“…สังคมขับเคลื่อนไม่หยุดด้วยพลังการผลิต เป็นไปตามเจตนารมณ์ของยุคสมัย เรียกกันทั่วไปว่า “ยืนอยู่บนความถูกต้องของประวัติศาสตร์” คือการ “ถือเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง” ไม่ว่าจะปกครองด้วยระบอบอะไรก็จะพัฒนาได้ดีกว่าเสมอ และเมื่อนำเอากรอบความคิดความเข้าใจในเรื่อง “ระบบนิเวศ” มาตีความ ก็หมายถึงว่าสังคมใดที่บริหารจัดการได้ราบรื่น แต่ละส่วนขององคาพยพต่างได้แสดงบทบาทเสริมส่งซึ่งกันและกัน จนกระทั่งเกิดผลรวมไปที่ความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติและความอยู่ดีกินดีของประชาชน ก็แสดงว่าระบบนิเวศของสังคมนั้นเข้มแข็งสมบูรณ์ ซึ่งก็คือเป้าหมายร่วมกันของการพัฒนาประเทศให้เจริญ สังคมศิวิไลซ์ ประชาชนเป็นสุข บนผิวโลกของเราวันนี้ มีประเทศไหนบ้างสามารถพัฒนาระบบนิเวศทางการปกครองได้ดีเยี่ยม…”
จับทางจีน 正视中国
สันติ ตั้งรพีพากร 陳俊泰
ระบบนิเวศทางการเมืองไปสู่อนาคต 面向未来的政治生态
ปัจจุบันนี้ มีกรอบความคิดความเข้าใจชนิดหนึ่งที่แทบทุกวงการนิยมนำไปปรับใช้ในการสร้างกลไกขับเคลื่อนสิ่งที่ตนกำลังดำเนินการอยู่ เล็กตั้งแต่การสร้างหลักสูตรการเรียนการสอน ใหญ่ไปจนถึงระบบการบริหารประเทศ หรือกระทั่งการจัดระเบียบสังคมโลก เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายยาวไกลที่ตั้งไว้
กรอบความคิดความเข้าใจที่ว่านั้นก็คือ “ระบบนิเวศ”
ทุกอย่างในการขับเคลื่อนดูเหมือนจะต้องสร้าง “ระบบนิเวศ” ขึ้นมารองรับ จึงจะดำเนินไปได้ดี
โดยเฉพาะในวงการวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น บริษัทหัวเหวยพัฒนาระบบปฏิบัติการ “หงเหมิ่ง” ในการสื่อสารเคลื่อนที่ ก็ต้องสร้างระบบนิเวศขึ้นมารองรับ โดยการเข้ามามีส่วนร่วมในการใช้บริการของบริษัทโทรศัพท์เคลื่อนที่ใหญ่ๆ หรือกิจการรถแท็กซี่ไร้คนขับในเมืองต่างๆ ของจีน ก็ดำเนินไปได้ด้วยการส่งเสริมของภาครัฐ สร้างโครงสร้างพื้นฐาน เช่น เสาสัญญาณตามจุดต่างๆ ของเส้นทางวิ่ง ที่สามารถนำทางได้โดยสะดวก ซึ่งก็ดำเนินไปในกรอบความคิดความเข้าใจในการสร้างระบบนิเวศ
แม้กระทั่ง เอไอ DeepSeek ของจีน ก็ใช้การเปิดให้บริการแบบเปิดกว้าง หรือ open source เพื่อนำไปสู่การสร้างระบบนิเวศที่ครอบคลุมทั้งโลก เหนือคู่แข่ง
จากนี้ ผู้เขียนขอนำกรอบความคิดความเข้าใจนี้มาวิเคราะห์สังคมและการเมืองในยุคปัจจุบัน เพื่อหาคำตอบที่สอดคล้องกับการพัฒนาของประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติที่สุด
สังคมขับเคลื่อนไม่หยุดด้วยพลังการผลิต ขณะเดียวกันก็ปรับเปลี่ยนระบบการบริหารจัดการหรือระบบการปกครองให้สอดคล้องไปด้วยกัน โดยการนำของกลุ่มคณะหรือพรรคการเมืองที่ครองอำนาจ กำหนดการเปลี่ยนแปลงให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของยุคสมัย
เรียกกันทั่วไปว่า “ยืนอยู่บนความถูกต้องของประวัติศาสตร์”
มาถึงยุคนี้เนื้อหาสาระสำคัญของการยืนอยู่บนความถูกต้องของประวัติศาสตร์ก็คือการ “ถือเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง”
ประเทศที่มีการปกครองหรือบริการจัดการที่ถือเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ว่าจะปกครองด้วยระบอบอะไรก็จะพัฒนาได้ดีกว่าเสมอ
เมื่อนำเอากรอบความคิดความเข้าใจในเรื่อง “ระบบนิเวศ” มาตีความ ก็หมายถึงว่าสังคมใดที่บริหารจัดการได้ราบรื่น แต่ละส่วนขององคาพยพต่างได้แสดงบทบาทเสริมส่งซึ่งกันและกัน จนกระทั่งเกิดผลรวมไปที่ความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติและความอยู่ดีกินดีของประชาชน ก็แสดงว่าระบบนิเวศของสังคมนั้นเข้มแข็งสมบูรณ์
อีกนัยหนึ่ง การทำให้ระบบนิเวศทางการเมืองของประเทศหนึ่งๆ เข้มแข็งสมบูรณ์ ก็คือเป้าหมายร่วมกันของการพัฒนาประเทศให้เจริญ สังคมศิวิไลซ์ ประชาชนเป็นสุข
ท่านผู้อ่านลองใช้เครื่องมือ “ระบบนิเวศ” นี้ส่องดูว่า บนผิวโลกของเราวันนี้ มีประเทศไหนบ้างสามารถพัฒนาระบบนิเวศทางการปกครองได้ดีเยี่ยม
เผื่อจะได้เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ประเทศไทยเรา!
ไขคำจีน 生态 เซิงไท่ ระบบนิเวศ



