32-48 บาท) เหลือ 9-9.50 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 286-301 บาท) เผชิญวิกฤตภาคการเกษตร เนื่องจากต้นทุนการผลิตสูงแซงหน้าราคาขาย
ขณะเดียวกัน เกษตรกรในท้องถิ่น ต้องแบกรับต้นทุนภาษีที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เช่น ภาษีนำเข้าเพิ่มเติม สำหรับเครื่องจักรและอุปกรณ์การเกษตร มูลค่า 1.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 44.4 ล้านบาท)
ความเดือดร้อนของกลุ่ม “เกษตรกรสหรัฐ” กดดัน โดนัลด์ ทรัมป์ ต้องติดต่อ สีจิ้นผิง เพื่อเจรจานอกรอบ ในการประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปก ที่เมืองคยองจู ประเทศเกาหลีใต้ ในวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย. 2025
ปธน.ทรัมป์โพสต์ข้อความบน Truth Social ระบุว่า หัวข้อสำคัญของการหารือระหว่างเขาและปธน.สี จะเป็นเรื่องถั่วเหลือง เนื่องจากตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จีนได้ยุติการซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐ และหันไปซื้อจากผู้ผลิตในบราซิล และประเทศอื่น ๆ
ไม่ใช่เฉพาะถั่วเหลืองเท่านั้น แต่สินค้าเกษตรอื่นๆอย่างข้าวโพด ข่าวสาลี ข้างฟ่าง ก็เริ่มถูกจีนลดออเดอร์ลงเรื่อยๆ โดยหันไปนำเข้าจากประเทศอื่น โดยเฉพาะประเทศใกล้เคียงอย่างเวียดนาม และ ลาว
หลายคนมองว่า หาก สีจิ้นผิง กับ โดนัลด์ ทรัมป์ พบกันในเวทีเอเปก นอกจากการพูดคุยในประเด็น “ถั่วเหลือง” แล้ว
ข้อแลกเปลี่ยนที่จีนต้องหยิบยกมาเจรจาคือ สหรัฐต้องหยุดแทรกแซง “ไต้หวัน” อย่างเด็ดขาด
โดยจีนมองว่า ไต้หวันเป็นดินแดนของตนเอง และถือเป็น “ประเด็นสำคัญและละเอียดอ่อนที่สุด” บนความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐ ซึ่งรัฐบาลสหรัฐควรยึดมั่นในหลักการ “จีนเดียว”
ทรัมป์จะเลือกอะไร ระหว่างปากท้องของคนอเมริกัน กับ การสร้างอำนาจนอกภูมิภาค!